"หนิงหนิง อีกเดี๋ยวพวกเราก็ถึงแล้ว จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน" ลั่วจือเห้อกล่าว "ไม่ต้องกลัว เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันก็ยินดีจะช่วยเหลือเธอโดยไร้เงื่อนไข"
ลำคอของสวีซุ่ยหนิงกระชับแน่นและกล่าว "ขอบคุณ"
หลังจากลงจากเครื่องบิน ลั่วจือเห้อก็แย่งแท็กซี่ของผู้โดยสารท่านอื่น เขาให้สวีซุ่ยหนิงขึ้นรถและตนเองเอ่ยปากขอโทษคนคนนั้น ผู้โดยสารท่านนั้นก่นด่าเขาอยู่สองสามคำ เขาเองก็ไม่ได้เอ่ยปากโต้ตอบ
สวีซุ่ยหนิงนั่งอยู่ในรถอย่างไม่สบายใจ คนผู้นั้นก่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
"ขอโทษด้วย ตอนนี้ญาติของเราอยู่โรงพยาบาลและเราค่อนข้างรีบ" เขาสแกนคิวอาร์โค้ดและให้เงินชดเชยจำนวนมากให้คนคนนั้น "เงินเหล่านั้นเก็บไว้นะครับ ขอโทษด้วยจริงๆ"
อีกฝ่ายเห็นผลประโยชน์จึงไม่ได้พูดอะไรมาก
หลังจากที่ลั่วจือเห้อขึ้นรถ สวีซุ่ยหนิงเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด "อันที่จริงเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของฉัน ฉันทำให้นายลำบาก"
"เธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว เดิมทีเธอก็ควรได้รับการปกป้องจากผู้ชาย" ลั่วจือเห้อเอ่ยเย้ยหยัน "คนคนนั้นดุด่าฉันเพียงไม่กี่คำ เธอก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว? หากว่าคนคนนั้นชกต่อยฉันขึ้นมา เธอจะไม่ร้องไห้อย่างเจ็บปวดหัวใจเลยหรือ?"
ยิ่งสวีซุ่ยหนิงฟังเขาเอ่ยคำพูดหยอกล้อมากเท่าไร ดวงตาของเธอยิ่งแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกผิดและตำหนิตัวเอง
ลั่วจือเห้อจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ให้กับเธอพลางเอ่ยปลอบด้วยเสียงแผ่วเบา "ไม่เป็นไรเลยหนิงหนิง เวลาที่ฉันพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจและเมื่อเจอพวกอันธพาลในต่างประเทศ ฉันถูกด่าว่าด้วยคำพูดที่รุนแรงกว่านี้ คำพูดเพียงไม่กี่คำทำอะไรฉันไม่ได้หรอก หากว่าเขาชกต่อยฉันขึ้นมา อย่างไรเขาก็ไม่อาจเอาชนะฉันได้หรอกน่า"
สวีซุ่ยหนิงยังคงรู้สึกผิด
มุมปากลั่วจือเห้อกลับเผยรอยยิ้ม "ทำไมกันนะ ทำไมเธอถึงได้น่ารักขนาดนี้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...