ในเวลานี้น้ำเสียงของสวีซุ่ยหนิงไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย ท่าทีของเธอดูเกียจคร้านที่จะสนใจเขา ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเขาด้วยซ้ำ เธอหันหลังและเอ่ยกับเขา "อาหารขยะพวกนี้กินหรือไม่กินก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน นายหิวก็อดเอาสิ"
เฉินลู่เอ่ยถามด้วยท่าทีเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ "เธอจะไม่สนใจฉันจริงๆเหรอ?"
สวีซุ่ยหนิงเพิกเฉยต่อเขาด้วยท่าทีจริงจัง เธอนั่งลงบนโต๊ะพร้อมกับอาหารที่อุ่นร้อนแล้ว
เฉินลู่ไม่ได้เอ่ยอะไร เขานั่งลงข้างเธอพลางจ้องมองเธอ
ความเร็วในการกินของสวีซุ่ยหนิงค่อยๆเชื่องช้าลง ผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง เธอลุกขึ้นไปค้นหาของในตู้เย็น เธอเห็นวัตถุดิบและหันกลับมามองเขา เธอเอ่ย "นายอยากกินอะไร?"
ท้ายที่สุดเธอก็ต้องสนใจเขา
นี่คือความคาดหวังของเฉินลู่เช่นกัน
เขาเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ "ได้ยินว่าเธอทำโจ๊กทะเลอร่อยนี่"
เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเพิ่งทำให้ลั่วจือเห้อ สวีซุ่ยหนิงอดสงสัยไม่ได้ว่านี่เขาจงใจใช่หรือไม่ หลังจากที่จ้องมองเขาอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เธออ่านสายตาของเขาออกอย่างชัดเจน ท่าทีของเขานั้นแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าเขาจงใจ
สวีซุ่ยหนิงไม่ได้เอ่ยปาก ภายในใจของเธอกำลังครุ่นคิด ไม่รู้ว่าตอนนี้ลั่วจือเห้อจะเป็นอย่างไรบ้าง
เธอเหม่อลอยไปครู่ใหญ่ สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือการทำโจ๊กให้กับชายผู้หิวโหยที่นั่งอยู่ไม่ไกล
หลังจากสวีซุ่ยหนิงวุ่นวายอยู่พักใหญ่ เฉินลู่ก็เดินเข้ามา เขาพิงประตูและมองดูเธอ
เธอชำเลืองมองพลางเอ่ย "นายไปหยิบเสื้อคลุมมา"
เฉินลู่ทำตามคำกล่าว เมื่อเขาเข้ามาในมือของเขาถือเสื้อไว้ตัวหนึ่งและมอบให้เธอ
การต้มโจ๊กค่อนข้างใช้เวลา ระหว่างรอ เฉินลู่เปิดทีวี เธอเองก็ลงนั่งข้างกายเขาและกินอาหารของเธอต่อ อาจจะเป็นเพราะว่าอาหารของคนอื่นมักจะอร่อยกว่าเสมอ เขาโน้มตัวเข้ามาและกินอาหารของเธอไปหนึ่งคำ
สวีซุ่ยหนิงเอ่ย "เฉินลู่ ทำไมนายทำตัวเป็นโจรแบบนี้ แค่นี้ฉันกินไม่พอหรอก"
เฉินลู่กล่าว "เดี๋ยวฉันจะแบ่งโจ๊กให้ครึ่งหนึ่ง"
"แต่นั่นฉันเป็นคนทำ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...