อ่านสรุป บทที่ 139 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น
บทที่ บทที่ 139 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ไป๋เซิ่งเฉวียนเอ่ย: "นายลองคิดสิ่งที่นายพูดออกมาเมื่อกี้ให้ดีๆ เมื่อกี้นายพูดว่าเธอมีแฟนแล้ว ไม่ใช่นายไม่สนใจเธอ ลั่วจือเห้อรู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว แกล้งทำตัวนิ่งๆ ต่อไปจะมีประโยชน์อะไร"
ลั่วจือเห้อมองสวีซุ่ยหนิง และเธอก็กำลังมองเขาอยู่พอดี
"ทำไมฟังแล้วรู้สึกว่าแกก็ดูรู้ดีเหมือนกันนะ แกแอบไปตีท้ายครัวคนอื่นบ่อยหรือไง?" ลั่วจือเห้อถาม
ไป๋เซิ่งเฉวียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย: "ไม่มีครัวไหนที่ตีไม่แตก มีแต่มือที่สามที่ไม่เก่งพอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาเองก็เปราะบางมากอยู่แล้ว ยังไงก็คบได้อีกไม่นาน ฉันแค่เร่งให้มันเร็วขึ้นหน่อย ผิดหรือไง? ฉันก็แค่ช่วยหาวิธีให้จบเร็วขึ้น แค่นั้นเอง"
ลั่วจือเห้อเย้ยหยัน: "นายนี่จิตใจประเสริฐจริงๆ"
"นายลากฉันเข้าไปเกี่ยวทำไม ตอนนี้เรากำลังคุยเรื่องนายอยู่นะ" ไป๋เซิ่งเฉวียนวิเคราะห์ออกมาอย่างจริงจัง "คนที่คุณสวีคบคือเฉินลู่นะ เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย ยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางได้แต่งงานมีลูก อีกไม่นานก็คงต้องเลิกกัน นายไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด"
ลั่วจือเห้อเงียบไปนานมาก ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จนกระทั่งสวีซุ่ยหนิงวางศีรษะลงบนโซฟา แถมเธอยังขมวดคิ้ว ดูเหมือนทรมานมาก
เขาไม่มีอารมณ์คุยกับไป๋เซิ่งเฉวียนต่อ จึงเอ่ย: "มีอะไรทำก็ไปทำเถอะ ฉันวางล่ะ"
แล้วเขาก็ย่อตัวลงมาดูอาการสวีซุ่ยหนิง เขาลูบใบหน้าของเธอ ใบหน้าเธอมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเล็กน้อย "ที่บ้านมีหัวกวาวเครือหรือเปล่า?"
สวีซุ่ยหนิงตอบ: "มีแต่ดอกสายน้ำผึ้งกับชาเขียว"
ดูเหมือนว่าจะมีความรู้เกี่ยวกับเหล้ายาอยู่เหมือนกัน
ลั่วจือเห้อเอ่ย: "เธอรอไปก่อน ฉันจะไปต้มมาให้"
สวีซุ่ยหนิงถามเขา: "เมื่อกี้นายพูดกับเพื่อนว่ามีแฟนแล้ว คือกำลังพูดถึงฉันเหรอ?"
เขาประหลาดใจที่เธอได้ยินมันอย่างชัดเจน ก็เลยไม่ปิดบัง "อืม เพื่อนฉันเข้าใจผิดว่าฉันชอบเธอ"
สวีซุ่ยหนิงได้ฟังก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง "ฉันโชคดีแบบนั้นที่ไหนกันล่ะ ต่อให้ฉันฝันดีแล้วเอาไปเล่าก็คงไม่พ้นโดนหัวเราะเยาะ ไม่มีทางเกิดขึ้นกับฉันหรอก"
ลั่วจือเห้อนิ่งไปชั่วขณะ แล้วก็ยิ้มออกมา "สวีซุ่ยหนิงเธอนี่นะ ปากหวานประจบเก่ง"
"ฉันพูดจริงนะ นายยังหาว่าฉันประจบอีก" เธอดูเสียใจ แล้วก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ อีกครั้ง
ลั่วจือเห้อใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้เธออีกครั้ง แล้วเอ่ยกับเธอว่า: "เห็นเธอพูดดีขนาดนี้ เดี๋ยวชาสร่างเมาฉันก็จะทำให้อร่อยๆ เหมือนกัน"
สวีซุ่ยหนิงไม่ตอบ
"ดื่มเหล้าเหรอ?" เขาได้กลิ่นเหล้าจากตัวเธอ
"นายไม่ต้องมากอดฉันเลย" สวีซุ่ยหนิงพยายามจะขืนตัวออกจากอ้อมกอดของเขา "แล้วก็ ฉันไม่ยินดีต้อนรับนาย กลับไปเสีย"
ใครจะรู้ล่ะว่าตอนที่เฉินลู่ปล่อยเธอ แต่ดันยืนไม่อยู่ เซไปด้านหลังแล้วหัวโขกกับกำแพง เธอเจ็บจนต้องร้องออกมาแล้วนั่งเอามือกุมศีรษะเอาไว้
"บอกเธอไปกี่ครั้งแล้วว่าอย่าดื่มเหล้า" เฉินลู่คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ เขายื่นมือออกมาลูบตรงที่โดนโขกแทนเธอ
"วันนั้นฉันไม่ได้กินอะไรทั้งวัน ของหวานที่ซื้อมาให้เธอก็ต้องยืนต่อแถวรอเป็นชั่วโมง แค่เกี๊ยวซองเดียวเธอยังไม่ยอมให้ฉันกิน ฉันจะอารมณ์ดีได้อีกเหรอ" เฉินลู่เอ่ย
"นายช่วยโจวอี้ทำร้ายฉัน ฉันไม่ให้นายกินแล้วมันจะทำไม?" สวีซุ่ยหนิงเอ่ย "ช่างมันเถอะ ยังไงเสียเราก็เลิกกันแล้ว ฉันไม่สนใจ"
"เรื่องโจวอี้ฉันเป็นคนช่วยจริงๆ ตอนที่ช่วยแล้วไม่ได้อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเราก็เป็นเรื่องจริง แต่ที่ฉันไม่บอกว่าแฟนของฉันเป็นใคร เพื่อใครกันล่ะ เธอคิดว่าถ้าเกิดเปิดเผยไปแล้วคนที่เหนื่อยจะเป็นใครล่ะ? คนที่ต้องอยู่ในความสนใจของคนอื่นตลอดเวลาไม่ได้สนุกขนาดนั้นหรอกนะ อีกอย่างเธออยากให้พ่อของฉันจับตามองเธอเหรอ?
เฉินลู่พูดต่อ "ฉันเป็นของเธอ บนอินเทอร์เน็ตจะพูดยังไง ก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปเป็นของโจวอี้ คนที่ฉลาดไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ตหรอก นั่นมันไม่ใช่ของจริง ใช้ชีวิตให้มีความสุข สำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...