สรุปตอน บทที่ 38 (1) – จากเรื่อง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น
ตอน บทที่ 38 (1) ของนิยายการโต้แย้งเรื่องดัง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดยนักเขียน จิ่นอวิ๋น เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เพียงพริบตา เซี่ยซีก็มองออกว่าเด็กสาวคนนั้นคือสวีซุ่ยหนิง
รูปร่างของสวีซุ่ยหนิงงดงามมาก เธอสูง ผอมเพรียว มีสัดส่วนเว้าโค้ง เธอรู้สึกประทับใจมาก สามารถมองออกได้อย่างง่ายดาย
ขณะนั้นเซี่ยซียืนอยู่ไม่ไกลนัก รู้สึกว่าในเรื่องของความสูงที่แตกต่างกันมาก การจูบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ สวีซุ่ยหนิงเขย่งเท้าจนร่างกายของเธอสั่นสะท้าน หากว่าไม่ใช่เพราะเฉินลู่คอยประคองไว้ เธอก็อาจจะล้มลงไปนานแล้ว
เธอจ้องมองชายคนนั้นกำลังประทับจูบ จากนั้นหยุดลง มือเริ่มอยู่ไม่นิ่ง เริ่มจากเอวของเธอ เคลื่อนลงไป ท้ายที่สุดก็หยุดลงบริเวณหน้าอก จากนั้นจับและลูบคลำ
เฮอะ
เซี่ยซีหรี่สายตาและจ้องมอง ทำท่าทีราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
อีกด้านหนึ่งสวีซุ่ยหนิงขวยเขินและคิดอยากจะเบี่ยงตัวหลบ ทว่ากลับถูกเฉินลู่ปรามไว้ "อย่าขยับ"
เธอเอ่ย "หากนายสัมผัสอีกก็คงไม่ต้องไปทำงานแล้ว"
เฉินลู่เลิกคิ้วขึ้น ในขณะที่เขากำลังจะพูด เขาเห็นเซี่ยซียืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเขาซีดเผือดและผลักสวีซุ่ยหนิงทันที
สวีซุ่ยหนิงหันหลังกลับไปมองด้วยความฉงน จากนั้นก็เห็นว่าเซี่ยซีกำลังยืนอยู่ด้านหลังของเธอ เซี่ยซียิ้มพลางเอ่ย "รบกวนเวลาพวกเธอแล้ว?"
เฉินลู่เหลือบมองนาฬิกาของเขา นี่ก็สายมากแล้ว เขาไม่เหลือบมองสวีซุ่ยหนิงแม้แต่น้อย เพียงเอ่ยปากบอกเซี่ยซี "มีอะไรก็โทรมา" เมื่อเอ่ยจบเขาก็กำลังจะก้าวเท้าเดินจากไป
เซี่ยซีกล่าว "ก็ไม่ได้มีอะไรหรอก มีเพื่อนคนหนึ่งขอให้ฉันมาบอกกับแกว่าช่วยนัดเวลาตรวจสุขภาพให้หน่อย"
เฉินลู่พยักหน้า ขณะที่เขาเดินผ่านสวีซุ่ยหนิง เขาเหลือบมองเธอเบาๆ "จะไม่กลับไปหรือไง?"
สวีซุ่ยหนิงกำลังจะจากไป เซี่ยซีเอ่ย "เธออยู่ที่นี่ก่อน ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"
เฉินลู่ชำเลืองมองเธออีกครั้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร จากนั้นเขาก็เดินจากไป
สวีซุ่ยหนิงเข้าใจในความหมายของเขา ให้เธอระวังคำพูดเมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยซี
เซี่ยซีเดินขึ้นไปยังชั้นบน เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงห้องของเฉินลู่ เธอมองไปรอบห้องของเฉินลู่ ภายในถังขยะ มีทิชชู่ที่ใช้แล้วกองอยู่ด้านใน บนเตียงนอนก็รกมาก ผ้าห่มทั้งสองผืนก็ม้วนเข้าหากันอย่างไม่แยกจาก
เมื่อเธอมองขึ้นไป หัวเตียงยังคงแขวนรูปถ่ายงานแต่งงานระหว่างโจวอี้และเฉินลู่ สำหรับคนนิสัยประหลาดอย่างเฉินลู่ นัยต์ตาสะท้อนให้เห็นรอยยิ้ม ดูสะดุดตาเป็นอย่างมาก
เธอหันกลับไปมองสวีซุ่ยหนิงด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ ยิ้มพลางเอ่ย "เมื่อวานหลับนอนกับเฉินลู่ใช่หรือเปล่า?"
สวีซุ่ยหนิงสัมผัสปลายจมูกและนิ่งเงียบ
เซี่ยซีเอ่ย "การหลับนอนบนเตียงเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและยังไม่มีการจดทะเบียนตามกฎหมาย มีความหมายอะไรหรือเปล่า?"
สวีซุ่ยหนิงกล่าว "พวกเราไม่ได้รักกันค่ะ เรื่องที่ถูกต้องหรือว่าการจดทะเบียนตามกฎหมาย มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยค่ะ"
แม้ว่าในตอนนี้เธอจะคิดว่าการเล่นสนุกแบบนี้เป็นเรื่องปกติในสังคม ใช้ชีวิตด้วยความสมบูรณ์แบบ ย่อมรักอิสระ ต่อให้เฉินลู่จะเลวอีกสักแค่ไหน แต่สำหรับเธอแล้ว อย่างมากที่สุดเขาก็เป็นเพียงเจ้านายและคู่นอน เธอจะไม่มีความสุขเลยสักนิดงั้นเหรอ
แต่เรื่องของการแต่งงาน เธอไม่สามารถยอมรับผู้ชายที่ชอบนอกใจได้
หากเธอคบหากับเฉินลู่ อนาคตไม่รู้เลยว่าเธอจะต้องถูกสวมเขาไปอีกกี่ครั้ง เธอไม่ชอบการถูกสวมเขา
ประกอบกับความไม่แน่นอนของเฉินลู่ เธอไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีต่อเฉินลู่เลยสักนิด
แน่นอน ก่อนหน้านี้สวีซุ่ยหนิงไม่เคยได้รับสิ่งที่ดีแบบนี้ เธอคิดอยากจะไขว่คว้าหาความรักที่บริสุทธิ์ แต่ทว่าเมื่อเห็นเจียงเจ๋อและเฉินลู่ เธอก็ค่อยๆเปิดโลกกว้างและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
เซี่ยซีเลิกคิ้วและเอ่ยถาม "งั้นเหตุผลที่เธอตามติดลูกชายของฉันคืออะไร เพราะเงินของเขาเหรอ?"
สวีซุ่ยหนิงครุ่นคิด เธอเอ่ยอย่างเชื่องช้าและตอบตามความจริง "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงค่ะ"
เซี่ยซี "........"
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเอ่ยว่า "หากว่าคุณมีใครที่ดีกว่าและคิดอยากจะแนะนำหนู ขอให้เขาอารมณ์ดีสักนิด แล้วหนูก็จะไม่เกาะแกะลูกชายของคุณอีก"
เซี่ยซีเอ่ย "เธอใจกล้ามาก"
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าเธออยู่กับเฉินลู่แล้วเธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไร เขาหล่อแล้วยังไง ถ้าหากหล่อแล้วเข้ากันได้ยากก็หาคนหน้าตาแย่กว่าหน่อยจะเป็นอะไรไป หากว่ามีโอกาสนั้นจริงๆ จะลองเปลี่ยนก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ในขณะเดียวกัน สวีซุ่ยหนิงก็ได้ทำตามในสิ่งที่เฉินลู่ต้องการ ทำลายความคิดของเซี่ยซีทิ้งซะ
เซี่ยซีคิดอยากให้เธอมาเป็นไม้กันหมาในเรื่องระหว่างโจวอี้และเฉินลู่
เซี่ยซีเอ่ย "มีคนมากมายอยากเอาชนะใจเฉินลู่"
นั่นยังไม่มากเท่าที่อยากได้เงินของเฉินลู่ น่าเสียดายที่เฉินลู่ไม่มอบให้เธอ "หนูอยู่กับเฉินลู่แบบเขาร้องขอแล้วหนูสนอง แบบนี้ก็ดีมากแล้ว เจอกันด้วยดีจากกันด้วยดีค่ะ"
แต่ทว่าในช่วงเย็น เธอได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินลู่
น้ำเสียงของเขาราบเรียบเป็นอย่างมาก ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องรูปภาพเลยสักคำเดียว เพียงแค่บอกให้เธอกลับไป
กระทั่งสวีซุ่ยหนิงมาถึง ทันทีที่เธอเข้าไปภายในบ้าน เธอเห็นว่าเฉินลู่ได้เก็บรูปภาพงานแต่งขึ้นมาแล้ว เขากำลังเช็ดทำความสะอาดด้วยความระมัดระวัง
"ฉันไม่ได้ทำนะ" สวีซุ่ยหนิงเลือกที่จะพูดถึงตัวเองก่อน
"เธอไม่กล้าขนาดนั้นหรอก" เฉินลู่เอ่ยด้วยท่าทีนิ่งเฉย "หากว่าเป็นเธอ เกรงว่าในตอนนี้เธอก็คงจะแหลกละเอียดเหมือนรูปภาพนี้ไปนานแล้ว"
สวีซุ่ยหนิงฟังไม่ออกว่าในตอนนี้เฉินลู่อยู่ในอารมณ์แบบไหน น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งมาก ไม่รู้ว่าภายใต้ท่าทีสงบนิ่งนี้เขาได้ซ่อนกลิ่นคาวเลือดไว้หรือไม่
เธอนิ่งเงียบ เธอเลือกควบคุมสติและหาทางเอาตัวรอด
แต่เธอรู้ดีว่าเฉินลู่นั้นอารมณ์ไม่ดีมาก
ตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนกระทั่งเที่ยงคืน เขารอเพียงให้ช่างซ่อมแซมรูปภาพนั้น
ในช่วงระยะเวลานี้เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ เขาเพียงแค่จ้องมองรูปภาพนั้นด้วยความเงียบ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
สวีซุ่ยหนิงนั่งด้านข้างและนิ่งเงียบเช่นกัน
เฉินลู่เอ่ยด้วยท่าทีสงบนิ่ง "ครั้งแรกที่ฉันเจอเธอ ฉันเกลียดเธอมาก คะแนนก็ย่ำแย่ ทั้งยังชอบทำตัววุ่นวาย แต่เธอชอบที่จะเข้าใกล้ฉัน มากไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม แต่ในทุกครั้งกลอุบายนั้นใครต่างก็มองออก"
สวีซุ่ยหนิงชำเลืองมองเขา
"ต่อมา เธอก็คอยหยอกล้อฉัน จากนั้นเธอก็รู้สึกเบื่อ เมื่อเบื่อแล้วเธอก็จากไป ยั่วยุฉันแล้ว ฉันก็อยากจะกักขังเธอไว้ตลอดทั้งชีวิต" เฉินลู่เอ่ยด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ
สวีซุ่ยหนิงเงี่ยหูฟังตอนต่อไป ทว่ารออยู่นานเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เฉินลู่ไม่ได้เอ่ยอะไรอีกเลย ช่างซ่อมใช้เวลาเปลี่ยนกรอบรูปอยู่นานนับชั่วโมง ท้ายที่สุดเธอก็เห็นว่าเฉินลู่จ่ายเงินไปหลายแสน
แท้จริงแล้วที่นี่ทุกอย่างล้วนแต่มีค่า
#เดี๋ยววันนี้มาลงเพิ่มค่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...