สวีซุ่ยหนิงเอนกายอยู่ภายใต้ผ้าห่ม ย่อมมองไม่เห็นถึงการสำรวจของเด็กสาวคนนั้น
เมื่อให้ความร่วมมือทางร่างกายกับเฉินลู่ หลังจากนั้นร่างกายของเธอมักรู้สึกเหนื่อยล้า ผ่านไปครู่หนึ่ง เปลือกตาของเธอก็เริ่มทะเลาะกัน
ดวงตาของสวีซุ่ยหนิงปิดสนิทและเตรียมพร้อมที่จะนอน
การมาเยือนของเด็กสาว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับของเธอเลยแม้แต่น้อย
เวลาผ่านไปนาน เด็กสาวไม่เห็นถึงการขยับใดๆ ในที่สุดเธอก็ลุกขึ้นและเดินไปหาเฉินลู่ในห้อง
เมื่อเข้ามาภายในห้องนอน เธอได้ยินเสียงน้ำไหล
เฉินลู่กำลังอาบน้ำ
เด็กสาวเดินเข้าไป เธอหมุนลูกบิดประตู ประตูห้องน้ำอาบไม่ได้ล็อค เธอเปิดประตูอย่างใจกล้า แต่ทว่าน่าเสียดายเธอเห็นว่าเฉินลู่อาบน้ำเสร็จแล้วและกำลังสวมชุดนอน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงมองเห็นแผ่นหลังของเขา เมื่อเขาได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาหันกลับมาและมองเธออย่างเกียจคร้าน
ใบหน้าของเด็กสาวแดงก่ำจนไม่อาจแดงได้อีก ชมพูระเรื่อ แสดงให้เห็นถึงความเป็นหญิงสาว
เฉินลู่ไม่ได้เอ่ยปากตําหนิพฤติกรรมของเธอ เพียงแค่หันหลังกลับและเดินออกไป เด็กสาวคนนั้นก็เดินไล่ตามหลังเขา
เมื่อมาถึงห้องรับแขก เธอเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ป๊ะป๋าคะ ฉันอยากดื่มน้ำ"
เฉินลู่ค่อยๆเลิกคิ้วขึ้น หันกลับมารินน้ำให้เธอ
แต่ทว่าในขณะที่เขารินน้ำ แขนเล็กๆสองข้างก็โอบรัดรอบเอวของเขา มือคู่นั้นสัมผัสหน้าท้องของเขาอย่างเบามือด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจ
"ป๊ะป๋ามีซิกแพ็คด้วย" เธอยิ้มหวาน หางเสียงของเธอลากยาว เผยให้เห็นถึงท่าทีเย้ายวน
มือทั้งสองข้างเคลื่อนต่ำลงมา
เฉินลู่มองด้วยความสนใจ และไม่ได้หยุดการกระทำนั้น เขาเอ่ยปากถาม "กลัวผีจริงๆงั้นเหรอ?"
"กลัวสิคะ กลัวมากด้วย" เด็กสาวโอบรัดเขาไว้แน่น เอนศีรษะพิงแผ่นหลังของเขา "น่ากลัวมาก ฉันไม่กล้านอนคนเดียวเลย"
เฉินลู่ยิ้มพลางเอ่ยด้วยเสียงนิ่งเรียบ "ไม่ใช่ว่าอยากนอนกับป๊ะป๋าเหรอ?"
"ก็ถ้านอนกับป๊ะป๋า ฉันก็ไม่กลัวแล้ว" ใบหน้าของเด็กสาวถูไถบนแผ่นหลังของเขาพลางเอ่ย "ป๊ะป๋าต้องเก่งกาจมากอย่างแน่นอน"
"ฮืม?" เขาส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ ท่าทีของการยั่วยวนนั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก
"ป๊ะป๋าคะ ฉันกลัวว่าจะถูกคุณรังแกจนลุกไม่ไหว"
เฉินลู่เอ่ย "เธอยังเด็ก"
ในระหว่างบทสนทนาของพวกเขา สวีซุ่ยหนิงไม่ได้ผล็อยหลับไป เธออวดว่าเธอเข้าใจความแตกต่างระหว่างน้ำเสียงปฏิเสธและน้ำเสียงยอมรับของเฉินลู่
ประโยค "เธอยังเด็ก" การปฏิเสธที่ดูเหมือนการปฏิเสธ แต่ทว่าน้ำเสียงการปฏิเสธของเขานั้นกลับไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น เด็กสาวเรียนมหาลัย ก็ไม่เด็กแล้ว ต่อให้จะทำอะไรก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย
เฉินลู่กำลังสวมหน้ากากสมบัติผู้ดีให้กับตัวเอง เขาพูดเช่นนี้ หากว่าเด็กสาวยังคงยืนกรานคำเดิม นั่นคือสิ่งที่เด็กสาวต้องการ เช่นนั้นแล้วเขาก็ให้ความร่วมมืออย่างอดไม่ได้
แต่อย่างไรเสีย สวีซุ่ยหนิงคิดว่าพวกเขาทั้งสองมีอะไรกันนานแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังไม่มี
แผ่นกระดาษที่เป็นชนวนของสงคราม ตอนนี้ได้พังทลายลงแล้ว
เด็กสาวช้อนตามองพลางเอ่ย "ป๊ะป๋าคะ ฉันสามารถใช้ปากได้นะคะ"
ท้ายที่สุด เฉินลู่ก็หันกลับมาและจ้องมองเธอ
"คุณคือป๊ะป๋าของฉัน ให้ฉันได้ปรนนิบัติ มันก็เป็นเรื่องที่เหมาะควรอยู่แล้วค่ะ" เด็กสาวรู้ว่าเฉินลู่มีความสนใจแล้ว ดวงตากลมโตส่องประกายพลางเอ่ย "ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ"
กระทั่งสวีซุ่ยหนิงเห็นว่าเด็กสาวคนนั้นเข้าห้องน้ำไปแล้ว เธอจึงยกผ้าห่มขึ้น เมื่อเธอเห็นใบหน้าของเฉินลู่ เธอชะงักงัน เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจ นัยต์ตาของเขาเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้น
เธอคลุมตัวเองด้วยผ้าห่มแล้วถามเขา "คืนนี้ให้ฉันอยู่ที่ไหน?"
พวกเขาคงส่งเสียงดังมาก เธอจะต้องนอนไม่หลับแน่ ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าเธอและเฉินลู่จะไม่บริสุทธิ์ แต่เมื่อได้เห็นชายที่เคยโอบกอดเธอ ไปกระทำสิ่งโกลาหลอลหม่านกับคนอื่น เธอก็คงจะรู้สึกแปลกอยู่ไม่น้อย
เฉินลู่เอ่ยด้วยท่าทีครุ่นคิด "จองห้องอื่นให้เธอไหม?"
สวีซุ่ยหนิงคิดว่าโอเค เธอเข้าไปด้านในห้องด้วยความระมัดระวังและสวมเสื้อผ้าของเธอ เฉินลู่นั่งลงข้างกายเธอ มองดูเธอเก็บสัมภาระ จากนั้นเธอยืนขึ้นตรงหน้าเขาพลางเอ่ย "ไปกัน ไปจองห้องกัน"
เฉินลู่เหลือบมองที่ห้องน้ำ เขาใจจดใจจ่ออยู่กับคนในห้องน้ำพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เธอไปจองเองเลย"
"ได้ งั้นนายเอาเงินมาให้ฉัน"
เฉินลู่กล่าว "เธอจ่ายไปก่อน"
"แบบนั้นไม่ได้" สวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้วเอ่ย "นายไม่จ่ายคืนฉันจะทำยังไงล่ะ?"
เขาออกจะขี้งกกับเธอขนาดนั้น อีกอย่างเขาอาจจะจำเงินจำนวนน้อยเหล่านี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เฉินลู่ละสายตากลับมา ท้ายที่สุดเขาก็จ้องมองเธอด้วยสายตาจริงจังพลางเอ่ย "เห็นโทรศัพท์ฉันไหม? ไปหยิบมา ฉันจะโอนเงินให้เธอ"
สวีซุ่ยหนิงมองไปรอบๆ หลังจากที่เธอเห็นโทรศัพท์มือถือ เธอส่งมันให้กับเขา จากนั้นเขาโอนเงินมาจำนวนไม่น้อย
เฉินลู่เอ่ยอย่างมีความหมาย "ให้เธอเท่าไร ก็จองไปแบบนั้น ไม่ใช่ว่าให้หนึ่งหมื่นแล้วไปจองห้าร้อย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...