เซี่ยซีถอนหายใจแล้วพูดว่า "แต่ว่าตอนนี้แกมาถึงจุดที่มีปัญหากับพ่อของแกแล้วนะ น่าเสียดายที่จะทำลายมันลงตรงนี่"
เฉินลู่กลับยิ้มออกมาหน้าตาเฉย ดวงตาของเขาเรียบนิ่ง และเขาอธิบายข้อเท็จจริงอย่างเฉยเมย "อาจจะไม่ถึงจุดที่ผมมีปัญหากันกับพ่อ บางทีถ้าเธอเร่งผมเร็วกว่านี้ผมอาจจะหาเรื่องทะเลาะกับพ่อเรื่องเร็วกว่านี้เหมือนกัน ในท้ายที่สุดผมใช้วิธีที่เหมาะสมกับเธอปฏิบัติต่อเธอ พวกคุณคิดว่าผมทะเลาะกับพ่อครั้งนี้เป็นเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมาย แต่ผมรู้ว่าไม่ช้าก็เร็ววันนี้จะต้องมาถึง”
เพียงแต่เขาคิดว่าสวีซุ่ยหนิงไม่เคยมีข้อเรียกร้องนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดถึงข้อเรียกร้องของเธอ และเขาแกล้งทำเป็นว่าเรื่องมันยาก จนกระทั่งเมื่อเธอหมดหวังจริงๆ เขาถึงเต็มใจที่จะต่อสู้เพื่อเธอ
อันที่จริงเรื่องนี้จะพูดว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเขามันก็ไม่ใช่ เมื่อก่อนเขายืนกรานที่จะแต่งงานกับโจวอี้ และได้เข้าไปขออนุญาตเฉินเจ๋อชูแบบลวกๆ ในเวลานั้น แสดงให้เห็นว่าพ่อของเขาไม่ได้คิดว่าภรรยาของเขาจะต้องเป็นผู้หญิงที่มาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง
แต่กับสวีซุ่ยหนิงเขากลับเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ยอมใช้แรงกายแรงใจของเขาเข้าไปลองทำเพื่อเธอ
สรุปก็คือเขาคิดว่าสวีซุ่ยหนิงเป็นคนที่รังแกง่าย และมักจะยอมให้เขาอยู่เสมอ เขาจึงไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองมีปัญหากับเฉินเจ๋อชูอีก อันที่จริงถ้าเขาใช้การแต่งงานเป็นเหยื่อล่อตั้งแต่แรก บางทีเธอก็อาจจะไม่ยอมเปลี่ยนใจ
ตอนที่อยู่ต่อหน้าสวีซุ่ยหนิงเฉินลู่ไม่เคยลงทุนทำอะไรเพื่อเธอเลย แต่กลับลองทดสอบหยั่งเชิงเส้นตายของเธอ และพอจะถึงขอบเส้นตายก็แค่ให้ผลประโยชน์นิดหน่อยแค่พอเหมาะเท่านั้น แต่หากไม่สามารถทำให้เธอชอบได้ก็ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้ก็เท่านั้นเอง
“คุณมีความคิดอย่างไรกับพ่อของคุณ และเธอก็คงจะคิดกับผมแบบนั้นเหมือนกัน การที่เข้าไปพัวพันมันไม่มีความหมายอะไรไม่ใช่เหรอ?” เฉินลู่พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ
เซี่ยซีกลับไปที่ห้องด้วยความรู้สึกนึกคิดมากมาย
วันรุ่งขึ้นเธอตื่นขึ้นมาเพราะเสียงตะโกนจากชั้นล่าง
เมื่อเซี่ยซีส่องดูจากหน้าต่างก็เห็นโจวอี้กำลังนั่งร้องไห้ตาบวมอยู่บนรถเข็น และยังคงร้องตะโกนเรียกชื่อของเฉินลู่ไม่หยุด
ทุกคนในบ้านตระกูลเฉินน่าจะตื่นกันหมดแล้ว แต่ไม่มีใครเข้าไปทักทายเธอเลย เห็นได้ชัดว่าคนนั้นกำชับเอาไว้
เซี่ยซีเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่งก็ได้เห็นว่าเฉินลู่กำลังเดินออกไปพร้อมกับสัมภาระ และเดินผ่านเธอไปด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...