สวีซุ่ยหนิงจ้องมองใบหน้าเพียงครึ่งซีกของลั่วจือเห้อ รอยแดงนั้นเด่นชัดเป็นอย่างมาก สามารถเห็นได้เลยว่าเสิ่นเจวียนนั้นใช้แรงมากขนาดไหน เธอไม่กล้าคิดจินตนาการเลยว่าหากฝ่ามือนี้ฟาดลงบนใบหน้าของเธอ มันคงจะน่าเวทนามาก
เธอรู้สึกขอโทษลั่วจือเห้อกับเหตุการณ์นี้ ขณะที่เธอคิดจะถามเขาว่าให้เธอขึ้นไปเอายาลดบวมมาให้เขาดีไหม ทว่าเธอยังไม่ทันเอ่ยปาก เธอพลันได้ยินคำพูดที่เย็นชาจากเฉินลู่
"ยังมองเขาอยู่อีก?"
สวีซุ่ยหนิงตื่นตกใจเพราะเสียงของเฉินลู่ เมื่อเธอหันกลับไปมองเขา เธอเห็นว่าเขากำลังมองเธออย่างเย็นชา
เธอมีปฏิกิริยาย้อนหลัง หยอกล้อคนโง่ที่เฉินลู่กล่าว คนโง่นั้นเกรงว่าคงจะไม่ได้หมายถึงเธอหรอกใช่ไหม
สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าเฉินลู่กำลังคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าการโต้เถียงกับเธอนั้นสนุกตรงไหน
แต่เมื่อได้ลองคิดอีกครั้ง หากว่าคนอย่างเฉินลู่สามารถคาดเดาได้อย่างง่ายดาย การจับเขาก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นแสนเข็ญ
"ยังไม่มานี่อีก?" เมื่อเห็นว่าเธอยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เฉินลู่ขมวดคิ้วและเอ่ย
เขาเอ่ยปากเช่นนี้ เห็นได้ชัดและพิสูจน์ได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นไม่ง่ายดายแล้ว
เดิมทีสวีซุ่ยหนิงไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอและเฉินลู่ และเธอก็ไม่อยากให้ลั่วจือเห้อรับรู้ด้วย แต่ตั้งแต่วินาทีที่เฉินลู่ขึ้นไปชั้นบน เธอได้เตรียมใจและทำใจไว้แล้วว่าคนอื่นจะต้องรู้อย่างแน่นอน
จากมุมหางตาของเธอ เธอเหลือบมองลั่วจือเห้อ เห็นว่าท่าทีการแสดงออกของเขานั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองเธอด้วยสายตาซับซ้อน
เมื่อเห็นเช่นนั้น สวีซุ่ยหนิงมีความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ เธอรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
ภายใต้การจ้องมองของเขาและเสิ่นเจวียน สวีซุ่ยหนิงเดินเข้าไปหาเฉินลู่ จากนั้นเธอยืนข้างกายเขา
เสิ่นเจวียนพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทีน้อยเนื้อต่ำใจ "รุ่นพี่คะ คุณไม่ชอบฉันสักนิดเลยงั้นเหรอคะ?"
เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เธอไปดูลั่วจือเห้อก่อนเถอะ"
เช่นนั้นแล้วเสิ่นเจวียนพลันนึกถึงลั่วจือเห้อ เธอรีบหันหน้ากลับไปดูเขาและเอ่ย "พี่เห้อ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะพี่ ฉันไม่ได้คิดจะลงไม้ลงมือกับพี่เลย คนที่ฉันอยากตบคือ...."
ลั่วจือเห้อกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง "ไม่เคยมีใครสั่งสอนเธอแบบนี้ ยังไม่เข้าใจเหตุและผลก็ไปตบสั่งสอนคนอื่น"
เสิ่นเจวียนหน้ามุ่ยและเอ่ย "แต่เธอแพศยามากนี่นา ฉัน...."
เอ่ยไปได้เพียงครึ่งประโยค เธอก็พบว่าสายตาของลั่วจือเห้อดูเย็นยะเยือกมากยิ่งขึ้น เช่นนั้นแล้วเธอเงียบปาก ดวงตาแดงระเรื่อ ราวกับว่ากำลังได้รับความไม่เป็นธรรม
"ฉันจะส่งเธอกลับเอง" ลั่วจือเห้อเอ่ยและจ้องมองเฉินลู่
ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อาจปล่อยให้เฉินลู่ไปส่งเธอได้อีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...