เมื่อสวีซุ่ยหนิงเปิดประตู และมองไปที่เฉินลู่ที่แววตาค่อนข้างซับซ้อน
เฉินลู่เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ฉันยังคงไม่ไว้วางใจเรื่องเพื่อนข้างห้องของเธอ ถ้าไฟมาแล้วฉันค่อยไปดีกว่า”
เขานั่งพักเหนื่อยบนโซฟา และสักพักอาการหอบเหนื่อยของเขาก็ดีขึ้น
สวีซุ่ยหนิงส่องไฟฉายเพื่อนำผ้าขนหนูมาให้เขาเช็ดหน้า
จู่ๆ เฉินลู่ก็พูดขึ้นว่า “ฉันจำได้ว่าดูเหมือนเธอจะเคยบอกฉันครั้งหนึ่งว่าเธอรู้สึกกลัวเวลาอยู่คนเดียว แต่ฉันไม่ได้ตอบข้อความของเธอ”
สวีซุ่ยหนิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตอนช่วงแรกๆ เธอดูคลิปที่น่ากลัวมาก และห้องของเธอก็ใหญ่เกินไป ดังนั้นเธอจึงรู้สึกกลัว และแน่นอนเธอส่งข้อความไปหาเฉินลู่ซึ่งเป็นคนที่เธอสนิทมากที่สุดในเวลานั้น
จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายคอยอยู่เป็นเพื่อนข้างกายก็ได้ แค่ตอบกลับข้อความอย่างกระตือรือร้นมันก็ถือว่าเป็นการคอยอยู่เป็นเพื่อนที่ดีมากแล้ว
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตใดบนโลกใบนี้ที่รู้เหตุรู้ผลไปมากกว่าผู้หญิงแล้ว ส่วนใหญ่จะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะคิดไตร่ตรองเผื่อผู้ชาย บางครั้งก็ควบคุมความวิตกกังวลไม่อยู่
แม้ว่าเธอจะจำได้ แต่เธอก็ยังพูดว่า “ฉันลืมมันไปนานแล้ว”
“ลืมแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงฉันก็ต้องขอโทษเธอที่ฉันไม่ได้สนใจเธอในตอนนั้น” เฉินลู่ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ฉันมักจะหาเหตุผลอยู่เสมอ”
สวีซุ่ยหนิงนิ่งเงียบ
เฉินลู่ก็เงียบเช่นกัน และผล็อยหลับไปบนโซฟาของเธอ พอถึงเช้าตรู่เขาตื่นขึ้นเกือบจะในทันทีแล้วพูดขึ้นว่า "งั้นฉันไปแล้วนะ"
สวีซุ่ยหนิงพอจะมองเห็นความเหน็ดเหนื่อยและความไร้เรี่ยวแรงในดวงตาของเขา แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
หลังจากที่เฉินลู่ไปแล้ว เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ก็รู้สึกอารมณ์จมดิ่งขึ้นมาทันที
เธอไม่ควรเจอเขาบ่อยๆ เพราะเธอรู้ดีว่ามันจะมีอิทธิพลต่อใจของเธอ
กำแพงในใจถูกสร้างขึ้นแล้ว แต่ตอนนี้เขาดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก และอาจจะมีช่องโหว่ในการพังทลายกำแพงในใจอยู่เสมอ
นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดี
ผู้หญิงมักจะมีอารมณ์แปรปรวนที่ง่ายมาก ไม่ว่าจะพูดจริงจังแค่ไหนในตอนนั้น แต่พอสงบสติอารมณ์หรือหายโกรธก็จะกลับไปเดินเส้นทางเดิมเหมือนเดิม
แต่ก่อนหน้านี้เธอมักจะรู้สึกน้อยใจอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงต่อต้านหนักมาก การที่เธอมักจะมองโลกในแง่ลบส่งผลให้ต่อมาก็มีแต่ความน้อยใจเหมือนเดิม
ด้วยเหตุนี้เธอจึงดองการส่งโจ๊กไว้สองวัน
เธอไปอีกครั้งก็เพราะจะไปเจอหลี่ถู
หลี่ถูบอกว่าเขาอยู่ที่บ้านของเฉินลู่
สวีซุ่ยหนิงจึงจำใจต้องไปที่บ้านของเฉินลู่อีกครั้ง
เมื่อหลี่ถูเจอหน้าเธอเขาถามอย่างเป็นกันเองว่า "แฟนคนล่าสุดของจางอวี้ชื่ออะไรเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...