เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 251

“ลืมไม่ลง แล้วทำไมแกถึงแสร้งทำเป็นว่าลืมลงล่ะ” เซี่ยซีถามเขา

เฉินลู่เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกลับมาอยู่ในท่าทางที่นิ่งเงียบแบบที่เคยเป็น เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “ก็มันยังไม่นานเท่าไหร่ ผ่านไปอีกสักพักคงจะดีขึ้นเองแหละ”

เซี่ยซีรู้ว่าถามเขาต่อไปก็ไม่ได้อะไร ดังนั้นเธอจึงไม่ถามอีก แต่ออกไปซื้ออาหารเช้ามาให้เขา ซื้อเป็นโจ๊กทะเล ซึ่งทำให้เขาเงียบไม่พูดจาหนักขึ้นไปอีก

“งั้นแม่ออกไปซื้ออย่างอื่นมาให้แกแล้วกัน” เซี่ยซีดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

แต่ขณะที่เธอกำลังหันหลังเดินออกไป เธอก็ได้ยินเฉินลู่พูดเบาๆ ว่า "ในวันนั้น เธอคุกเข่าลงอ้อนวอนผม"

เซี่ยซีนิ่งอึ้ง

เฉินลู่มองมาที่เธอ และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ในเมื่อเธอถึงกลับยอมคุกเข่าขอร้องให้ผมเลิกยุ่งกับเธอ เธอก็คงจะเจ็บปวดมาก ถ้าผมเข้าไปพัวพันกับเธออีกเธอคงจะอึดอัดใจ การที่ได้เห็นท่าทีแบบนั้นของเธอก็รู้สึกไม่สบายใจไม่น้อย งั้นก็ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปดีกว่า”

เซี่ยซีพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

เฉินลู่ยังพูดอีกว่า “แต่ว่าเรื่องของร่างกายไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอมากหรอก ช่วงนี้ผมเข้าเวรติดต่อกันหลายวัน คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมไม่เป็นบ้าเพราะเรื่องความรักหรอก”

เซี่ยซีถอนหายใจ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็น่าจะเป็นผลดี

อาการของเฉินลู่จะบอกว่าหนักก็ไม่หนักมาก หลังจากรับกลูโคสทางสายน้ำเกลือ เขาก็กลับบ้านไปพักผ่อน

ทางด้านสวีซุ่ยหนิง หลังจากรับโทรศัพท์เธอก็รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเฉินลู่ แต่เธอไม่สนใจเขาหรอก

สองวันต่อมาเสี่ยวเย่รู้สึกไม่สบาย ตอนที่ไปโรงพยาบาลสวีซุ่ยหนิงค่อนข้างจะระมัดระวังตัว เพราะกลัวว่าจะเจอเข้ากับคนที่คุ้นเคย แต่ผลคือเธอเจอเข้ากับเจี่ยงหนานตั๋ว เขาพอจะเข้าใจท่าทางของเธอจึงพูดออกไปว่า "เฉินลู่ไปที่โรงพยาบาลอื่นแล้ว เขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว"

สวีซุ่ยหนิงพยักหน้า ส่วนเสี่ยวเย่รู้แล้วก็ไม่ได้ถามอะไร และเก็บเป็นความลับ

ทั้งสองยังเดินออกไปไม่พ้นโรงพยาบาลสวีซุ่ยหนิงก็ได้เจอกับซูหว่านจิ้งซึ่งมาที่โรงพยาบาลเหมือนกัน และเธอก็ยืนจ้องมองอย่างเย็นชาอยู่ไม่ไกล

เมื่อสวีซุ่ยหนิงเดินผ่าน ซูหว่านจิ้งมองเธออย่างเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง"เฉินเหลียนถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน