สวีซุ่ยหนิงแก้ความเข้าใจผิด "ฉันหน้าแดงที่ไหน"
เฉินลู่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดว่า "เธอก็รู้ว่าเธอเป็นเหมือนคลื่น ถึงเธอจะสงบแค่ไหน ก็เป็นไปได้ยากที่คนเขาจะไม่คิดมาก เรื่องของสวีหร่านผ่านไปนานมากแล้ว เธอยังไม่เข้าใจความหมายของฉันอีกเหรอ"
สวีซุ่ยหนิงเกือบจะเข้าใจว่าก่อนที่ความสัมพันธ์นี้จะจบลง อย่างน้อยเธอก็ต้องรู้สถานะของตัวเอง
คำว่ารู้สถานะของตัวเองค่อนข้างหนักกว่าความหมายเดิมของมันเล็กน้อย คือต้องพยายามอย่าใกล้ชิดกับผู้ชาย
สวีซุ่ยหนิงนอนอยู่บนเตียงแล้วพูดว่า "ลั่วจือเห้อไม่ชอบฉัน"
"แน่นอนว่าเขาจะไม่ชอบเธอ" เฉินลู่กล่าว "เขาไม่ชอบเธอ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่พลาดท่า"
ประโยคนี้พูดเพื่อเป็นตัวอย่าง เฉินลู่ก็พลาดท่ากับเธอ และหลายครั้งมากด้วย และเขาก็ไม่ได้ชอบเธอเหมือนกัน ในใจของเขายังถูกครอบครองโดยบุคคลนั้น ขนาดหัวเตียงยังมีรูปแต่งงาน และตู้เสื้อผ้าก็ยังมีเสื้อผ้าของเธอคนนั้น
สวีซุ่ยหนิงพูด "แล้วความสัมพันธ์ระหว่างเสิ่นเจวียนกับลั่วจือเห้อล่ะ"
"แต่เดิมเสิ่นเจวียนเป็นลูกสะใภ้ที่ตระกูลลั่วหาให้ลั่วจือเห้อ แต่เสิ่นเจวียนไม่ชอบเขา ดังนั้นการแต่งงานครั้งนี้จึงล่าช้า" เฉินลู่พูด "เธอก็เห็นแล้วนี่ว่า ลั่วจือเห้อปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี ปกป้องเธอตลอด"
สวีซุ่ยหนิงเงียบและพูดว่า "พวกเขาจะไม่แต่งงานกันอีกใช่ไหม"
"อย่างที่เห็น ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ลั่วจือเห้อไม่มีผู้หญิงอยู่ข้างตัวมาหลายปีแล้ว มันไม่สำคัญสำหรับเขาว่าจะแต่งงานกับใคร อาจจะเป็นสาวน้อยข้างบ้านที่เขาเลี้ยงมาจนโต หรือตัวเลือกอื่นที่ไม่เลวก็เป็นไปได้"
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าเฉินลู่เป็นคนเลวจริงๆ เขารู้ว่าสิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้น แต่เขาก็ยังเอากับผู้หญิงของคนอื่น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้กลัวเรื่องฟันแล้วทิ้ง และเขาไม่สนใจเลย ถ้าเขาฟันแล้วทิ้ง แล้วเด็กหญิงคนนั้นจะทำยังไง
เฉินลู่ไม่สนใจความเป็นความตายของเสิ่นเจวียน
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกตกใจอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าเขาเป็นคนเลือดเย็นจริงๆ แม้แต่น้องสาวข้างบ้านที่เติบโตมาด้วยกันก็ไม่สนใจ
ถ้าวันหนึ่งเธอถูกเขาฟันแล้วทิ้ง ผลจะเป็นยังไง
สวีซุ่ยหนิงไม่กล้าคิด อยู่ดีๆก็หนักใจขึ้นมา
เฉินลู่จะทิ้งเธอเหมือนขยะ ทิ้งเธอไว้ไกลๆ จากนั้นก็มองเธอด้วยความเย็นชา และหันหลังจากไปโดยไม่เหลียวแล
โชคดีที่สวีซุ่ยหนิงคิดไปคิดมาและผล็อยหลับไป
แม้ว่าเครื่องปรับอากาศในห้องของเฉินลู่จะเปิดอยู่ แต่ผ้าห่มบางเกินไป ด้วยความหนาวกลางดึกสวีซุ่ยหนิงจึงเข้าไปซุกในอ้อมแขนของเขา และกอดแน่น ทำเหมือนเขาเป็นหมอนข้าง
ตอนเขานอน เขาไม่ชอบให้สวีซุ่ยหนิงมาเกาะเขา หลังจากที่เธอซุกเขาหลายครั้งติดต่อกัน เฉินลู่จึงเตะเธอตกเตียงด้วยใบหน้าที่เย็นชาและไม่ลังเล
มีพรมอยู่ในห้อง เธอไม่มีทางเจ็บ ก่อนเฉินลู่จะทำการเตะ เขาก็ได้คิดถึงเรื่องนี้แล้ว
เฉินลู่นอนลงครู่หนึ่ง และในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นและเอาผ้าห่มให้เธอ
สวีซุ่ยหนิงคนใจใหญ่ไม่ตื่นเลยทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสางเธอถึงรู้ว่าเธอกำลังนอนอยู่บนพื้น ดังนั้นเธอจึงรีบลุกขึ้น เปิดผ้าห่มของเฉินลู่แล้วซุกตัวเข้าไปข้างใน
ความหนาวเย็นอย่างกะทันหันปลุกเฉินลู่ขึ้นอีกครั้ง เขาตื่นด้วยอารมณ์ไม่ดีนัก ก่อนจะขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา "ออกไป"
สวีซุ่ยหนิงง่วงมากจนได้ยินสิ่งที่เขาพูดไม่ชัด รู้เพียงแต่ว่าตอนที่เขาเอาเปรียบเขาจะพูดเพราะเล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงหลับตาและจูบเขาไปมั่วๆ
จูบนี้โดนตรงลูกกระเดือกของเขาพอดี ก่อนเธอจะขยับหน้าลงอีกนิดซบตรงหน้าอกของเขา
สวีซุ่ยหนิงไม่ขยับ เธอยังซุกอยู่บนตัวเขา และพูดอย่างอารมณ์ดีว่า "นอนนอน"
เฉินลู่ขมวดคิ้วแน่น
เขาพูด "เธอไปนอนฝั่งนู้น เลยเขตแล้ว"
สวีซุ่ยหนิงไม่ขยับ
เฉินลู่เอื้อมมือออกไปลากเธอไปด้านข้าง ผ้าปูที่นอนด้านข้างนั้นเย็นเพราะไม่มีใครนอน และผู้หญิงก็ทนต่อความหนาวได้น้อยกว่าผู้ชาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...