เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 278

น้ำเสียงของเฉินลู่ราบเรียบ

หลี่ถูมีสีหน้าประหลาด แต่เขากลับกลืนคำพูดที่ต้องการจะพูดลงท้องไป เขานั่งลงและรออย่างอดทน: "เพราะฉะนั้น ฉันจะบอกเธอยังไง?"

"บอกเรื่องที่เธออยากรู้ไปก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง?" เขาตอบ

แต่ว่า หลี่ถูคิดว่าแผลบนใบหน้าที่ยังไม่หายของเฉินลู่มันดูน่าตลก ประเด็นคือ มันดูไม่เหมาะกับบุคลิกตอนปกติของเขา

เขาลองกลับไปคิดดู ตอนที่เฉินลู่โดนชก ส่วนร่างกายเขานั้นป้องกันไว้ได้เกือบหมด ก็มีแต่บนใบหน้านี่แหละ ที่เฉินเหลียนชกเขาอย่างเต็มแรง ไม่รู้เหมือนกันว่าชกกันเพราะความแค้นด้วยหรือเปล่า

แน่ล่ะ หลี่ถูคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าละอาย เพราะอย่างไรตอนนั้นทั้งคู่ก็กำลังโกรธมากจริงๆ

ตอนที่หลี่ถูโทรหาสวีซุ่ยหนิง เธอกำลังทานข้าวกับลั่วจือเห้ออยู่ เมื่อรับสายเสร็จ เธอก็เหมือนต้องการจะลุกออกไปจากร้านในทันที

"หนิงหนิง" ลั่วจือเห้อเรียกเธอเอาไว้

สวีซุ่ยหนิงเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด: "ฉันมีธุระนิดหน่อย ต้องขอตัวก่อน พวกเรานัดกันใหม่อีกทีวันอื่นนะ"

ลั่วจือเห้อจ้องเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้า: "ขับรถดีๆ นะ"

ตอนที่สวีซุ่ยหนิงไปหาหลี่ถู ก็เห็นว่าเฉินลู่เองก็อยู่ด้วย

เธอชะงักไปเล็กน้อย แล้วพยักหน้าให้ "แผลหายรึยัง?"

เฉินลู่ตอบ: "ฟื้นตัวค่อนข้างช้า ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย กินอะไรไม่ค่อยได้"

หลี่ถูเงียบ

คำพูดชวนอ้วกแบบนี้ ได้ฟังแล้วมันไม่คุ้นเลยจริงๆ

ไม่มีผู้ชายคนไหนยอมรับว่าตัวเองนั้นเจ็บหนักหรือป่วยหนัก ต่อให้กระดูกหักใกล้ตายยังไงก็จะกัดฟันอดทน มีแค่สองสถานการณ์นี้เท่านั้นที่จะผู้ชายจะยอมรับ หนึ่งคือตอนที่เมียไล่บี้ถาม สองก็คือผู้ชายคนนั้นรักผู้หญิงคนนั้นมากๆ และต้องการมีตัวตนในสายตาเธอ

เฉินลู่เป็นแบบไหน ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่ว่าตอนก่อนหน้านั้น เขาเคยล้มรถมอเตอร์ไซค์จนขาหัก ตอนนั้นเขายังไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาเลย แถมยังโทรเรียกรถพยาบาลเองด้วย

ล้มรถจนขาหักกับโดนชกแค่สองหมัด แน่นอนว่าตัวเขาต้องรู้ดี ว่าเทียบกันไม่ได้

หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงได้ยินเสียงเฉินลู่ เธอก็นิ่งไปครู่ใหญ่ แต่สุดท้ายแล้วก็เอ่ยว่า: "เดี๋ยวฉันจะต้มข้าวต้ม พอถึงเวลาฉันจะให้เสี่ยวเย่เอามาให้"

เฉินลู่เอ่ยออกมาอย่างจริงใจ: "ขอบคุณ"

"ฉันจะเปลี่ยนรสชาติให้ด้วย"

"ยังไงก็ได้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน