สรุปตอน บทที่ 31 (1) – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น
ตอน บทที่ 31 (1) ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ยากนักที่เฉินลู่จะมีอาการปวดหัว
เมื่อถูกเธอตั้งคำถามแบบนั้น เขารู้สึกหมดความอดทน ไม่ว่ากับโจวอี้จะเป็นอย่างไร แต่เขาไม่ได้มีรสนิยมชอบแชร์รูปถ่ายบนเตียงกับบุคคลอื่น "ฉันเอาวิดีโอของเธอให้โจวอี้ดูแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร หรือคิดว่าเธอมีอะไรที่โจวอี้ไม่มีงั้นเหรอ?"
"งั้นนายก็ลบวิดีโอสิ" สวีซุ่ยหนิงจ้องมองเขา เธอยืนกรานและเอ่ย "นายลบ ฉันก็จะเชื่อนาย"
เฉินลู่เอ่ย "ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีรสนิยมความชอบ เธอไม่รู้เหรอ?"
สวีซุ่ยหนิงไม่เชื่อในความร้ายกาจของเขา "ฉันเคยทำแบบนี้กับนายแค่คนเดียว ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายจะมีรสนิยมแบบนี้? ต่อให้นายโกหกฉัน ฉันก็ไม่อาจแยกแยะได้หรอก ฉันเพียงแค่ต้องการให้นายลบวิดีโอก็เท่านั้น"
เฉินลู่เลิกคิ้ว
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก โจวอี้เกลียดชังเธอมาก เมื่อถึงตอนนั้นหากเธอเผยแพร่คลิปวิดีโอลงบนโลกโซเชียลไปจะทำยังไง? เธอสามารถให้เฉินลู่ได้ แต่เธอจะต้องน่าเวทนาอย่างแน่นอน
"เฉินลู่ นายยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหม?" เธอเอ่ยอย่างอดทน "รังแกฉันที่เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว นี่มันเป็นความสามารถภาษาอะไรกัน?"
“เมื่อเธออยู่ภายใต้ฉันก็ดูกระตือรือร้นอยู่ไม่น้อย” เฉินลู่เอ่ยด้วยท่าทีสนอกสนใจ "ก็แค่คนอย่างเธอ ต่อให้เป็นคนอื่น ใครก็สามารถรังแกเธอได้"
หัวใจของสวีซุ่ยหนิงรู้สึกหนาวยะเยือก เธอรู้ ไม่ว่าเธอจะอยู่หรือตาย อย่างไรเขาก็ไม่แม้แต่จะเหลียวแลเธอ
หากวันหนึ่ง เฉินลู่ตกอยู่ในเงื้อมมือของเธอ เธอจะทำให้เขาได้ลิ้มรสความรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอกแบบนี้อย่างแน่นอน
"หนิงหนิง แกเป็นอะไรหรือเปล่า?" ฉับพลันเสียงของพ่อสวีก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เขาจ้องมองเฉินลู่ด้วยใบหน้าเกรี้ยวกราด จากนั้นขยับสวีซุ่ยหนิงไปอยู่ด้านหลังเขาพลางเอ่ย "เขารังแกแกเหรอ?"
ท่าทีของพ่อสวีราวกับกำลังจะเข้าไปหาเรื่องเฉินลู่
สวีซุ่ยหนิงตื่นตระหนก รีบคว้าพ่อสวีไว้ เธอเกรงว่าเฉินลู่จะขัดเคือง ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มพลางเอ่ย "พ่อ ไม่ใช่นะคะ เขาคือหมอเฉิน เขาคือคนที่หาแพทย์เฉพาะทางมารักษาพ่อไงคะ หนูดีใจมากเลยล่ะค่ะ"
เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย "คุณลุง สวัสดีครับ"
พ่อสวีกล่าวขอโทษ "ต้องขอโทษด้วย ฉันนึกว่าลูกสาวของฉันโดนรังแก ขึ้นไปทานอาหารเช้าด้านบนด้วยกันดีไหม? ภรรยาของฉันไปซื้ออาหารเช้าแล้ว คงกำลังกลับมาแล้วล่ะ"
เห็นได้ชัดว่าเฉินลู่ไม่ได้คิดจะเชื่อมมิตรไมตรีกับครอบครัวสวี เขาเอ่ยด้วยท่าทีเหินห่าง "มีธุระนิดหน่อย ต้องขอตัวก่อนครับ"
สวีซุ่ยหนิงพะว้าพะวังเป็นทุกข์ใจตลอดทั้งวันเพราะเรื่องวิดีโอ ทางด้านแม่สวีเกิดความสงสัย สวีหร่านจากไปได้อย่างไร เธอจึงโทรติดต่อหาเขา อีกฝ่ายยังคงสุภาพแต่ทว่ามีท่าทีที่ไม่อยากสนิทชิดเชื้อ
เมื่อได้ถามสวีซุ่ยหนิง เธอได้คำตอบมาว่าระหว่างสวีหร่านและลูกสาวของเธอนั้นไม่อาจจะพัฒนาได้อีกแล้ว
พ่อสวีและแม่สวีต่างก็รู้สึกได้ จากนั้นพวกเขาก็ไม่กล้าทานอาหารอีก
หัวใจของสวีซุ่ยหนิงแตกเป็นเสี่ยง เธอทำให้พ่อและแม่ต้องตกอยู่ในสภาวะที่น่าอับอาย
เธอแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้อะไร จากนั้นคีบอาหารให้พ่อสวีและแม่สวีพลางเอ่ย "พ่อคะ แม่คะ พวกคุณทานข้าวกันเถอะ หมอเฉินบอกกับหนูไว้ว่าก่อนหน้านี้เขาได้นัดเพื่อนทานข้าวไว้แล้ว เขาคงจะไม่หิว พ่อกับแม่ไม่ต้องสนใจเขาหรอกค่ะ"
เฉินลู่มองสวีซุ่ยหนิง เขาเอ่ยปาก "คุณลุง คุณป้าไม่ต้องเกรงใจ ผมทานมาแล้วครับ"
ทว่าพ่อสวีและแม่สวีไม่เชื่อในคำพูดทั้งหมดของเขา หมอเฉินผู้นี้คงจะหยามเหยียดพวกเขาอยู่ไม่น้อย พวกเขาสามารถสัมผัสได้ ต่อไปนี้ต้องระวังให้มากขึ้น พวกเขาทานอาหารไปเพียงไม่กี่คำ
สวีซุ่ยหนิงไม่รู้รสอาหาร ความคิดที่อยากจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของเฉินลู่นั้นทวีคูณมากยิ่งขึ้น เธออยากจะตบใบหน้าทั้งสองฝั่งของเขาอยู่ตลอดเวลา
ทว่าสวีซุ่ยหนิงไม่มีความสามารถนั้น
เธอทำได้เพียงแค่แสดงท่าทางอ่อนแอ ผ่านช่องทางวีแชท เธอเกลี้ยกล่อมให้เฉินลู่ออกไป ท้ายที่สุดระหว่างทางเดินเธอก็ติดสินบนเขา เธอเขย่งปลายเท้าและประทับจุมพิตให้แก่เขา ความโกรธทั้งหมดที่อยากจะตบเขาระบายผ่านจุมพิตนี้
เห็นเงาธนูในจอกเป็นงู[1] ใช้เปรียบเทียบกับคนขวัญอ่อน แตกตื่นตกใจกลัวไปกับจินตนาการที่ตนเองสร้างขึ้นโดยไม่สำรวจความจริงให้ถ่องแท้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...