สวีซุ่ยหนิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ยังเดินเข้าไปหาเขา
เขากางฝ่ามือออก จากนั้นใช้มืออีกข้างยื่นแผ่นปลาสเตอร์ให้เธอ
สวีซุ่ยหนิงฉีกแผ่นปลาสเตอร์ออกอย่างเคยชิน จากนั้นติดเข้าไปที่แผลของเขาให้เรียบร้อย ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด เธอไม่ได้พูดอะไรสักคำ และความเงียบก็ดูเย็นยะเยือกมาก
เมื่อติดมันลงไปแล้ว เธอจะดึงมือออกทันที แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับได้กำมือเธอข้างนั้นไว้แล้ว
ใช้แรงมาก เธออยากจะสะบัดให้หลุดยากมาก
สวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ได้ยินเขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าให้โอกาสเธออีกครั้ง เธอจะไม่ไปที่บาร์นั่นใช่ไหม คืนนั้น ก็จะไม่พาฉันกลับบ้าน?”
เธอรู้ว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นครั้งแรก ได้เริ่มต้นผิด
สวีซุ่ยหนิงกล่าวว่า "ปล่อยฉัน"
“เธอเดาหากเป็นฉัน คืนนั้น ฉันจะกลับไปกับเธอไหม?”
เธอเงียบไป
เฉินลู่พูดอย่างใจเย็น “ฉันยังคงจะกลับไปกับเธอ และทำเรื่องเหล่านั้นเหมือนไม่มีอะไร ฉันทำไม่ได้”
เสียงของสวีซุ่ยหนิงเย็นชาลงเล็กน้อย และพูดว่า "นั่นเป็นทางเลือกของนาย ไม่จำเป็นต้องบอกฉัน"
จู่ๆ เฉินลู่ได้ยิ้มสั้นๆ เพียงครู่เดียว มันดูเป็นการเยาะเย้ย และดูเหมือนจะปะปนกับความขมขื่น ใช่ เพราะน้ำเสียงคำพูดของเขาแทบไม่ได้เปลี่ยนเลย "แม้ว่าเธอต้องการจะทำดีกับลั่วจือเห้อ เธอไม่จำเป็นต้องยับยั้งเรื่องทุกอย่างระหว่างเรา เพื่อที่จะได้อยู่กับเขา คุณสวี ดูเหมือนว่าคุณข้ามแม่น้ำแล้วจะรื้อสะพานนะ อย่างน้อยในเรื่องเกี่ยวกับพ่อของคุณ ฉันก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยคุณ"
อีกอย่างเธอตกใจกับคนแปลกหน้าที่มาเคาะประตู เขาได้ปลอบใจเธอ
เฉินลู่ไม่ใช่คนที่มีความอดทน แต่เขาได้พยายามง้อเธอมาหลายครั้ง แต่กลับถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิง เขาเย็นชา และมีความเศร้าโศกยากที่พรรณนาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...