การที่เฉินลู่ยินดีปลอบโยนผู้คน นั่นคือการปลอบโยนที่พอเหมาะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถทนต่อพฤติกรรมของหญิงสาวได้
เช่นเดียวกับที่เขาไม่อนุญาตให้ผู้อื่นสัมผัสร่างกายของเขา เขาก็ไม่ชอบให้ใครแตะสิ่งของของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทันใดนั้นเฉินลู่ก็เอ่ยคำพูดอย่างไม่เกรงใจ "เธอกลับไปเถอะ"
"ไม่ คืนนี้ฉันจะอยู่ที่นี่และนอนกับคุณ" ฟู่เล่อเล่อเอ่ย "ฉันอยากไปดูห้องของคุณ ฉันอยากรู้สไตล์การตกแต่งของคุณน่ะ"
เฉินลู่กลับคว้ามือของเธอไว้ ไม่เปิดโอกาสให้เธอขึ้นไปชั้นบนเลยแม้แต่น้อย เขาเอ่ยอย่างเย็นชา "คุณฟู่รู้หรือไม่ว่าการอบรมสั่งสอนนั้นคืออะไร?"
ไหนเล่าที่ฟู่เล่อเล่อจะเคยได้เห็นเฉินลู่ในท่าทีที่จริงจังมากเช่นนี้ สีหน้าของเธอแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยพลางเอ่ย "เฉินลู่ ฉันยืนอยู่ตรงหน้าคุณ คงไม่ต้องอบรมสั่งสอนหรอกใช่ไหม? ในอนาคตยังไงเราก็เป็นสามีภรรยา...."
"นั่นคือเรื่องของอนาคต เธอจะออกไปตอนนี้ไหม หรือว่าอยากจะหยิบภาชนะอาหารเหล่านั้นออกมาจากถังขยะแล้วล้างมันให้สะอาด"
ฟู่เล่อเล่อดวงตาแดงก่ำอย่างอดไม่ได้ เธอเอ่ยถาม "คุณไม่ชอบให้ใครแตะต้องสิ่งของของคุณจริงๆ หรือเพราะว่าคุณไม่อาจตัดขาดจากคนที่ซื้อชุดภาชนะชุดนี้มากันแน่?"
เฉินลู่มีข้อดีคือความสูงเท่านั้น เขามองลงมาที่เธออย่างดูหมิ่นและไม่พูดอะไร
หัวใจของฟู่เล่อเล่อเหมือนกับกำลังจะแหลกสลาย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ท่าทีที่เป็นสุภาพบุรุษของเขาที่มีต่อเธอทำให้เธอชื่นชอบในตัวเฉินลู่มากทีเดียว
เธอไม่สามารถก้มลงไปเก็บสิ่งของที่ผู้หญิงคนอื่นเหลือทิ้งไว้ในถังขยะใบนี้ได้หรอก เช่นนั้นเธอจึงจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
เฉินลู่จ้องมองถังขยะอยู่เป็นเวลานาน ท้ายที่สุดก็เขาหยิบภาชนะชุดนั้นออกมา วางภาชนะชุดนั้นไว้ในตู้เก็บของ ตู้ที่ใช้เก็บสิ่งของที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...