"ไม่อย่างนั้นผมติดต่อประธานเฉินดีกว่าครับ" เจ้าของบาร์คิดว่าคงเป็นเพราะเฉินลู่ดื่มหนักไปหน่อยก็เลยจำอะไรสลับไปมา เลยให้โทรหาผิดคน
"ไม่ต้อง" เฉินลู่หยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ตามหาเบอร์โทรศัพท์ของสวีซุ่ยหนิง แล้วก็ส่งโทรศัพท์ให้เจ้าของร้าน
เจ้าของบาร์ก็เลยจำเป็นจะต้องทำตามที่เขาสั่ง แต่ในตอนที่เขาเห็นเบอร์โทรถูกบันทึกเอาไว้ว่า "ซุ่ยซุ่ย" เขาก็รู้สึกประหลาดใจอยู่เล็กน้อย เรียกแบบนี้ดูจะสนิทกันเกินไปหน่อยหรือเปล่า
แต่เขาก็ไม่กล้าถามอะไร เขากดโทรออกตามที่เฉินลู่ต้องการ ต้องถือสายรออยู่แป๊บหนึ่งอีกฝ่ายถึงจะรับ: "นายมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ฉันกำลังยุ่งอยู่"
"คุณสวี ผมคือเจ้าของบาร์ฮุ่ยตัวนะครับ เฉินลู่เมาแล้ว เห็นว่าเบอร์แรกในโทรศัพท์ของเขาคือเบอร์คุณ ผมก็เลยโทรหาครับ คุณสามารถมารับเขากลับไปได้ไหมครับ?"
พูดจบเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าแปลกยิ่งกว่าเดิม จะต้องสนิทกันแค่ไหน เบอร์โทรถึงจะโผล่มาอยู่เบอร์แรกได้?
สวีซุ่ยหนิงเงียบไปแป๊บหนึ่ง แล้วเอ่ย: "ฉันคิดว่าฉันคงไปไม่ได้ เอาอย่างนี้แล้วกันค่ะ ฉันโอนเงินให้คุณ คุณช่วยเรียกคนขับรถแทนให้เขาหน่อยได้ไหมคะ?"
โทรศัพท์ของเขาเปิดลำโพงเอาไว้ แน่นอนว่าเฉินลู่ก็ได้ยินประโยคนี้เหมือนกัน
เจ้าของบาร์มองหน้าเฉินลู่ เห็นว่าเขามีสีหน้าเรียบเฉยก็แสร้งทำว่าลำบากใจ: "วันนี้เขาไม่ได้ขับรถมาด้วยครับ ผมเองก็ไม่รู้ที่อยู่ของเขา ไม่รู้จะเรียกรถยังไง"
แต่สวีซุ่ยหนิงก็ลำบากใจเหมือนกัน: "ที่จริงคุณเองก็ไม่ควรโทรหาฉันนะคะ คุณควรจะติดต่อคนในครอบครัวของเขา ไม่ใช่เหรอคะ? ฉันลองขอให้เพื่อนคนหนึ่งไปรับเขาแทนแล้วกันค่ะ"
เธอพูดจบ ก็วางสายในทันที
เจ้าของบาร์มองเฉินลู่ด้วยท่าทีลำบากใจ ส่วนเฉินลู่นั้นหลังจากที่เงียบมาพักใหญ่แล้วก็ไม่เอ่ยอะไรเลย แต่กลับดูผิดหวังอย่างชัดเจน
หลังจากนั้นพักใหญ่ เฉินลู่ก็เอ่ยเสียงเรียบ: "นายลงไปเถอะ"
"ให้ผมลองติดต่อคนอื่นแทนไหมครับ?"
"ไม่ต้อง"
"ไม่อย่างนั้นลองติดต่อประธานเฉินดูเถอะครับ......"
"ไม่ต้อง" แววตาของเฉินลู่ดูเย็นชาไปเล็กน้อย แล้วเอ่ย "ฉันขอนั่งต่ออีกสักพัก"
เจ้าของบาร์ไม่สามารถบอกต้นสายปลายเหตุได้ แต่เขาแค่รู้สึกว่าเฉินลู่ในท่าทีแบบนี้ ดูเหมือนกับคนที่กำลังอกหัก แต่ก็ไม่ได้ข่าวว่าเขาคบกับใครอยู่นี่ แถมยังไปดูตัวอีกต่างหาก
แถมผู้ชายที่หน้าตาเหมือนแบดบอยอย่างเฉินลู่ ยังไงก็ดูไม่เหมือนคนที่จะต้องมานั่งเศร้าซึมเพราะความรัก ต่อให้เป็นช่วงที่ยังคบกับโจวอี้อยู่ เฉินลู่ก็ยังออกมาเที่ยวบ้างบางครั้ง แต่เจ้าของบาร์ไม่เคยเห็นว่าทั้งสองคนจะจูบหรือทำอะไรลึกซึ้งกว่านั้นเลย
จะว่ายังไงดีล่ะ การกระทำต่างๆ ดูไม่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ทำให้คนอื่นสัมผัสไม่ได้เลยว่ารู้สึกดีต่อกันจริงๆ ตอนนั้นพวกเขาเป็นหัวข้อสนทนาที่ถูกพูดถึงมากทีเดียว
เจ้าของบาร์ทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์ไปด้วย ตอนนี้เขากลับไปชงเหล้าต่อ แต่ก็ยังมองมาทางเฉินลู่อีกครั้ง เห็นว่าเขาฟุบอยู่กับบาร์แล้วจ้องโทรศัพท์ไปด้วย เหมือนกับกำลังสองจิตสองใจ อยากจะโทรหาใครสักคนแต่ก็ไม่โทร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...