สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าพลังโจมตีของเธอแข็งแกร่งขึ้นหรือเพราะความเจ็บป่วยของเฉินลู่ เขาจึงพ่ายแพ้ให้กับเธอ
และเขายังมีความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวด
อันที่จริง หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว การทะเลาะกันก็ดูไร้ซึ่งความหมาย หลังจากวิเคราะห์อย่างรอบคอบแล้ว เฉินลู่แค่อยากให้เธอไปเยี่ยมเขา เขาเรียกหาเธอโดยไม่เรียกหาโจวอี้ นั่นอาจทำให้เธอรู้สึกได้เปรียบกว่าเล็กน้อย
เมื่อเขาพูดถึงลั่วจือเห้อ มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะอิจฉาที่เธอมีเวลาดูแลคนอื่น แต่กลับไม่ได้สนใจเขา และเธอยังจงใจพูดว่าลั่วจือเห้อดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ อันที่จริงนอกจากโกรธเขาแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรอย่างอื่นเลย
แต่ในเวลานั้นสวีซุ่ยหนิงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาเอาแต่ยื้อเวลา ไม่เต็มใจที่จะบอกสิ่งที่เขาแบ่งปันกับโจวอี้ ซึ่งทำให้เธอโกรธอยู่ในใจจนระเบิดออกมา
คืนนั้นสวีซุ่ยหนิงนอนไม่หลับ
หลังจากหลับไปในที่สุด เฉินลู่ที่ปรากฏตัวขึ้นในความฝันของเธอมีใบหน้าขาวซีด ราวกับว่าเขากำลังจะตาย
สวีซุ่ยหนิงตกใจตื่น
สวีซุ่ยหนิงทำงานวันที่สองด้วยจิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
สวีซุ่ยหนิงครุ่นคิดเป็นเวลานานว่าเฉินลู่คิดอะไรกับเธอกันแน่ ดูเหมือนจะมีความรู้สึกที่ต่างออกไป
เมื่อเห็นเธอตกอยู่ในภวังค์ หัวหน้าก็พูดติดตลกว่า “กำลังคิดอะไรอยู่?”
สวีซุ่ยหนิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า "ทะเลาะกันค่ะ"
เธอเล่าเรื่องทั้งหมดคร่าวๆ
หัวหน้าคิดอย่างเงียบๆครู่หนึ่งและตอบกลับไปว่า “ผู้ชายน่ะไม่ว่าอายุเท่าไรต่างก็ขาดความรัก มีเรื่องอะไรก็บอกพ่อไม่ได้ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชายด้วยกันทำได้เพียงแค่เข้มแข็ง แสงถึงด้านที่มีความรับผิดชอบ ดังนั้นผู้ชายส่วนมากจึงไปหาแม่มากกว่า เมื่อพวกเขาโตขึ้นก็หาภรรยา พูดง่ายๆคือหาผู้หญิงที่อยู่ใกล้ชิดมากที่สุด เฉินลู่ต้องการให้คุณอยู่เคียงข้างเขานะ”
สวีซุ่ยหนิงทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่ “มอบถ่านให้กลางหิมะ” [1] ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะน่าซาบซึ้งใจดีนะ
หลังเลิกงานเย็นนั้น เธอก็ขอลาหยุดกับหัวหน้า
...
หลังจากการทะเลาะกันของเฉินลู่กับสวีซุ่ยหนิง เมื่อเขาตื่นขึ้นก็พบว่าลำคอของเขาไม่สามารถส่งเสียงได้และยังอักเสบอย่างรุนแรงอีกด้วย
ไข้ขึ้นสูงไม่ลดลง แถมยังขึ้นๆ ลงๆ อาการไอเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องฝืนเดินอย่างลำบาก
เนื่องจากอาการไม่ทุเลาลง เขาจึงไปเจาะเลือดเพื่อตรวจดู
ระหว่างรอผล พยาบาลยืนอยู่ข้างๆ เขา โดยที่เธอไม่รู้ว่าเมื่อคืนเขาทะเลาะกับใคร เธอรู้แค่ว่าหลังจากทะเลาะเสร็จ เขาก็นั่งนิ่งๆโดยไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย
จนกระทั่งวันนี้เขาป่วยหนักมากขึ้น ความกดอากาศต่ำปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขา
พยาบาลก็ไม่กล้าถามอะไรมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...