เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 288

สรุปบท บทที่ 288: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

ตอน บทที่ 288 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 288 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่เขียนโดย จิ่นอวิ๋น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เฉินลู่จ้องมองไปยังด้านหน้า เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ "ก่อนอื่นไม่ต้องพูดว่าลั่วจือเห้อนั้นสนิทชิดเชื้อกับเธอถึงขั้นนั้นหรือไม่ การกระทำจากจิตใต้สำนึกของเธอนั้นล้วนแต่เป็นการกระทำที่เธออยู่กับฉัน เห็นได้ชัดว่าเธอรู้อยู่แก่ใจว่าฉันคือใคร"

"อีกอย่าง สันจมูกของลั่วจือเห้อไม่ได้คมชัดเท่าของฉัน ฉันลูบไล้ปลายจมูกกับเธออยู่หลายครั้ง ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะไม่สามารถแยกแยะได้" เขาหยุดนิ่งไปเพียงไม่กี่วินาทีและกล่าวเสริมว่า "หากว่าเธอจำฉันไม่ได้จริงๆ ฉันก็คงไม่ทำต่อหรอก"

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าเฉินลู่ก็เป็นเช่นนี้ ต้องการบีบเค้นเธอให้ตาย

ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ทุกเหตุผลล้วนแต่ถูกเขาเปิดโปง

"ซุ่ยซุ่ย เธอต้องการใช้วิธีการตีมึนจำคนผิดเพื่อแกล้งทำเป็นไร้เดียงสากับฉันงั้นเหรอ? แค่ใช้ฉันเป็นเครื่องมือในการตอบสนองความต้องการทางร่างกายของเธองั้นสิ?" ท้ายที่สุดเฉินลู่ก็หันกลับมาจ้องมองเธอและเอ่ยอย่างจริงจัง "แต่หากเธอต้องการแบบนี้ ฉันเองก็เอาตามนั้น"

อันที่จริงหากเขาไม่พูดคำพูดเหล่านี้ สวีซุ่ยหนิงเองก็ไม่คิดจะพูดอะไร ยิ่งเขาวางสถานะของเขาต่ำเท่าไร กลับทำให้เธอรู้สึกแย่มากเท่านั้น

เธอไม่เอ่ยคำพูดใดสักคำกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่ลงจากรถ

ขณะที่ลงจากรถ ราวกับว่าเธอนั้นกำลังวิ่งอย่างสุดชีวิต

เฉินลู่มองดูการเคลื่อนไหวที่กระสับกระส่ายและค่อนข้างไม่พร้อมเพรียงกันของเธอและเอ่ย "หากว่าเจ็บก็ไปหาฉันที่โรงพยาบาล หากเธอหายากินเองก็คงไม่ดีขึ้นหรอก"

สวีซุ่ยหนิงนั้นวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

........

ตลอดทั้งวันสวีซุ่ยหนิงดูเหม่อลอยเล็กน้อย

เมื่อลั่วจือเห้อมาหาเธอ เธอไม่ได้เป็นฝ่ายริเริ่ม ในสถานการณ์ตอนนี้ เธอไม่อาจหน้าด้านหน้าทนคบหากับลั่วจือเห้อได้

แต่ครานี้ลั่วจือเห้อนั้นมีท่าทีแน่วแน่และนัดเธอออกมา

เมื่อสวีซุ่ยหนิงเห็นเข้า ภายในจิตใจของเธอก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ

"หนิงหนิง แม่ของฉันถามว่าในช่วงนี้สถานะของเราเป็นอย่างไรบ้าง" ลั่วจือเห้อเอ่ยถาม "เธอคิดว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นต้องไปต่ออีกขั้นไหม?"

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ สวีซุ่ยหนิงก็ยิ่งรู้สึกตำหนิตัวเองมากขึ้น เธอพูดด้วยความยากลำบาก "ฉันเกรงว่าฉันไม่อาจจะคบกับนายได้แล้ว เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยนะ"

"อุบัติเหตุอะไร?"

"มันเป็นอุบัติเหตุที่ฉันไม่สามารถคบหากับนายได้" สวีซุ่ยหนิงกล่าว "ต่อให้นายจะเห็นด้วย แต่แม่ของนายก็คงจะไม่เห็นด้วยหรอก เพื่อฉันแล้วนายไม่จำเป็นจะต้องโกรธเคืองครอบครัวของนายเลย แล้วก็เรื่องของบริษัท นายช่วยเพิกเฉยต่อฉันได้ไหม ฉันเองก็เกรงใจมากที่ไปรบกวนนาย"

เห็นได้ชัดว่าลั่วจือเห้อนั้นปิดปากเงียบ

เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เขาเอ่ยปากถาม "เธอคิดดีแล้วเหรอ?"

สวีซุ่ยหนิงพยักหน้า

เธอมองดูเขาอย่างจริงจังเป็นเวลานาน ไม่เห็นความเศร้าในดวงตาของเขาและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

และสำหรับตัวเธอเอง เดิมทีสวีซุ่ยหนิงคิดว่าตัวเธอนั้นมีความรู้สึกที่ดีต่อลั่วจือเห้อมากขึ้น เพียงแต่หลังจากที่เอ่ยคำพูดออกไปอย่างชัดเจนแล้วเธอคาดไม่ถึงว่าตัวเธอเองจะรู้สึกโล่งใจ

"เรื่องบริษัทนั้นไม่เป็นอะไรหรอก การที่ลงทุนกับเธอไม่ใช่ว่าฉันเองจะไม่ได้เงิน ทั้งได้เงินทั้งช่วยเหลือนั่นก็เป็นผลประโยชน์ทั้งนั้น" ลั่วจือเห้อเอ่ยติดตลก "ดูเหมือนว่าฉันจะถามช้าไปแล้ว"

"ฉันไม่รู้" ท้ายที่สุดเธอเอ่ย "แต่ที่ฉันไม่อยากพบเจอเฉินลู่ในตอนนั้น เหตุผลก็เพราะว่าเขาไม่เคยให้ฉันอยู่ในอันดับแรกของเขา ตอนนี้ก็เหมือนกัน ฉันไม่คิดว่าเฉินลู่จะไม่มีทางทรยศฉัน"

สวีซุ่ยหนิงยังคงมีความเชื่อ การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินั้นง่ายกว่าการเปลี่ยนแปลงสันดานของมนุษย์

ดังนั้นเธอคิดว่าหากเฉินลู่จะเปลี่ยนแปลง เรื่องนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย มีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจงใจแสร้งทำ

ในวันนั้นจางอวี้ตั้งใจไปตรวจสุขภาพ เธอไปพบกับเฉินลู่

"หนิงหนิงไม่ได้ตอบรับลั่วจือเห้อ" เธอเอ่ย

"งั้นเหรอ?" เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเฉินลู่ เธอสัมผัสได้ว่าท่าทีแสดงออกของเขานั้นสามารถเห็นได้ไม่มากก็น้อย

จางอวี้กล่าว "ดังนั้นตอนนี้อยากจะให้ฉันช่วยนายไหม?"

เฉินลู่ชำเลืองมองเธอ

วันรุ่งขึ้น เธอไปพบสวีซุ่ยหนิง เธอมอบกล่องของขวัญให้กับสวีซุ่ยหนิง

"เฉินลู่บอกว่านี่คือของขวัญที่เขามอบให้เธอตอนที่เขาไปบ้านของเธอ แต่เธอนั้นไม่ต้องการ ในตอนนั้นเขาทิ้งไปแล้ว แต่ระหว่างทางไปสนามบิน ท้ายที่สุดเขาก็กลับไปเก็บมันมา" จางอวี้เอ่ย แม้ว่าจะเหยียดหยามอยู่เล็กน้อย "ฉันไม่กล้าคิดภาพที่เฉินลู่คุ้ยถังขยะ"

ถังขยะขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตชุมชน ผู้คนสามารถออกมาทิ้งขยะได้ตลอดเวลา ดังนั้นเฉินลู่ เขาไม่ได้เพียงแค่มองหามันในถังขยะ แต่เขาต้องคุ้ยถังขยะจริงๆ

เฉินลู่ผู้ชายในชุดสูทและสวมรองเท้าหนังทำเรื่องแบบนี้ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็คงแปลกประหลาดมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน