‘แต่คุณจะรู้เรื่องนั้นได้ยังไงล่ะ เจเรมี่? ครั้งนั้น ฉันไล่คุณไปเพียงเพื่อช่วยคุณ’
‘ในตอนนี้ คุณคิดว่าฉันได้เปลี่ยนใจไปแล้วและเล่นตลกกับคุณ’
เธอแตะชื่อบนการ์ดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับตาที่เริ่มแดง
“เจเรมี่ คุณจะมีความสุขอย่างแน่นอนถ้าคุณรู้ว่าลิเลียนยังมีชีวิตอยู่”
หลังจากที่มี่ความคิดที่แสนเจ็บปวดเหล่านี้ เมเดลีนหยิบดินสอขึ้นมาอีกครั้งและวาดความคิดทั้งหมดของเธอลงไปในแบบ
ในวันต่อมา เธอส่งแบบให้กับเจเรมี่
ระยะเวลาผ่านไปนาน แต่เขาก็ยังคงไม่ตอบกลับ นี่ให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนนั้นที่เขาเคยเมินเฉยต่อเธอ
ในตอนใกล้ค่ำ ในที่สุดเมเดลีนก็ได้รับการตอบกลับของเจเรมี่ ในการตอบกลับของเขา เขากล่าวถึงความไม่พอใจและขอให้เธอออกแบบขึ้นมาใหม่
เพื่อที่จะทำตามความคิดเจเรมี่ เมเดลีนจึงออกแบบขึ้นมาใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าหลังจากจะแก้ไขมันไปกี่ครั้ง เจเรมี่ก็ยังคงไม่พอใจ เขาย้ำกับเธอว่าเขายุ่งมากและไม่อยากให้เธอส่งงานที่คุณภาพต่ำเช่นนี้ให้กับเขาราวกับว่ามันจะทำให้เขาเสียเวลาอันล้ำค่าเพื่อดูแบบร่างทั้งหมด
เมเดลีนรู้สึกว่าเจเรมี่พยายามที่จะสร้างปัญหาให้กับเธอย่างจงใจ เธอตั้งสติ เก็บไอแพ็ดและกระดาษวาดภาพ จากนั้นก็มุ่งตรงไปยังออฟฟิศปัจจุบันของเจเรมี่
มันเป็นบริษัทที่เจเรมี่ตั้งขึ้นโดยการใช้ชื่อของเขา ตึกนั้นอยู่ใกล้กับบริษัท วิทแมน หลังจากที่ข้ามถนนไปไม่กี่สายเธอก็มาถึงที่ออฟฟิศของเขา
เธอเดินฉุยฉายไปยังโต๊ะทำงานส่วนหน้าและแนะนำตัวอย่างสุภาพ “ดิฉันเป็นนักออกแบบซึ่งมาที่นี่เพื่อช่วยคุณวิทแมนออกแบบแหวนแต่งงานของเขาค่ะ นี่คือนามบัตรของดิฉัน ดิฉันได้แจ้งกับคุณวิทแมนไว้แล้วว่าฉันมาที่นี่เพื่อหารือเรื่องแบบกับเขา คุณช่วยส่งต่อข้อความนี้ให้กับเขาได้ไหมคะ?”
“ได้ค่ะ ได้โปรดรอสักครู่นะคะ” ผู้หญิงที่อยู่ตรงโต๊ะทำงานส่วนหน้ารับนามบัตรของเมเดลีนและเดินเข้าไปในออฟฟิศของเจเรมี่
ทันใดนั้น หญิงคนนั้นก็กลับมา “ขอโทษนะคะ คุณมอนต์โกเมอรี ตอนนี้คุณวิทแมนกำลังมีประชุมอยู่ค่ะ ถ้าคุณไม่รีบ คุณรออยู่ตรงนี้สักครู่ได้นะคะ”
“ได้ค่ะ งั้นฉันจะรอตรงนี้นะคะ”
เมเดลีนนั่งลงและรออยู่เงียบ ๆ ในขณะที่จ้องมองนาฬิกา
เจเรมี่กำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศของเขา จ้องดูเทปวงจรปิดของห้องโถงด้วยท่าทางที่ไร้ความกังวล
เมเดลีนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เธอกำลังนั่งอยู่ในห้องโถงและรออย่างไม่มีจุดสิ้นจุด
เจเรมี่ที่มีท่าทีที่ไร้ความรู้สึกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและแตะลงในแอปข้อความ
เมเดลีนลุกขึ้นไปที่โต๊ะทำงานส่วนหน้าอีกครั้ง แต่คำตอบก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม เจเรมี่ยังคงอยู่ในการประชุม ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่รอ
ที่จริงแล้ว เจเรมี่ไม่ได้ยุ่งเลยด้วยซ้ำ เจเรมี่กำลังจ้องดูเธอผ่านทางกล้องวงจรปิดตลอดเวลาที่เมเดลีนกำลังรออยู่ในห้องโถง
เมเดลีนง่วงนอนแล้วจู่ ๆ ก็มีผ้าห่มมาคลุมตัวเธอไว้โดยที่เธอไม่รู้ตัว
มันเป็นเวลาหกโมงเย็น ผู้หญิงที่อยู่ที่โต๊ะทำงานส่วนหน้าได้ออกจากที่ทำงานไปตั้งนานแล้ว
เธอคาดไม่ถึงว่าจะต้องรอตลอดทั้งช่วงบ่าย
เมเดลีนลุกขึ้นกำลังจะเข้าไปในออฟฟิศเพื่อตามหาเจเรมี่ ทันทีที่เธอหมุนตัวไป เจเรมี่ก็ออกมาจากออฟฟิศของเขา
เธอเดินเขาไปหาเขาด้วยท่าทีจริงจัง “คุณวิทแมน คุณประชุมเสร็จแล้วใช่ไหม? เรามาพูดถึงเรื่องแบบกันได้ไหม?”
สายตาเหยียดหยามของเจเรมี่ได้มองผ่านใบหน้าของเมเดลีน “คู่หมั้นของผมกำลังรอรับประทานมื้อค่ำใต้แสงเทียนกับผมอยู่ ผมยังไม่ว่างในตอนนี้ครับ ถ้าคุณไม่ติดอะไร คุณรอตรงนี้ต่อก็ได้นะ หลังจากที่ผมรับประทานมื้อค่ำเสร็จ ผมถึงจะว่าง” หลังจากนั้นเขาก็เดินผ่านเธอไป
เมเดลีนจ้องที่แผ่นหลังของเขา หลังจากนั้นก็ตามเขาไป “ฉันได้วาดแบบให้กับคุณตั้งมากมาย แต่ก็ไม่มีอันไหนถูกใจคุณเลย ฉันรอคุณมาตลอดทั้งช่วงบ่ายและคุณก็จะออกไปแบบนี้งั้นเหรอ? เจเรมี่ วิทแมน คุณกำลังล้อฉันเล่นใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ
1...
1...
1...
นางเอกโคตรโง่เลย เชื่อผู้ชายคนนี้ได้ไง ก็รู้อยู่ว่าเขานิสัยไม่ดีและจะแย่งตัวเองมาจากสามี ดันไปเชื่อมัน เอายามาแอบฉีดให้สามีเฉยเลย แทนที่จะปรึกษากันก่อน...
ต่อให้ทำผิดแล้วก็ไม่ควรให้อภัยอ่ะ เพราะมันเลวมาก รู้ว่านังเมอร์ทำชั่ว แต่ก็ช่วยปกปิดสารพัด ขนาดฆ่าคนตาย ยังยึดหลักฐานไป ปล่อย ห้นางเอกรับโทษแทนตั้งสามปี ไม่เคยมาดูดำดูดี พอออกมาได้ก็ยังทุบตีสารพัด ไม่เข้าใจว่านางเอกจะกลับมารักได้ไง...
หวาดเสียวว่านางเอกจะกลับมารักสามีเก่า โอ่ย ไม่ไหวนะ ต้องท่องไว้ว่ามันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจไว้หนักหนาสาหัส ทำลูกตายด้วยนะ ทำลายหลุมศพปู่กับลูกอีก...
ทำไมไม่เอาหลักฐานให้ลุง ลุงเป็นคนดี ต้องเชื่ออน่นอน มีอำนาจด้วย ช่วยคุยกับตำรวจได้...
อ้าว รีบบอกพ่อแม่สิ จะปล่อยอีชั่วนี่ไว้กับพ่อแม่ได้ไง...
เรื่องนี้อ่านแล้วโคตรโมโห นางเอกน่าจะฆ่าแม่งให้หมดทุกตัวเลย อย่าให้เป็นว่ายกโทษให้สามีนะ...
อย่าได้กลับไปอยู่กับสามีเลย ชั่วช้าขนาดนั้น ต้องแก้แค้นให้สาสม...