เฉินลู่พูดอย่างสงบว่า “คุณหมายความว่ายังไง?”
เฉินเจ๋อชูไม่ได้พูดอะไรอีก แต่จากไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยซีแค่ยิ้มให้เขาเล็กน้อยและขึ้นไปชั้นบน
เฉินลู่ขมวดคิ้ว ก่อนที่จะไปยังคฤหาสน์ตระกูลฟู่เพื่อขอโทษในวันรุ่งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่การขอโทษอย่างจริงใจเท่าไรนัก เพราะเขาไม่ได้คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด การมาเผชิญหน้ากันก็เพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายมีทางลงเท่านั้นเอง
เพื่อที่จะแสดงออก ผู้อาวุโสตระกูลฟู่จึงต้องเชิญเฉินลู่ไปทานอาหาร สุดท้ายเลือกร้านอาหารตระกูลลั่ว
เขาเองก็ไม่รู้ว่าการจองร้านอาหารตระกูลลั่วในครั้งนี้คือความจงใจ หรือจงใจทำให้เฉินลู่รู้สึกรังเกียจหรือไม่
แต่ลั่วจือเห้อไม่มีความคิดที่จะรับช่วงต่อเรื่องใหญ่เช่นนี้ และไม่มีผู้ชายคนไหนอยากจะเป็นผู้รับ
ในขณะที่เฉินลู่กำลังคิด เขาก็นึกถึงสวีซุ่ยหนิง สิ่งที่ลั่วจือเห้อทำกับสวีซุ่ยหนิงมันแตกต่างออกไป
สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยดีนัก แต่เป็นเพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะในตอนนี้เขาต้องระวังเรื่องมารยาท
เพื่อป้องกันไม่ให้ฟู่เล่อเล่อสร้างปัญหา ตระกูลฟู่จึงปิดบังเรื่องนี้กับลูกสาวของตนเอง
แต่ไม่รู้ว่าฟู่เล่อเล่อไปรู้ข่าวนี้มาจากไหน ขณะที่เฉินลู่กำลังนั่งลง ฟู่เล่อเล่อก็ทะเล่อทะล่าวิ่งเข้ามาทันที
เมื่อเธอเห็นเฉินลู่ ดวงตาของเธอก็เปียกชื้นอย่างรวดเร็วและพูดว่า "เฉินลู่ คุณมาง้อฉันแล้วใช่ไหม?"
เฉินลู่ยิ้มให้เธอโดยไม่พูดอะไร
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินลู่ยิ้มให้เธอ เขายิ้มอย่างสดใสและดูดีมาก แต่หัวใจของฟู่เล่อเล่อกลับแตกสลาย
เฉินลู่ไม่ชอบเธอเลยสักนิด ไม่เลย...
“เล่อเล่อ เลิกสร้างปัญหาสักที วันนี้มีไอศกรีมทอดที่เธอชอบด้วย มานั่งกินดีๆสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...