เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 45

สรุปบท บทที่ 45 (1): เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

สรุปเนื้อหา บทที่ 45 (1) – เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

บท บทที่ 45 (1) ของ เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ในหมวดนิยายการโต้แย้ง เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

จางอวี้นึกไม่ถึงเลยว่าแค่สุ่มถามไม่กี่ประโยค ก็จับคนนอกใจอย่างเฉินลู่ได้

เธอเหลือบมองสวีซุ่ยหนิงแวบหนึ่ง ในขณะนี้เธอยังไม่ได้เติมเครื่องสำอาง จึงทำให้ใบหน้าของเธอดูไม่ค่อยสวยนัก ภายในมือของเธอกำแป้งตลับไว้แน่น

สวีซุ่ยหนิงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นว่า "คุณกำลังนัดดูตัวกับเฉินลู่อยู่ใช่ไหมคะ?"

จากนั้นหญิงสาวคนนั้นก็หันมามองสวีซุ่ยหนิง เมื่อเห็นว่าสวีซุ่ยหนิงเป็นผู้หญิงที่สวย เธอจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า "ใช่ค่ะ คุณก็รู้จักเฉินลู่ด้วยเหรอคะ?"

"ฉันเป็นเพื่อนกับเขาค่ะ" สวีซุ่ยหนิงพูดพร้อมกับฝืนใจยิ้ม

"เป็นเพื่อนกับเขานี่เอง ตอนแรกฉันก็อยากจะเชิญคุณเข้าไปนั่งข้างในกับฉันนะคะ แต่ว่าวันนี้มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย เลยไม่สะดวกนิดหน่อยค่ะ" หญิงสาวหยิบมือถือของเธอออกมาแล้วพูดว่า “พวกเราเพิ่มเพื่อนในวีแชตกันดีไหมคะ ไว้ครั้งหน้าค่อยนัดกันออกไปเที่ยว โอเคไหมคะ?”

สวีซุ่ยหนิงยิ้มแล้วพูดว่า "ได้สิคะ"

เมื่อเพิ่มเพื่อนกันในวีแชตเสร็จแล้ว เธอจึงพูดด้วยความเกรงใจเล็กน้อย "ผู้ใหญ่กำลังรอฉันอยู่ข้างใน ฉันต้องขอโทษจริงๆ นะคะ ขอตัวก่อนนะคะ"

"โอเคค่ะ งั้นไม่รบกวนแล้วค่ะ"

หลังจากที่เธอเดินไปแล้ว รอยยิ้มของสวีซุ่ยหนิงก็ค่อยๆ จางหายไป

จางอวี้พูดถึงความไม่ยุติธรรมแทนเธอ "เฉินลู่นั้นมากเกินไปแล้ว แม้ว่าเธอทั้งสองคนจะแต่งงานกันไม่ได้ แต่เขามีนัดดูตัวกับคนอื่น ทำไมไม่เลิกกันก่อน แล้วค่อยนัดดูตัวก็ได้ไม่ใช่เหรอ? มิฉะนั้นจะพูดว่าคบหากันไปทำไม เป็นแบบตอนแรกไม่ดีกว่าเหรอ เขาทำกับเธอขนาดนี้ เธอยังไม่โกรธเขาอีก"

สวีซุ่ยหนิงไม่ได้พูดอะไร

คนเมื่อกี้เป็นลูกสาวคนโตของหลินซื่อกรุ๊ป เธอเริ่มทำธุรกิจความงามในต่างประเทศมาสองปีแล้ว และธุรกิจของเธอก็ค่อนข้างเติบโตได้ดีเลยทีเดียว” จางอวี้หยุดพูดไปพักหนึ่ง เธอเข้าใจแผนการของเฉินลู่ หากจะหาแฟนก็ต้องเลือกผู้หญิงสวย แต่ถ้าหากต้องการหาภรรยาก็ต้องเลือกผู้หญิงเก่ง

สรุปแล้วในสังคมนี้ก็ยังมองกันที่ฐานะทางสังคม และให้ความสำคัญในการเลือกคู่ครองที่ฐานะใกล้เคียงกัน

หลังจากที่ฟังคำพูดของจางอวี้ สวีซุ่ยหนิงก็รู้สึกว่าคุณหลินเก่งมาก และเธอยังเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับตระกูลเฉินอีกด้วย

เธอไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับเฉินลู่ และเธอก็ไม่เคยพยายามที่จะผูกสัมพันธ์กับคนรวยเพื่อหวังผลประโยชน์ แต่ในเมื่อเขาบอกว่าเขาอยากจะลองดู เขาก็ควรจะทำให้มันยุติธรรม ตอนนี้กำลังคบหากับเธออยู่ เขาต้องรักษาระยะห่างจากเพศตรงข้ามรอบตัวเขา

การกระทำของเขาตอนนี้มันคือการนอกใจชัดๆ

“เฉินลู่อยู่ที่นี่แล้ว เธออยากจะเข้าไปดูข้างในไหม?” จางอวี้ถาม

สวีซุ่ยหนิงคิดเกี่ยวกับฉากนั้นและรู้ว่าเธอไม่ได้ประโยชน์อะไรจากสิ่งที่ไม่เป็นธรรมนี้ ถ้าเข้าไปดูแล้วมันจะยังไงเหรอ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการฟังเฉินลู่ปฏิเสธความสัมพันธ์ของเขากับเธอภายใต้สายตาที่คอยจ้องเขม็งจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย

นี่เป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้อย่างแน่นอน แม้กระทั่งตอนที่เขาปฏิเสธเขาก็อาจไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาเลย มองเธออย่างเย็นชาและมองเธอราวกับว่าเขากำลังมองคนที่ไม่สำคัญอะไรเลย

ยิ่งไปกว่านั้นการเสียหน้าต่อหน้าผู้ใหญ่ของตระกูลหลิน เฉินลู่จะเคืองใจเอา ดังนั้นควรแก้ปัญหาหลังจากเรื่องจบดีกว่า เพื่อที่เธอกับเขาจะได้จากกันอย่างโดยดี

“จางอวี้ ถ้าอย่างงั้นพวกเรากลับกันเถอะ” สวีซุ่ยหนิงพูด “เดี๋ยวถ้าเผชิญหน้ากันมันจะพะอืดพะอมเอานะ”

“สรุปจะยอมให้จบแบบนี้เหรอ?” หลังจากที่จางอวี้พูดจบ เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นช่างอุกอาจ แล้วถ้าไม่ยอมจบยังจะทำอะไรได้อีกเหรอ?

“เฮ้อ คุณหลินดูเหมาะสมที่จะรับเป็นภรรยาที่สุด เฉินลู่จะต้องให้เกียรติผู้ที่เป็นภรรยาของเขาอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะมาบอกเลิกกับฉัน” สวีซุ่ยหนิงกลับเป็นฝ่ายพูดปลอบโยนจางอวี้แทน “ฉันอึดอัดนิดหน่อย เพราะฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ถูกให้เกียรติ แต่ไม่เป็นไร ไม่ได้รู้สึกเศร้าขนาดนั้น”

จางอวี้เอ่ยปากถามว่า "จะกลับจริง ๆ เหรอ?"

“ไปเถอะ ไปกันเถอะ” สวีซุ่ยหนิงพูดเร่งรัด “ฉันอยากกลับบ้านแล้ว”

"ฉันมั่นใจว่าจะสามารถพิชิตใจเธอได้" คุณหลินพูด “นายคงไม่รู้ว่าระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิงย่อมเข้าใจกันดีกว่าผู้ชาย สามารถพิชิตใจผู้หญิงได้มากกว่าผู้ชาย ฉันเพิ่งเพิ่มวีแชตของเธอ รอให้ฉันพิชิตใจเธอได้นะ แล้วชีวิตของพวกเราจะเข้ากันได้ดีแบบสุดๆ "

เฉินลู่ยิ้มเบาๆ จิบไวน์ และไม่พูดอะไร

"สองคนนั้นกระซิบอะไรกัน?" ผู้ใหญ่ของตระกูลหลินยิ้มและพูดอย่างมีนัยว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองได้เจอกัน แต่กลับมีหัวข้อสนทนามากมาย ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจากนี้จะเบื่อกันแล้วนะ"

เฉินเจ๋อชูที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ้มด้วยเช่นกัน แต่เขามองไปที่เฉินลู่ด้วยสายตาที่สงบเงียบ

การพบปะของทั้งสองตระกูลได้สิ้นสุดลงที่เวลาสามทุ่ม

เฉินลู่มีดื่มเหล้าบ้าง เฉินเจ๋อชูจึงให้คนขับรถพาเขาไปส่งด้วย ทั้งสองพูดคุยกันในรถเกี่ยวกับงานของเฉินลู่ สักพักเฉินเจ๋อชูจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า "แกไม่ค่อยพึงพอใจคุณหลินใช่ไหม?"

"เธอจะไม่ใช่คนที่จะอยู่อย่างสงบสุขแน่นอน และจะมีเรื่องอื้อฉาวในอนาคตหากควบคุมเธอไม่อยู่" เฉินลู่พูด

"พ่อแม่ของเธอพึงพอใจในตัวแกมาก พวกเขาพูดชื่นชมแกไม่หยุดหย่อน” เฉินเจ๋อชูถอนหายใจ “ถ้าแกไม่พอใจ งั้นก็ช่างมันเถอะ ไว้วันหลังฉันจะพาแกไปดูตัวกับผู้หญิงคนอื่นแล้วกัน อาจจะเจอคนที่เหมาะสมกับแกบ้างก็ได้ อายุของแกก็ควรจะมีลูกชายให้เร็วที่สุด ดูลูกพี่ลูกน้องของแกสิกำลังจะมีลูกคนที่สองแล้ว ฉันล่ะอิจฉาเขาจริงๆ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เป็นคุณปู่กับเขาเสียที"

เฉินลู่เอ่ยขึ้นว่า "แต่งงานต้องแต่งกับคนที่มีคุณธรรม ความประพฤติผ่าน ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร"

"มีเหตุผล" เฉินเจ๋อชูคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า "แกก็ใส่ใจกับเรื่องนี้ด้วย อย่าโลภมากเกินไปสำหรับแง่มุมนั้น คนนอนบนเตียงเดียวกันมันเกิดเรื่องเคืองใจกันได้ง่าย "

เฉินลู่เงยหน้าขึ้นมองดวงตาของเฉินเจ๋อชูในกระจกมองหลัง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เบามาก “พ่อไม่ต้องกังวล มันยังคงประโยคเดิมอยู่ ผมแบ่งลำดับความสำคัญเป็น”

เฉินเจ๋อชูพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน