คำพูดของเฉินลู่ ทำให้ผู้คนรอบข้างหันมามองเขา
สวีซุ่ยหนิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอกล่าว "นายจะไปหาฉันทำไม?"
เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ "ฉันเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากต่างประเทศมาให้พ่อเธอ เมื่อถึงเวลานั้นฉันก็ต้องรีบพาไปแนะนำ"
ที่แท้ทำตามสัญญาเรื่องบนเตียง
สวีซุ่ยหนิงเอ่ย "หากนายไปแล้วก็โทรหาฉัน ถึงตอนนั้นฉันจะเลี้ยงข้าวนาย"
เฉินลู่ตอบรับ'อืม'ด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ
เขาไม่พูดอะไรมากนัก เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนรอบข้างและไม่เข้าร่วมหัวข้อสนทนาของพวกเขา ส่วนคนรอบข้างต่อให้ไม่มีเรื่องจะพูด พวกเขาก็จะหาเรื่องมาพูดคุยกับเขา
จางอวี้โน้มตัวและกระซิบกระซาบข้างหูเธอ "คนพวกนี้ทำธุรกิจร่วมกับตระกูลเฉิน พ่อของเฉินลู่เก่งของแท้ ดังนั้นเฉินลู่เองก็อยู่ในระดับสูงเช่นกัน"
สวีซุ่ยหนิงกำลังจะโน้วตัวและตอบกลับประโยคของเธอ ทว่าร่างกายกลับแข็งทื่อ
มือของเฉินลู่วางลงบนต้นขาของเธอ กำลังจะเคลื่อนไปยังที่ใดที่หนึ่ง
เมื่อเธอหันกลับมา กลับเห็นว่าท่าทีของเขานั้นสงบนิ่ง กำลังนั่งดื่มชา ใครจะรู้ได้ว่ามือของเขาที่อยู่ใต้โต๊ะกำลังอยู่ไม่สุข
"เป็นอะไรไป?" จางอวี้เห็นว่าสีหน้าของเธอไม่ดีนักจึงเอ่ยปากถาม
"เปล่า" สวีซุ่ยหนิงนั่งตัวตรงและจับมือเขาไว้
เฉินลู่เมื่อมองแล้วเขาดูสุภาพอ่อนโยน ทว่าพละกำลังมือของเขานั้นแข็งแกร่งมาก เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้กระทำเรื่องไม่เหมาะสมแบบนี้
นิ้วมือของเฉินลู่เรียวยาว....
ฉับพลันเธอลุกขึ้นยืน ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ จางอวี้จ้องมองเธอด้วยความสงสัย
สวีซุ่ยหนิงเอ่ย "ฉันขอตัวไปห้องน้ำ"
เธอวิ่งและหายวับไปในทันที
เฉินลู่เลิกคิ้ว เขาเหยียดมือออกมาหยิบกระดาษทิชชู่และเช็ดมือ เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและตรงไปยังห้องน้ำ
.......
เมื่อสวีซุ่ยหนิงจัดการธุระของตนเองเสร็จ เธอสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง และก้าวเท้าและเดินออกจากห้องน้ำ
จากนั้นเธอเห็นว่าเฉินลู่กำลังยืนรออยู่ตรงหน้าประตูห้องน้ำ
"นายตามฉันมาห้องน้ำทำไม?" สวีซุ่ยหนิงเอ่ยด้วยความระมัดระวัง
เขาเอ่ยแฝงความนัยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "มือเปื้อนน้ำก็เลยมาล้างไง"
น้ำมาได้อย่างไร นั่นคืออีกหัวข้อที่ข้ามเส้น
สวีซุ่ยหนิงมองมือที่เรียวยาวและมองกระดูกข้อต่อที่ชัดเจนของเขาโดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่าเขาล้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เธอทำหน้าตาบูดบึ้ง ไม่สามารถยั่วยุเขาได้ นิ่งและเงียบไว้
เฉินลู่เอื้อมมือออกมาและทัดผมไว้กับใบหูของเธอพลางเอ่ย "เธอนี่ร้ายไม่เบาเลยนะ"
“เฉินลู่ นายไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว นายทำด้วยตัวนายเอง เอาแต่บอกว่าฉันทำ ฉันทำอะไร?” สวีซุ่ยหนิงอดไม่ได้ที่จะพูด
สายตาของเธอชำเลืองมองเขา กลับเห็นว่าท่าทีของเขานั้นสงบนิ่ง เธอไม่อาจสงบได้อีกต่อไป
ในตอนนี้เฉินลู่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อเธอเลย เขาเพียงแค่หยอกล้อเธอเล่นเท่านั้น
มือของเขาเคลื่อนจากใบหูของเธอไปยังด้านหลัง จากนั้นเขาคว้าเอวของเธอไว้ เอวของสวีซุ่ยหนิงนั้นบางมาก บอบบางกระทั่งเมื่อโอบกอด ทำให้คนรู้สึกอยากทำลาย เฉินลู่ก้มศีรษะลงมองใบหูของเธอพลางเอ่ย "คืนนี้ไปบ้านฉันไหม?"
ภายในใจของสวีซุ่ยหนิงมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น เธอเอ่ยด้วยท่าทีเก้ๆกังๆ "พรุ่งนี้ฉันต้องกลับตั้งแต่เช้าตรู่ ถ้าไปบ้านนายก็คงกลับไม่ทัน"
เฉินลู่ปล่อยเธอ เมื่อคิดว่าเธอสามารถจากไปได้ เขาก็ลากเธอเข้าไปยังห้องน้ำชาย
แม้ว่าในตอนแรกจูบของเฉินลู่จะดูเหมือนค่อยเป็นค่อยไป เพียงแค่สังเกตด้วยความละเอียด มีพลังงานครอบงำที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ซ่อนเอาไว้
มือทั้งสองของสวีซุ่ยหนิงวางลงบนแผงอกของเขาและคิดอยากจะผลักไส ทว่ามันก็ไร้ผล
เฉินลู่กล่าว "คุกเข่า"
สวีซุ่ยหนิงกับเขามีอะไรผ่านกันมาหลายครั้ง พอจะเข้าใจในความหมายของเขา นั่นคือต้องการให้เธอใช้ปาก เธอไม่ยินยอมและเอ่ย "สกปรกเกินไป"
สัมผัสได้ถึงอารมณ์ฉุนเล็กน้อยของเขา น้ำเสียงของเขายังคงเหมือนเดิม "ฉันบอกให้คุกเข่าลงไป"
"ไม่" ภาพทรงจำเลวร้ายของสวีซุ่ยหนิงต่างก็พรั่งพรูออกมา ร่างกายเธอสั่นเทิ้ม เอ่ยด้วยดวงตาแดงก่ำ "ฉันต้องกลับไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคนข้างนอกจะสงสัยเอาได้"
"สวีซุ่ยหนิง" เฉินลู่หรี่ดวงตาและเอ่ยเตือน
สวีซุ่ยหนิงยังคงไม่กล้ายั่วยุโทสะเขา อย่างไรก็ตามอนาคตของพ่อเธอก็อยู่ในกำมือของเขา เสียงของเธอเบาลงเล็กน้อย เธอไม่เอ่ยคำพูดใด แต่ยังคงแสดงท่าทีไม่ยินยอม
ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วเอ่ย "สิ่งนี้ฉันทำไม่ได้จริงๆ"
ตั้งแต่ที่เฉินลู่หลับนอนกับสวีซุ่ยหนิงครั้งล่าสุด เขาสนใจในตัวเธอมากขึ้น ให้ความใส่ใจแก่เธอมากขึ้น คำขอของเธอ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็สนองให้เธอ เขาชอบความกล้าและความตื่นตัว ในตอนนี้ความรู้สึกน่าเบื่อพลันปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...