ตอน บทที่ 181 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 181 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่เขียนโดย จิ่นอวิ๋น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
จางอวี้จ้องมองลั่วจือเห้อด้วยสายตาแฝงความนัย จากนั้นเอ่ยขัดจังหวะ "พี่เห้อเอาอกเอาใจเก่งเสียจริงนะคะ คอยช่วยหนิงหนิงตลอด พี่ก็คงจะไม่ได้ไม่สนใจฉันหรอกใช่ไหมคะ?"
ลั่วจือเห้อเอ่ยอย่างอดไม่ได้ "แขกรับเชิญคนสวยอย่างคุณจาง ฉันจะทำให้อย่างแน่นอน พวกเธอกินกันไปเถอะ ฉันจะเป็นลูกมือให้พวกเธอเองดีไหม?"
จางอวี้ยิ้มร้ายกาจและกล่าว "พี่เห้อ จะว่ายังไงดี พี่เองก็เป็นถึงเดือนของโรงเรียน ทำไมยังตกกระป๋องแล้วโสดอยู่อย่างนี้ล่ะ?"
"เลิกพูดเถอะ ตอนนี้สภาวะของตลาดนั้นดุเดือดเป็นอย่างมาก การหาสะใภ้สักคนนั้นค่อนข้างจริงจัง ฉันจะทำยังไงได้ล่ะ?" ลั่วจือเห้อกล่าว
สวีซุ่ยหนิงเอ่ยด้วยท่าทีเห็นพ้องต้องกัน "ใช่ ตอนนี้สภาวะทางตลาดในการหาคู่ครอง การจะหาใครสักคนที่ดีนั้นเป็นเรื่องยากมาก รอบตัวก็มีแต่ผู้ชายเฮงซวย"
"ถ้าอย่างนั้นสองคนนี้ก็ลองเปิดใจกันดูไหมล่ะ"
สวีซุ่ยหนิงเอ่ยปฏิเสธด้วยเหตุผล "นั่นไม่ได้หรอก เขาจะหาที่ดีกว่าฉันน่ะสิ"
รอยยิ้มของลั่วจือเห้อดูจืดจางลง เขาเอ่ยกับจางอวี้ "เธออย่ามาจับคู่มั่วซั่ว"
หลังจากที่พูดคุยเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าลั่วจือเห้อดูไม่ค่อยสนใจอะไรอีก
หลังจากที่ส่งสวีซุ่ยหนิงแล้ว จางอวี้ก็เอ่ยปากพูดกับเขา "อันที่จริงพี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธหนิงหนิงใช่ไหม? พูดตามตรง พี่คิดว่าพี่และเธอไม่เหมาะสมกันใช่ไหม"
ลั่วจือเห้อกล่าว "ไม่ปฏิเสธนั่นก็คือเรื่องหนึ่ง มันคุ้มค่าหรือเปล่าที่ฉันจะต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวนั่นก็คืออีกเรื่องหนึ่ง พ่อและแม่ของฉันมีฉันเป็นลูกชายเพียงคนเดียว ไม่ว่าฉันจะทำเรื่องอะไรนั่นหมายความว่าฉันเป็นหน้าเป็นตาแทนตระกูลลั่ว ไม่ใช่เพื่อตัวฉันเอง"
จางอวี้เอ่ยอย่างเข้าใจ "หลักเหตุผลก็คือหลักเหตุผลแหละพี่ พี่ก็แค่ชอบเธอไม่มากพอ แต่หากฉันเป็นผู้ชายแล้วได้เจอคนที่ฉันชอบ ฉันจะไม่มีทางลดคุณค่าของตัวเองลงหรอกพี่ แต่ฉันจะเพิ่มฐานะให้เธอสูงส่งขึ้น กิ่งทองใบหยกงั้นเหรอ ฉันไม่มีทางยอมกล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้กับตัวเองหรอกและฉันจะไม่มีทางละทิ้งคนที่ฉันชอบด้วย ในแง่ของความรัก พวกพี่ที่เป็นผู้ชายยังไม่เห็นมีใครที่มีความกล้าเท่าฉันเลย"
ลั่วจือเห้อชะงักงันและเขาไม่ได้พูดอะไร
เฉินลู่เอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ "ฉันไม่ต้องการสิ่งนี้"
ฟู่เล่อเล่อยักไหล่และไม่ได้ยืนกรานที่จะทำอีกต่อไป เธอเดินไปรอบบ้านของเฉินลู่ ราวกับเป็นนายหญิงของบ้านพลางใช้สายตาสอดส่องและหยิบจับสิ่งของบริเวณโดยรอบ
แม้ว่าสวีซุ่ยหนิงจะย้ายไปจากที่นี่แล้ว แต่หล่อนก็เคยอาศัยอยู่ที่นี่ ก่อนหน้าการเลิกราหล่อนก็เกือบจะได้ย้ายกลับมาอีก ดังนั้นในบ้านนี้หากว่าตั้งใจจะหาสิ่งของของสวีซุ่ยหนิงก็คงไม่ใช่เรื่องยาก
ฟู่เล่อเล่อพบชุดภาชนะสีชมพูในห้องครัวของเฉินลู่ นี่คือผลงานของสวีซุ่ยหนิง ในตอนนั้นตราบใดที่สวีซุ่ยหนิงทำอาหารให้เฉินลู่ เฉินลู่ก็จะกินอาหารในถ้วยชามสีชมพูชุดนี้
ทางด้านฟู่เล่อเล่อ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สไตล์ของเฉินลู่และเขาไม่มีทางซื้อมันอย่างแน่นอน เช่นนั้นแล้วจะต้องเป็นแฟนเก่าที่ซื้อให้กับเขา เธอโยนภาชนะชุดนั้นลงในถังขยะโดยไม่ลังเล
เมื่อเฉินลู่ลงมาจากด้านบน ชุดภาชนะสีชมพูในถังขยะดึงดูดสายตาของเขา สีหน้าของเขาอดไม่ได้ที่จะมืดมนลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...