เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 110

สรุปบท บทที่110 ห่วงใย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปตอน บทที่110 ห่วงใย – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

ตอน บทที่110 ห่วงใย ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าพลังโจมตีของเธอแข็งแกร่งขึ้นหรือเพราะความเจ็บป่วยของเฉินลู่ เขาจึงพ่ายแพ้ให้กับเธอ

และเขายังมีความรู้สึกผิดหวังและเจ็บปวด

อันที่จริง หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว การทะเลาะกันก็ดูไร้ซึ่งความหมาย หลังจากวิเคราะห์อย่างรอบคอบแล้ว เฉินลู่แค่อยากให้เธอไปเยี่ยมเขา เขาเรียกหาเธอโดยไม่เรียกหาโจวอี้ นั่นอาจทำให้เธอรู้สึกได้เปรียบกว่าเล็กน้อย

เมื่อเขาพูดถึงลั่วจือเห้อ มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะอิจฉาที่เธอมีเวลาดูแลคนอื่น แต่กลับไม่ได้สนใจเขา และเธอยังจงใจพูดว่าลั่วจือเห้อดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ อันที่จริงนอกจากโกรธเขาแล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรอย่างอื่นเลย

แต่ในเวลานั้นสวีซุ่ยหนิงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาเอาแต่ยื้อเวลา ไม่เต็มใจที่จะบอกสิ่งที่เขาแบ่งปันกับโจวอี้ ซึ่งทำให้เธอโกรธอยู่ในใจจนระเบิดออกมา

คืนนั้นสวีซุ่ยหนิงนอนไม่หลับ

หลังจากหลับไปในที่สุด เฉินลู่ที่ปรากฏตัวขึ้นในความฝันของเธอมีใบหน้าขาวซีด ราวกับว่าเขากำลังจะตาย

สวีซุ่ยหนิงตกใจตื่น

สวีซุ่ยหนิงทำงานวันที่สองด้วยจิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

สวีซุ่ยหนิงครุ่นคิดเป็นเวลานานว่าเฉินลู่คิดอะไรกับเธอกันแน่ ดูเหมือนจะมีความรู้สึกที่ต่างออกไป

เมื่อเห็นเธอตกอยู่ในภวังค์ หัวหน้าก็พูดติดตลกว่า “กำลังคิดอะไรอยู่?”

สวีซุ่ยหนิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า "ทะเลาะกันค่ะ"

เธอเล่าเรื่องทั้งหมดคร่าวๆ

หัวหน้าคิดอย่างเงียบๆครู่หนึ่งและตอบกลับไปว่า “ผู้ชายน่ะไม่ว่าอายุเท่าไรต่างก็ขาดความรัก มีเรื่องอะไรก็บอกพ่อไม่ได้ เวลาอยู่ต่อหน้าผู้ชายด้วยกันทำได้เพียงแค่เข้มแข็ง แสงถึงด้านที่มีความรับผิดชอบ ดังนั้นผู้ชายส่วนมากจึงไปหาแม่มากกว่า เมื่อพวกเขาโตขึ้นก็หาภรรยา พูดง่ายๆคือหาผู้หญิงที่อยู่ใกล้ชิดมากที่สุด เฉินลู่ต้องการให้คุณอยู่เคียงข้างเขานะ”

สวีซุ่ยหนิงทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่ “มอบถ่านให้กลางหิมะ” [1] ดูเหมือนว่าวิธีนี้จะน่าซาบซึ้งใจดีนะ

หลังเลิกงานเย็นนั้น เธอก็ขอลาหยุดกับหัวหน้า

...

หลังจากการทะเลาะกันของเฉินลู่กับสวีซุ่ยหนิง เมื่อเขาตื่นขึ้นก็พบว่าลำคอของเขาไม่สามารถส่งเสียงได้และยังอักเสบอย่างรุนแรงอีกด้วย

ไข้ขึ้นสูงไม่ลดลง แถมยังขึ้นๆ ลงๆ อาการไอเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องฝืนเดินอย่างลำบาก

เนื่องจากอาการไม่ทุเลาลง เขาจึงไปเจาะเลือดเพื่อตรวจดู

ระหว่างรอผล พยาบาลยืนอยู่ข้างๆ เขา โดยที่เธอไม่รู้ว่าเมื่อคืนเขาทะเลาะกับใคร เธอรู้แค่ว่าหลังจากทะเลาะเสร็จ เขาก็นั่งนิ่งๆโดยไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย

จนกระทั่งวันนี้เขาป่วยหนักมากขึ้น ความกดอากาศต่ำปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขา

พยาบาลก็ไม่กล้าถามอะไรมาก

เฉินลู่ยังคงกัดกรามแน่น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจเธอ

สวีซุ่ยหนิงหันไปหาพยาบาลอีกครั้งและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พวกคุณมาตรวจที่นี่เหรอคะ? ผลจะออกเมื่อไร? ฉันจะรับให้เองค่ะ"

พยาบาลชี้ไปที่เครื่องที่อยู่ไม่ไกล

สวีซุ่ยหนิงกำลังจะเดินไป แต่เฉินลู่เหลือบมองพยาบาล นั่นเป็นการส่งสัญญาณว่าเธอต้องเป็นคนไป

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ

สวีซุ่ยหนิงยังคงนั่งยองๆอยู่ข้างหน้าเขาและพูดเบาๆ "เฉินลู่"

เขามองดูเธอครู่หนึ่งแล้วตอบในลำคอ “อืม”

แต่สวีซุ่ยหนิงรู้ได้จากการของเขาว่าเสียงแทบจะไม่มีอยู่แล้ว

เธอขมวดคิ้วและพูดว่า “อาการหนักขนาดนี้เลยเหรอ?”

ใบหน้าของเฉินลู่ยังคงซีดขาว และกล่าวว่า "เธอไม่ต้องดูแลลั่วจือเห้อแล้วหรือไง?"

สวีซุ่ยหนิงอ่านปากของเขาอย่างระมัดระวังและเข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ เธอตอบว่า "ฉันแค่ไปส่งเขาเฉยๆ วันนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ดูแลเขาสักหน่อย"

มอบถ่านให้กลางหิมะ [1] เปรียบเปรยว่าการให้ความช่วยเหลือในยามที่คนคับขันได้อย่างทันท่วงที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน