เซี่ยซียืนอยู่ชั้นบน มองเห็นโจวอี้ถูกพาตัวออกไปอยู่ไกลๆ
อาจเป็นเพราะความรังเกียจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่ทำให้เธอไม่รู้สึกสงสารหล่อนเลย
เมื่อสาวใช้กลับขึ้นไปชั้นบน สีหน้าแดงเล็กน้อย เมื่อเซี่ยซีเห็นเช่นนี้ พูดอย่างรู้ทันว่า “หล่อนต่อว่าเธอเหรอ?”
“หล่อนต่อว่าท่าน......” สาวใช้ลังเล ไม่กล้าพูดไปอย่างมั่วซั่ว
เซี่ยซีไม่สนใจ โจวอี้จะพูดอะไรไปมากไปกว่าคำพูดเหล่านั้น "คงว่าฉันไม่ควรที่จะเป็นแม่ของอาลู่?”
“ว่าท่าน......ไม่เคยสนใจเขาจะเป็นหรือตาย แล้วตอนนี้มีสิทธิ์อะไรที่จะดูแลเขา”
เซี่ยซีนิ่งไป ถามกลับว่า “เธอก็คิดเช่นกัน?”
“ท่านเป็นคนให้กำเนิด ต้องมีสิทธิ์ที่ดูแลเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
ความจริงแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก เพิ่งดีขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเวลาที่ยาวนานช่วงหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยซีกับเฉินลู่ค่อนข้างแย่
เซี่ยซีเงียบ และไม่ตอบอะไร
ตอนที่เฉินลู่มีความสัมพันธ์ที่แย่ที่สุดกับเธอ อีกทั้งยังปฏิเสธที่จะยอมรับว่าเธอเป็นแม่ เธอรู้สึกมาตลอด ตอนนั้นเฉินลู่ต้องการโจวอี้ให้ได้ และนี่เป็นปัจจัยที่เธอต้องคัดค้านอ ตอนนั้นเฉินลู่เกลียดเธอ ทุกอย่างจึงต้องขัดแย้งกับเธอ ยิ่งเธอไม่พอใจในสิ่งนั้นมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งต้องการสิ่งนั้นให้มาอยู่ข้างกายมากขึ้นเท่านั้น
แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะถามเฉินลู่ตรงๆ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก่อนหน้านี้ ได้ทำให้เธอเก็บเป็นความลับไว้อย่างดี หลังจากความสัมพันธ์ของทั้งสองค่อยๆ คลี่คลายลง จึงไม่มีการกล่าวถึงอีกเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...