เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 279

สรุปบท บทที่ 279: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

ตอน บทที่ 279 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 279 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่เขียนโดย จิ่นอวิ๋น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หลี่ถูคิดว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรจะเทียบเลยจริงๆ เพราะเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์เสียด้วย ดูสวีซุ่ยหนิงจะใส่ใจเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นพิเศษ แล้วเด็กชายคนนั้นก็บังเอิญเป็นเฉินลู่พอดี เมื่อไหร่ที่เปิดเผย บางทีสวีซุ่ยหนิงอาจจะกลับมาคบกับเขาเพราะว่าซาบซึ้งก็ได้

แต่ไม่คิดเลยว่าเฉินลู่จะปฏิเสธข้อเสนอของเขา "ตอนนี้ยังก่อน"

หลี่ถูไม่เข้าใจ

"เขาคือเขา ฉันคือฉัน" เฉินลู่บอกมาแบบนี้ แล้วเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก

หลี่ถูยักไหล่ เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก

แผลของเฉินลู่อยู่บนใบหน้า แต่แผลยังไม่ทันหายดี เขาก็กลับไปทำงานที่โรงพยาบาลต่อแล้ว แต่ว่าทุกเที่ยง เสี่ยวเย่จะเอาข้าวมาให้เขาตรงเวลาเสมอ

ส่วนสวีซุ่ยหนิง มักจะรออยู่ด้านล่างตลอด

และส่วนใหญ่เฉินลู่ก็มักจะไม่ถามอะไรมาก ตอนที่เสี่ยวเย่กลับออกไป ก็มักจะหยิบขนมมาฝากเธอถุงใหญ่

วันนี้ ก่อนที่เธอจะออกไป เฉินลู่ก็ถามขึ้นอย่างอ้อมๆ: "เธอไม่มีเวลาที่ยุ่งบ้างเลยเหรอ?"

เสี่ยวเย่ชะงัก จากนั้นก็เข้าใจอะไรขึ้นมาได้ในทันที เธอเอ่ยว่า: "แน่นอนว่ามีสิคะ ใครบ้างที่ไม่เคยงานยุ่ง"

แต่เสี่ยวเย่ไม่ได้บอกสวีซุ่ยหนิงไปแบบทื่อๆ ว่าตัวเองนั้นยุ่ง หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงต้มข้าวต้มเสร็จแล้ว เตรียมจะให้เธอเอาไปส่ง เธอถึงจะเอ่ยออกมาอย่างเขินๆ: "พี่ซุ่ยหนิง วันนี้ฉันอาจจะเอาของไปส่งให้พี่ไม่ได้ค่ะ ฉันมีธุระนิดหน่อย นัดเพื่อนไปดูหนังน่ะค่ะ"

เธอเงียบไปแป๊บหนึ่งแล้วเอ่ยเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า "เพื่อนผู้ชาย"

สวีซุ่ยหนิงเข้าใจความหมายของเธอในทันที แน่นอนว่าเธอไม่มีทางไปขัดขวางต้นรักของเด็กสาวอยู่แล้ว ดังนั้นก็เลยยิ้มแล้วเอ่ยว่า: "อย่างนั้นก็รีบไปเถอะ"

"แล้วข้าวต้มนี่ละคะ"

"พี่ไปส่งเองได้"

สวีซุ่ยหนิงก็แค่พยายามไม่เจอหน้าเฉินลู่ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเขามากขนาดนั้น

ตอนที่เธอขับรถไปถึงที่พักของเฉินลู่ ถึงจะนึกขึ้นได้ว่า เธอยังไม่ได้เพิ่มช่องทางการติดต่อของเฉินลู่กลับมาเลย แต่ว่าบังเอิญนิดหน่อย ที่เฉินลู่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูพอดี

เดิมทีเธอตั้งใจจะวางเอาไว้หน้าประตูห้องเขาแล้วก็ไป แต่ว่าเฉินลู่กลับเชิญเธอเข้าไปนั่งด้านใน ตอนนี้ถ้าจะปฏิเสธก็ดูจะตั้งใจเกินไป เพราะฉะนั้นเธอก็เลยตกลง

ที่อยู่อาศัยหลังนี้ของเฉินลู่ เทียบกับหลังเก่า การตกแต่งภายในนั้นค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควร มีสีโทนอุ่นเพิ่มขึ้นไม่น้อย แม้แต่โซฟาก็เป็นสีชมพู

เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอ แล้วเอ่ยออกมาเรียบๆ: "เจ็บปาก"

สวีซุ่ยหนิงไม่รู้จะพูดอะไร แต่เฉินลู่กลับเป็นคนเอ่ยขึ้นมาก่อน: "ได้ยินมาว่าเธอเข้าใจผิดว่า ก่อนหน้านี้ฉันเอาชุดของโจวอี้มาใส่ให้เธออย่างนั้นเหรอ?"

เธอชะงักไปเล็กน้อย กวาดตามองเขา แล้วไม่ตอบอะไร

"ของของโจวอี้ โดนเอาออกไปหมดแล้ว ที่เหลืออยู่คือของที่ฉันซื้อมาใหม่ทั้งหมด ตั้งใจจะให้เธอ" เฉินลู่บอก

"ดังนั้นพอนายซื้อ นายก็เลยซื้อแบบเดียวกันกับที่โจวอี้เคยใส่เป๊ะๆ เลย?" สวีซุ่ยหนิงถามกลับ

เธอไม่ได้กำลังหาเรื่องเขา แต่ถ้าเขาบอกว่าเสื้อผ้าพวกนี้ให้โจวอี้ ยังฟังดูมีเหตุผลกว่าอีก อย่างน้อยเสื้อผ้าพวกนั้นก็เป็นแบบที่โจวอี้ชอบใส่

เฉินลู่เอ่ย: "ฉันก็แค่ซื้อแบบที่ฉันชอบมา ไม่เกี่ยวอะไรกับโจวอี้ ที่จริงก่อนหน้านี้เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าแบบนี้ แต่เห็นว่าฉันมักจะเลือกเสื้อผ้าแบบนี้ให้เธอ หลังๆ เธอก็เลยค่อยๆ เปลี่ยน"

สวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้ว: "ดังนั้นโจวอี้ก็เลยแต่งตามที่นายชอบ?"

"จะพูดแบบนั้นก็ได้" เฉินลู่ตอบ "ส่วนรูปแต่งงานรูปนั้น"

เขาหยุดไปเล็กน้อย แววตาของสวีซุ่ยหนิงเปลี่ยนแปลงไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน