เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 22

สรุปบท บทที่ 22: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปตอน บทที่ 22 – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

ตอน บทที่ 22 ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าพฤติกรรมของลั่วจือเห้อนั้นดีมาก ไม่ต้องการใช้เขาเป็นเครื่องมือสำหรับการจัดการเจียงเจ๋อ ทว่าเธอก็ยังถามเขา "หากว่าฉันต้องการจีบลั่วจือเห้อ นายจะช่วยอะไรฉันได้?"

เสื้อกาวน์ที่เขาสวมใส่ทำให้เขาดูเย็นชาเป็นพิเศษ เขาจ้องมองเธอ "จะจับผู้ชายอย่างไร ฉันย่อมรู้ดีกว่าเธอ"

สวีซุ่ยหนิงส่ายหน้าและเอ่ย "ฉันไม่อยากใช้เขาเป็นเครื่องมือ ลั่วจือเห้อเป็นคนดี เขาเป็นเพื่อนกับเจียงเจ๋อ ไม่ควรลากเขาเข้ามาข้องเกี่ยว"

"ฉันและเจียงเจ๋อเป็นญาติกัน ตอนที่เธอดึงฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ดูกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วเชียว" เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

สวีซุ่ยหนิงครุ่นคิดภายในใจ นั่นไม่ใช่เพราะว่าในตอนนั้นนายแสดงท่าทีเป็นชายโฉดหรอกหรือ ถ้าเธอรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและโจวอี้ดีต่อกันขนาดนั้น เธอก็คงไม่ดึงเขาเข้ามาข้องเกี่ยวหรอก

สิ่งต้องห้ามที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของเธอ การทำลายความรู้สึกของผู้อื่นเป็นเรื่องผิดศีลธรรม

"เรื่องของเจียงเจ๋อ ฉันก็ไม่เต็มใจรับความช่วยเหลือเท่าไรนัก นายบอกจุดอ่อนของเขาให้ฉันรู้ก็ได้ ที่เหลือฉันจัดการเอง หลังจากนั้นไม่ว่าฉันจะล้มเขาได้หรือว่าตระกูลเจียงจะคอยปกป้องคุ้มครองเขา เรื่องนั้นก็จะเป็นเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกับนาย ฉันจะไม่ไปขอความช่วยเหลือจากนายอีก" สวีซุ่ยหนิงกล่าว

เฉินลู่เลิกคิ้วและเอ่ย "คนที่มีจุดอ่อนของเจียงเจ๋อเยอะก็จริง แล้วเธอเคยเห็นเจียงเจ๋อมีเรื่องอะไรบ้างไหม?"

"ฉันบอกไปแล้ว นั่นเป็นเรื่องของฉัน จะสำเร็จหรือไม่ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาย"

เฉินลู่รู้สึกว่าสวีซุ่ยหนิงนั้นสมองทึบ เธอเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปคิดจะต่อกรกับเจียงเจ๋องั้นเหรอ? สุดท้ายแล้วคนที่จะเจ็บตัวก็คือเธอเพียงคนเดียว

จำเป็นจะต้องทะนุถนอมลั่วจือเห้อขนาดนั้นเชียวเหรอ?

แต่ในเมื่อเธอเลือกเดินในเส้นทางนี้ เขาเองก็ไม่มีอะไรจะพูด ท้ายที่สุดสำหรับเขา มอบจุดอ่อนที่ไร้ความสำคัญของเจียงเจ๋อให้แก่เธอ อย่างไรเสียก็ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย

"ฉันจะไปรวบรวมหลักฐานและมอบให้เธอในวันจันทร์" เฉินลู่เหลือบมองเธอและหันหลังเดินจากไป

สวีซุ่ยหนิงมองไปยังประตูที่เขาจากไป ในไม่ช้าโจวอี้เดินมาและควงแขนเขา ทั้งสองคนเดินจากไปพร้อมกัน

เมื่อลั่วจือเห้อเข้ามาด้านในราวกับว่าสติของเขาหลุดลอย เธอเอ่ยเรียกเขาด้วยเสียงแผ่วเบา จากนั้นเขากล่าว "เฉินลู่ตกลงแต่งงานกับโจวอี้แล้ว อาจจะแต่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คาดว่าเร็วๆนี้คงจะได้ดื่มเหล้าในงานเลี้ยงฉลองของพวกเขา"

เมื่อครู่ที่เขาอยู่หน้าประตู เขาได้คุยกับโจวอี้สองสามประโยค ได้ยินมาว่าเฉินลู่ได้เริ่มหาคนจัดเตรียมชุดแต่งงานแล้ว มัดจำชุดแต่งงานไปแล้วหลายล้านหยวน

สวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้วและเอ่ย "นายกำลังจะบอกฉันว่าให้เลิกคิดถึงเฉินลู่ได้แล้วใช่หรือเปล่า?"

ลั่วจือเห้อยิ้ม "แม่สาวหน้าอกใหญ่ เธอฉลาดแสนรู้จริงๆ"

“ฉันไม่ได้คิดถึงเขา” เธอจ้องมองเขาด้วยแววตาสงบนิ่ง "ในตอนแรกที่เจอเขาฉันหน้าแดงระเรื่อ คิดว่าเขาหล่อมาก เขามีเสน่ห์มากทั้งในด้านการศึกษา ไอคิวรวมถึงอาชีพการงาน ทว่าแต่ไหนแต่ไรฉันก็ไม่เคยคิดจะคบหากับเขา ไม่เคยคิดจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเขาด้วย"

ช่องว่างระหว่างคนสองคนนั้นใหญ่เกินไป อีกฝ่ายยังเย็นชา ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนรักของกันและกัน

ลั่วจือเห้อเปิดกล่องอาหารกลางวันให้เธอพลางเอ่ย "แม่ของเฉินลู่ยังไม่สนับสนุนการแต่งงานครั้งนี้ แต่เธอก็ไม่อาจหยุดยั้งเฉินลู่ได้"

ทว่าเมื่อเทียบกับโจวอี้แล้ว เธอนั้นมีสถานะที่เจ็บปวดกว่าอย่างแน่นอน

สวีซุ่ยหนิงย้อนนึกถึงตัวเอง เมื่อตัวเธอเทียบกับซูเล่อฉีแล้วยังน่าสงสารเสียกว่า เมื่อตอนที่เธออยู่กับซูเล่อฉี เฉินลู่ก็เลือกปกป้องซูเล่อฉี

จู่ๆลั่วจือเห้อเอ่ยขึ้น "ก่อนหน้านี้เป็นเพราะโจวอี้ เฉินลู่เคยปฏิเสธผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ผู้หญิงเหล่านั้นต่างขู่เขาว่าจะกระโดดตึก เขาก็เพิกเฉย เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ยามที่ได้เผชิญกับชีวิตของคน เขายังคงมีสติและสมาธิ เขาเหมาะสมที่จะเป็นหมอจริงๆ"

สวีซุ่ยหนิงนิ่งเงียบและไม่เอ่ยตอบ

....

หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล เธอและลั่วจือเห้อก็พบหน้ากันน้อยลง

อาการบาดเจ็บของเจียงเจ๋อยังไม่ดีเท่าไรนัก เขาไม่ได้มาตามหาเธอ กระทั่งเธอย้ายบ้านเสร็จก็ไม่ปรากฏตัว เพียงแค่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยโทรมาขอโทษเธอ

เมื่อสวีซุ่ยหนิงได้ยินเสียงของเขา เธอก็รู้สึกรังเกียจและยากเกินจะรับได้ เธอไม่รับฟังและตัดสายทิ้งไป

เธอไม่พบกับเฉินลู่เลยเช่นกัน มีเพียงครั้งหนึ่ง เขาขับรถมากับโจวอี้และผ่านเส้นทางหน้าโรงเรียนของเธอ มองผ่านกระจกรถ เธอมองเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของเขา

เพียงแค่ชั่วพริบตา รถของเขาก็แล่นจากไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน