เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 46

เฉินลู่กลับมาที่บ้านตระกูลเฉินครั้งนี้ก็เพราะว่าคุณย่าเฉินขอให้สวีซุ่ยหนิงมาหา เพื่อที่จะให้เธอไปเที่ยวชมดอกไม้และธรรมชาติเป็นเพื่อน

อากาศในเดือนเมษายนค่อนข้างอบอุ่นมาก อุณหภูมิกำลังพอดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป คุณย่าเฉินอยู่แต่ในบ้านจนรู้สึกเบื่อ จึงต้องการออกไปเดินเล่นสูดอากาศข้างนอก เนื่องจากคุณย่าเฉินกับสวีซุ่ยหนิงค่อนข้างคุยกันถูกคอมาก เธอจึงนึกอยากให้สวีซุ่ยหนิงไปด้วย

วันนี้เฉินลู่ตั้งใจมาส่งสวีซุ่ยหนิงโดยเฉพาะ แต่เขาไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอเฉินเจ๋อชูด้วย

เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือ เขาแอบได้ยินเสียงของสวีซุ่ยหนิงพูดหยอกล้อคุณย่าเฉินอยู่ที่ชั้นล่าง

เมื่อหญิงชราโดนพูดหยอกล้อก็ทำเอาเธอแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

เฉินลู่ตั้งสติ จริงๆ แล้วเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของเฉินเจ๋อชู "เมื่อถึงเวลานั้นผมสามารถดึงอารมณ์ความคิดมุ่งเน้นไปที่เรื่องสำคัญได้"

"ฉันกลัวว่าแกจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนั้นจนลืมเรื่องการแต่งงานนะสิ" เฉินเจ๋อชูพูดเป็นนัย "พอถึงวันที่แกสูญเสียการควบคุมมันก็สายเกินไปแล้ว ถ้ารอให้แกหันมาสนใจ ถึงเวลานั้นจะอยู่ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันไม่มีประโยชน์อะไรต่อวงศ์ตระกูลเลย จำเป็นต้องเสียเวลาชีวิตไหม"

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หยุดนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วค่อยพูดต่อ "ฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมกับแกนะ ฉันไม่ยอมให้เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลของเราอย่างเด็ดขาด สิ่งที่ฉันกังวลที่สุดคือการที่แกใกล้ชิดกับเธอมากเกินไป ถึงตอนนั้นเวลาที่ฉันอยากทำอะไรก็กลัวว่าจะเกิดการคิดต่างระหว่างเราสองคน แล้วจะได้ไม่คุ้มเสียเอา"

เฉินลู่ไม่ได้อยู่กับเซี่ยซีมาตั้งแต่เด็ก เขาถูกเลี้ยงดูมาโดยเฉินเจ๋อชู ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อจึงค่อนข้างดีมาก ด้วยเหตุนี้เฉินลู่ไม่อาจทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวได้

ถ้าเฉินเจ๋อชูแค่เอ่ยปากพูดเตือนเขา เขาก็ยังสามารถคบหากับสวีซุ่ยหนิงได้อีกสักพัก แต่เมื่อเฉินเจ๋อชูขอให้เขาห่างกับเธอ เฉินลู่ก็จะไม่ปฏิเสธคำขอของพ่อ

แม้ว่าเฉินเจ๋อชูจะไม่ได้พูดคำขอของเขาออกมาตรงๆ แต่ระหว่างสองคนพ่อลูกนี้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันได้โดยปริยาย เฉินลู่เข้าใจความหมายของพ่อคือให้รีบจัดการปัญหาเกี่ยวกับสวีซุ่ยหนิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

"ไม่ต้องห่วงนะครับพ่อ ผมจะรีบจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด" เฉินลู่พูด

เฉินเจ๋อชูได้เอ่ยปากพูดขึ้นว่า "ฉันไม่หวังว่าแกจะเข้าร่วมบริษัทให้ฉันแล้ว ตอนนี้ฉันหวังเพียงแค่ว่าจะมีลูกสะใภ้ที่สามารถช่วยฉันได้ อาลู่ ในเมื่อเรื่องของแกกับสวีซุ่ยหนิงกำลังถูกจัดการโดยเร็ววันนี้แล้ว งั้นเรื่องหาคู่กับนัดดูตัวก็อย่ายืดเวลาออกไปมากเกินไปนะ"

"เอาตามที่พ่อจัดเตรียมเลยครับ" เฉินลู่พูด

"แกลงไปข้างล่างก่อนเถอะ คุยกันนานเกินไปเดี๋ยวคุณย่าจะถามเอา"

เฉินลู่พยักหน้า เมื่อเขากำลังเดินลงบันไดเขาเห็นสวีซุ่ยหนิงกำลังนั่งยองๆ นวดเท้าให้คุณย่าเฉิน

คุณย่าเฉินเห็นเฉินลู่กำลังเดินลงมาจึงพูดด้วยความพึงพอใจว่า "ฝีมือการนวดของภรรยาหลานใช้ได้เลยทีเดียวนะ แถมยังเป็นคนกตัญญูอีกด้วยนะ ย่าเห็นเธอนั่งยองๆ นานจนขาชาเธอก็ไม่พูดว่าเหนื่อยเลยสักคำ"

"คุณย่าอย่าพูดแบบนี้เลยนะคะ หนูรู้สึกเกรงใจเลยค่ะ" สวีซุ่ยหนิงยิ้ม “แค่ครึ่งชั่วโมงไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้นหรอกค่ะ”

นายหญิงเฉินแกล้งทำเป็นมองค้อน“แม่สาวนี่ยังจะมาเถียงคนแก่อีก ฉันบอกว่าเธอเหนื่อยก็คือเธอเหนื่อย”

สวีซุ่ยหนิงยิ้มแล้วพูดว่า "ค่ะ คุณย่าพูดอะไรก็คืออย่างนั้น"

เฉินลู่เอื้อมมือไปดึงเธอให้ลุกขึ้น เดิมทีเขาอยากจะบอกเธอว่าอย่านั่งบนพื้น แต่เขากลับรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำตัวใกล้ชิดกับเธออีก ดังสุดท้ายเขาจึงพูดเพียงไม่กี่คำ "คืนนี้พักที่นี่นะ พรุ่งนี้ฉันจะมารับไปที่บ้านพักตากอากาศพร้อมกับคุณย่า"

"เวลานี้แล้ว ยังจะกลับไปอีกเหรอ?" คุณย่าเฉินรู้สึกไม่เห็นด้วยที่เขาจะกลับไป "หนิงหนิงค้างคืนอยู่ที่นี่คนเดียวเป็นครั้งแรก เธอคงจะไม่ชินอย่างแน่นอน หลานไม่อยู่ด้วยเกรงว่าคืนนี้เธอคงนอนไม่หลับแน่ๆ "

สวีซุ่ยหนิงมองดูเขาด้วยความรู้สึกแปลก ๆ เธอจำได้แม้กระทั่งว่าวันนี้เขาไม่ต้องเข้าเวร

เฉินลู่เหลือบมองเฉินเจ๋อชูที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน เขารีบหลบสายตาแล้วพูดว่า "พอดีหมอที่อยู่เวรมีเหตุฉุกเฉินนิดหน่อย ผมต้องรีบไปอยู่เวรแทนเขาครับ"

เฉินเจ๋อชูพูดขึ้นว่า "แม่ครับ แม่จะไปทำให้อาลู่เสียเวลาเรื่องงานบ่อยๆ ไม่ได้นะครับ"

คุณย่าเฉินเข้าใจว่าเป็นเรื่องสำคัญ หลานชายต้องทำงาน ดังนั้นไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่อาจรั้งเขาเอาไว้ได้ "อาลู่ งั้นหลานไปทำงานก่อนเถอะนะ"

เฉินลู่ไม่รอช้ารีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

นายหญิงเฉินพูดกับสวีซุ่ยหนิง"หนิงหนิง คืนนี้หนูคนเดียวในห้องนอนของอาลู่นะ คนแก่อย่างฉันนอนอยู่ชั้นล่าง สักพักฉันจะให้พ่อของอาลู่พาหนูไปที่นั่นนะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน