ความรู้สึกมากมายประดังประเดเข้ามาภายในใจเธอ ทันใดนั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงบางสิ่งปริแตกออกมา ก่อนที่รถคันนั้นจะระเบิด
เมื่อเห็นว่าเมเดลีนไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ อีวอนแทบจะระเบิดความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดออกมา
“เมเดลีน ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะ...”
ตู้ม!
“อ๊า!”
เจเรมี่ถีบอีวอนออกไปและดึงตัวเมเดลีนเข้ามาในอ้อมแขน จากนั้นเขาก็วิ่งตรงไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ลินนี่ วิ่งเร็ว! รถกำลังจะระเบิดแล้ว!”
‘อะไรนะ?
‘รถกำลังจะระเบิดอย่างนั้นเหรอ?’
ตอนนี้เมเรดิธยังคงถูกมัดไว้อยู่กับต้นไม้ เมื่อได้ยินคำว่าระเบิดแว่วเข้าหู เธอตะลึงงันด้วยความกลัว
จากนั้น เพียงพริบตาเดียว สะเก็ดเพลิงเป็นประกายและเกิดเสียงระเบิดครั้งใหญ่ก็ดังก้องไปทั่ว
ตู้ม!
แรงลมจากการระเบิดครั้งนี้รุนแรงเสียจนต้นไม้ใบหญ้าบริเวณโนรอบล้มระเนระนาดไปกับพื้น
เจเรมี่อุ้มลิเลียนไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งก็โอบกอดเมเดลีนเอาไว้ เขาพยายามที่จะปกป้องสองคนแม่ลูกไว้ในอ้อมแขนของเขา
หลังจากนั้น ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
เมเดลีนเงยหน้าขึ้น และสิ่งแรกที่เธอเห็นคือบาดแผลบริเวณหลังของเจเรมี่ มีดเล่มนั้นยังคงปักคาอยู่ตรงไหล่ของเขา และบาดแผลนี้บอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าอีวอนใช้แรงมากมายขนาดไหนในการปักมีดเข้ามา ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าอีวอนต้องการให้เธอตายมากแค่ไหน
“ลินนี่ ลิลลี่หมดสติไปแล้ว ตอนนี้เราไปโรงพยาบาลกันก่อนเถอะ” เมเดลีนเพิ่งตระหนักได้ว่าลิเลียนหมดสติไปแล้วก็ตอนที่เจเรมี่บอกเธอ
เธอรีบร้อนขึ้นรถของเจเรมี่ และไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่สักวินาทีเดียวอีกเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
หลังจากเฟลิเป้ได้รับข่าว เขาก็รีบตรงดิ่งมายังสถานที่เกิดเหตุก่อนที่จะเกิดระเบิดเพียงอึดใจเดียว จากนั้นเขาก็เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะลงมาจากรถ
ทั้งสามชีวิตรอดออกมาจากเหตุการณ์วิกฤตในครั้งนี้ได้ด้วยสภาพที่มือข้างหนึ่งของเจเรมี่อุ้มลิเลียนอยู่ และอีกข้างหนึ่งโอบกอดเมเดลีนเอาไว้
อย่างไรก็ตาม เขาคาดไม่ถึงว่าเมเดลีนจะกังวลเกี่ยวกับเจเรมี่เป็นสิ่งแรกทันทีที่รอดตายมาได้
เฟลิเป้กำพวงมาลัยแน่นและความมืดมนก็ปรากฏอยู่ภายในดวงตา
‘ทำไมคุณถึงยังเป็นห่วงมันอยู่อีก?’
“ทำไมกัน?” เฟลิเป้เอ่ยถาม เขาทำใจยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้
เขาทุบแก้วไวน์ในมืออย่างแรงจนเศษแก้วแตกละเอียดคามือ เพียงพริบตา เลือดสีแดงก็เริ่มไหลทะลักออกมาจากร่องนิ้วมือทั้งห้า แต่ตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย
เมื่อเห็นเช่นนั้น เคธี่จึงเดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลในมือ “เฟลิเป้คะ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เลย” เธอพูดกับเขาพลางรู้สึกสงสารชายหนุ่มตรงหน้า เมื่อเห็นเลือดไหลรินออกจากฝ่ามือของเขา เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจดวงน้อยของเธออาบไปด้วยเลือดเช่นกัน
เฟลิเป้ปัดมือเธออกไปอย่างแรง “ออกไปให้พ้น”
“ฉันไม่ยอมทิ้งคุณไปไหนหรอกค่ะ โดยเฉพาะตอนที่คุณอารมณ์ไม่ดีแบบนี้” เคธี่จ้องมองเฟลิเป้ด้วยสายตาอันมุ่งมั่น หลังจากนั้น เธอจับมือของเขาขึ้นมาทำแผล
สายตาของเฟลิเป้ดำมืดขึ้นเรื่อย ๆ เขาใช้มือที่เปื้อนเลือดข้างนั้นจับคางของเคธี่ขึ้นมา ขณะที่ประกายแสงแห่งความมุ่งร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาอันโกรธเกี้ยวของเขา
“คิดว่าการที่มาดูแลเอาใจฉันแบบนี้ ฉันจะชอบเธอขึ้นมาหรือไง? ขอบอกอะไรไว้สักอย่างนะ อย่าแม้แต่จะคิด”
“แต่ว่าฉันอยากจะคิดนะคะ” เธอจับจ้องดวงตาอันเย็นชาของเขา กลับกัน ดวงตาของเธอส่องประกายแสงแห่งความหลงใหลและไฟรักที่ไม่มีวันมอดดับไปให้เขา
เฟลิเป้ถอยหลังไปทีละนิด แต่วินาทีต่อมา เคธี่ก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เขาอย่างอาจหาญและบรรจงจูบบนริมฝีปากของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...