เฉินลู่ละสายตากลับด้วยท่าทีเฉยเมย
สวีซุ่ยหนิงรู้ว่าเฉินลู่นั้นกำลังคิดอะไร คาดว่าเขากำลังมองเธอในแง่ลบ
ที่เธอสวมชุดนี้ก็เพื่อเขาจริงๆ แต่รอยยิ้มนั้นเธอไม่ได้จะยั่วเย้าเขาเลยแม้แต่น้อย เธอเพียงยิ้มให้เขาด้วยความสุภาพเท่านั้น
สวีซุ่ยหนิงนั่งรอด้านนอกด้วยความสุภาพเรียบร้อยและรอเขาเลิกงาน
เมื่อถึงเวลานั้น เธอก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเขาพลางเรียกเขาว่า "หมอเฉิน"
เฉินลู่ไม่ได้มองมาทางเธอ เขายกมือขึ้นและมองนาฬิกาข้อมือของตนพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบว่า "เธอกลับไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวฉันมีประชุม"
เรื่องการประชุมนั้นไม่ได้โกหก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่ที่สำคัญคือเธอทำให้เขารู้สึกเบื่อ
"แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก?" สวีซุ่ยหนิงขบเม้มริมฝีปากและเอ่ยถาม
เขาเอ่ยด้วยท่าทางขอไปที "ดูก่อน"
สวีซุ่ยหนิงสังเกตเห็นถึงความห่างเหินของเขา เธอเม้มริมฝีปากและจ้องมองเขาที่นิ่งเงียบ
แต่ทว่าเฉินลู่กลับก้าวเท้าออกไปโดยที่ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย การแตกคอของผู้ชายก็มักเป็นเช่นนี้ เมื่อเธอไร้ประโยชน์แล้ว เขาก็เกียจคร้านเกินกว่าจะให้ความสนใจเธอ
หัวใจของสวีซุ่ยหนิงกระชับแน่น หากว่าไม่มีเฉินลู่เป็นผู้หนุนหลัง ทั้งชีวิตนี้เธอก็ไม่อาจทำลายเจียงเจ๋อได้ ด้วยความลนลาน เธอรีบเอื้อมมือออกไปจับมือเขา ฉวยโอกาสช่วงจังหวะที่เขาไม่ได้สนใจเธอ เธอเอื้อมมือไปและประสานมือกับเขาอย่างรวดเร็ว มือเล็กๆของเธอลูบไล้ฝ่ามือใหญ่ของเขาอย่างเอาอกเอาใจ
"หมอเฉิน" ดวงตาของสวีซุ่ยหนิงราวกับมีน้ำตาคลอเบ้า ดูไร้เดียงสาและน่าสงสาร
เฉินลู่หันกลับมา มองดูมือของเขาและเธอที่กำลังประสานกันด้วยความรวดเร็ว
สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่านัยต์ตาของเขากำลังสื่อถึงอะไร แต่โดยสัญชาตญาณเธอรู้สึกได้ว่าเขานั้นไม่ชอบเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้เขาไม่เอ่ยคำพูดหยอกเย้าเธอเลยแม้แต่น้อย เธอกระชับมือแน่นกว่าเก่า
"หมอเฉิน นายสะสางงานของนายไปเถอะ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน วันนี้ฉันก็จะรอนาย"
เฉินลู่ดึงมือกลับและไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ ตลอดทั้งบ่าย เขามีเคสผ่าตัดใหญ่ เมื่อเขาออกมา เขาสูบบุหรี่ด้วยท่าทีเหนื่อยล้า
"หมอเฉิน ลงไปด้านล่างด้วยกันไหม?"
เฉินลู่พยักหน้า หมอที่เดินลงมาด้านล่างพร้อมกับเขาขมวดคิ้วแน่นพลางเอ่ย "สภาพร่างกายของผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดในวันนี้แย่มาก หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างผ่าตัดเกรงว่าจะคงมีเรื่องยุ่งยากให้จัดการแน่ นายดูลูกชายเขา ปกติก็พูดจาแย่อยู่แล้ว หมออย่างพวกเราก็ลำบาก ช่วยชีวิตและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแล้วยังต้องพบเจอปัญหาขัดแย้งระหว่างหมอกับผู้ป่วยอีก"
เฉินลู่บดขยี้ก้นบุหรี่ในมือของเขาแล้วโยนลงในที่เขี่ยบุหรี่พลางเอ่ยอย่างรวบรัดว่า "ไปเถอะ"
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...