เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 169

สรุปบท บทที่ 169: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปตอน บทที่ 169 – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

ตอน บทที่ 169 ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

แม่สวีเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไรจึงถอนหายใจและเอ่ย "คำขอโทษของนาย ฉันรับไว้ แต่ฉันไม่อาจวางใจที่จะให้หนิงหนิงอยู่กับนาย"

เฉินลู่ขมวดคิ้วและไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด

เห็นได้ชัดเจนว่าสถานการณ์ของทั้งสองนั้นค่อนข้างเงียบมากยิ่งขึ้น แม้กระทั่งกลับถึงบ้านสวี พ่อสวีเองก็ไม่ส่งเสียงใด

แม่สวีกล่าว "นายไปพักผ่อนเถอะ ตอนที่นายมาฉันเห็นตารางเที่ยวบินของนาย พรุ่งนี้เช้ามีตั๋วบินกลับเมืองaนี่ เรื่องของคุณลุง ฉันเองก็เกรงใจไม่กล้าใช้เงินของนายแล้วล่ะ หนิงหนิงอาจคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญ แต่ฉันกับคุณลุงเห็นพ้องกันว่าเรื่องของหนิงหนิงมาเป็นอันดับแรก การไปหาหมออะไรนั้น พูดตามตรงแล้วผ่านมาก็ตั้งหลายปีแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรมเถอะ"

เฉินลู่เงียบไปชั่วขณะจากนั้นเอ่ย "เรื่องของคุณลุง ผมไม่สนใจไม่ได้หรอกครับ"

ก่อนหน้านี้เขาเองก็ได้ให้คำสัญญากับสวีซุ่ยหนิงไว้แล้ว

แม่สวีเอ่ยขอบคุณเขาจากนั้นก็ตรงกลับไปยังห้องของตนเอง

เฉินลู่ก็เข้าไปในห้องรับแขก กระทั่งดึกดื่น เขาตื่นขึ้นเพราะอาการปวดท้อง ตลอดทั้งวันไม่มีอาหารตกถึงท้องเขาเลย ต่อมาสวีซุ่ยหนิงทำข้าวผัดให้เขา เขาก็ไม่กิน เขากินอาหารไม่ตรงเวลา ร่างกายของเขาเจอปัญหาไม่น้อย

เฉินลู่อดทนอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาส่งข้อความหาสวีซุ่ยหนิง เขาเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะตอบกลับเขาและเขาไม่ได้คิดจะอดทนต่ออาการเจ็บปวดนี้ เพียงแต่เขาไม่คาดคิดว่าสวีซุ่ยหนิงจะมาเคาะประตูห้องเขา

เมื่อเธอเข้ามาและเห็นเม็ดเหงื่อผุดขึ้นไปทั่วร่างกายของเขา เธอขมวดคิ้วแน่น

สวีซุ่ยหนิงพาเฉินลู่ไปยังโรงพยาบาลในตอนกลางดึก ก่อนที่จะออกมาพ่อสวีและแม่สวีก็เอ่ยปากถามด้วยความเป็นกังวล

เรื่องที่โกรธและควรเว้นระยะห่างนั่นก็คืออีกเรื่องหนึ่ง แต่สามีภรรยาคู่นี้ต่างก็มีจิตใจดีงามฝังลึกลงในกระดูกดำ คาดหวังให้ทุกคนใช้ชีวิตโดยไร้โรคภัยไข้เจ็บ

เดิมทีพ่อสวีคิดอยากจะมาด้วย แต่สวีซุ่ยหนิงเอ่ยว่าไม่ต้อง

เพราะว่าเคยคบหากับเฉินลู่ สวีซุ่ยหนิงค่อนข้างคุ้นเคยกับโรงพยาบาล ขั้นตอนการเข้าพบหมอนั้นจำได้บ้างและจำไม่ได้บ้าง

เมื่อเธอได้บอกอาการให้หมอตรวจวินิจฉัยเฉินลู่แล้วก็พาเขาไปให้น้ำเกลือ

มือและเท้าของเฉินลู่เย็นเฉียบ สวีซุ่ยหนิงกลัวว่าเมื่อเขาให้น้ำเกลือแล้วจะรู้สึกไม่สบายตัว เธอเอ่ย "ฉันจะไปซื้อกระติกน้ำร้อนมาให้นาย"

"ไม่จำเป็น" เฉินลู่เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง

"มือของนายเย็นมาก อีกเดี๋ยวจะต้องรู้สึกไม่สบายเป็นแน่" สวีซุ่ยหนิงยังยืนกรานจะไป

ผู้ชายที่อยู่ด้านข้างเฉินลู่เอ่ยอย่างอิจฉา "พี่ชาย ภรรยาของพี่นี่ดีมากจริงๆ ภรรยาผมน่ะเห็นว่าผมป่วยเพียงเล็กน้อย เธอขี้เกียจเกินกว่าจะมากับผม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องรายละเอียดเพียงน้อยนิดเหล่านี้เลย"

"ภรรยา" คำนี้กลับทำให้เฉินลู่ขมวดคิ้วแน่น

เขาอ้าปากแต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธ

"ปกติแล้วทะเลาะกันบ้างไหมครับ?"

เฉินลู่เห็นว่าหน้าผากของสวีซุ่ยหนิงมีเหงื่อเม็ดใหญ่ แต่เรื่องที่เธอยุ่งนั้นเธอยุ่งแทนเขา

เขามีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่อาจพูดออกมาได้ เขาอยากพูดอะไรบางอย่างแต่กลับไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไร แต่หากไม่พูดอะไรเลยภายในใจของเขาก็รู้สึกค้างคา

ในขณะที่กำลังสู้รบตบตีกับความคิดของตัวเอง สวีซุ่ยหนิงก็เดินไปไกลแล้ว

ผู้ชายคนด้านข้างก็หันมามองเฉินลู่ เขาเอ่ยพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง "พี่กับแฟนพี่ทะเลาะกันใช่ไหม? สัมผัสได้ว่าเธอเป็นห่วงพี่ แต่เธอก็วางตัวเหินห่าง"

เฉินลู่ไม่ได้พูดอะไรอีก

ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาเอ่ยปากถาม "นายกับภรรยาของนายทำไมถึงแต่งงานกันเหรอ?"

"มันถึงวัยแล้วน่ะครับ สถานะครอบครัวก็ไม่ต่างกันมากเท่าไร" ชายคนนั้นเอ่ย "หากว่าเธอยากจน ในตอนนั้นผมเองก็ไม่สามารถแต่งงานกับเธอได้ ไอประเภทที่ว่าต้องพาครอบครัวมาให้ผมเลี้ยงดูด้วยนั้น เอาจริงผมก็รับไม่ไหวหรอกครับ"

ดูสิ อย่าพูดถึงแต่ผู้หญิงเลย ในกลุ่มผู้ชาย เก้าในสิบก็ต้องการผู้หญิงที่มีความเพียบพร้อมและมีฐานะ

แน่นอน ฐานะของครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการแต่งงาน หากว่ามีช่องว่างที่มากเกินไป แท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน

เฉินลู่มองสวีซุ่ยหนิงที่นั่งอยู่ในระยะไกลด้วยสายตาครุ่นคิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน