เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 5

เฉินลู่ละสายตากลับด้วยท่าทีเฉยเมย

สวีซุ่ยหนิงรู้ว่าเฉินลู่นั้นกำลังคิดอะไร คาดว่าเขากำลังมองเธอในแง่ลบ

ที่เธอสวมชุดนี้ก็เพื่อเขาจริงๆ แต่รอยยิ้มนั้นเธอไม่ได้จะยั่วเย้าเขาเลยแม้แต่น้อย เธอเพียงยิ้มให้เขาด้วยความสุภาพเท่านั้น

สวีซุ่ยหนิงนั่งรอด้านนอกด้วยความสุภาพเรียบร้อยและรอเขาเลิกงาน

เมื่อถึงเวลานั้น เธอก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเขาพลางเรียกเขาว่า "หมอเฉิน"

เฉินลู่ไม่ได้มองมาทางเธอ เขายกมือขึ้นและมองนาฬิกาข้อมือของตนพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบว่า "เธอกลับไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวฉันมีประชุม"

เรื่องการประชุมนั้นไม่ได้โกหก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่ที่สำคัญคือเธอทำให้เขารู้สึกเบื่อ

"แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก?" สวีซุ่ยหนิงขบเม้มริมฝีปากและเอ่ยถาม

เขาเอ่ยด้วยท่าทางขอไปที "ดูก่อน"

สวีซุ่ยหนิงสังเกตเห็นถึงความห่างเหินของเขา เธอเม้มริมฝีปากและจ้องมองเขาที่นิ่งเงียบ

แต่ทว่าเฉินลู่กลับก้าวเท้าออกไปโดยที่ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย การแตกคอของผู้ชายก็มักเป็นเช่นนี้ เมื่อเธอไร้ประโยชน์แล้ว เขาก็เกียจคร้านเกินกว่าจะให้ความสนใจเธอ

หัวใจของสวีซุ่ยหนิงกระชับแน่น หากว่าไม่มีเฉินลู่เป็นผู้หนุนหลัง ทั้งชีวิตนี้เธอก็ไม่อาจทำลายเจียงเจ๋อได้ ด้วยความลนลาน เธอรีบเอื้อมมือออกไปจับมือเขา ฉวยโอกาสช่วงจังหวะที่เขาไม่ได้สนใจเธอ เธอเอื้อมมือไปและประสานมือกับเขาอย่างรวดเร็ว มือเล็กๆของเธอลูบไล้ฝ่ามือใหญ่ของเขาอย่างเอาอกเอาใจ

"หมอเฉิน" ดวงตาของสวีซุ่ยหนิงราวกับมีน้ำตาคลอเบ้า ดูไร้เดียงสาและน่าสงสาร

เฉินลู่หันกลับมา มองดูมือของเขาและเธอที่กำลังประสานกันด้วยความรวดเร็ว

สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่านัยต์ตาของเขากำลังสื่อถึงอะไร แต่โดยสัญชาตญาณเธอรู้สึกได้ว่าเขานั้นไม่ชอบเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้เขาไม่เอ่ยคำพูดหยอกเย้าเธอเลยแม้แต่น้อย เธอกระชับมือแน่นกว่าเก่า

"หมอเฉิน นายสะสางงานของนายไปเถอะ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน วันนี้ฉันก็จะรอนาย"

เฉินลู่ดึงมือกลับและไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ ตลอดทั้งบ่าย เขามีเคสผ่าตัดใหญ่ เมื่อเขาออกมา เขาสูบบุหรี่ด้วยท่าทีเหนื่อยล้า

"หมอเฉิน ลงไปด้านล่างด้วยกันไหม?"

เฉินลู่พยักหน้า หมอที่เดินลงมาด้านล่างพร้อมกับเขาขมวดคิ้วแน่นพลางเอ่ย "สภาพร่างกายของผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดในวันนี้แย่มาก หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างผ่าตัดเกรงว่าจะคงมีเรื่องยุ่งยากให้จัดการแน่ นายดูลูกชายเขา ปกติก็พูดจาแย่อยู่แล้ว หมออย่างพวกเราก็ลำบาก ช่วยชีวิตและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บแล้วยังต้องพบเจอปัญหาขัดแย้งระหว่างหมอกับผู้ป่วยอีก"

เฉินลู่บดขยี้ก้นบุหรี่ในมือของเขาแล้วโยนลงในที่เขี่ยบุหรี่พลางเอ่ยอย่างรวบรัดว่า "ไปเถอะ"

......

เมื่อเฉินลู่และหมอเดินไปที่ประตูโรงพยาบาล เขาเห็นสวีซุ่ยหนิงกำลังนั่งยองๆอยู่ด้วยชุดเดรสสั้นของเธอ จะมองอย่างไรก็แทบเห็นถึงเนื้อหนังด้านใน

เพราะข้างกายเขามีคนอื่นอยู่ เธอเห็นเขาแล้วแต่กลับไม่เดินมาหาเขา

เฉินลู่เอ่ยกับเพื่อนร่วมงานว่า "นายไปก่อนเถอะ"

"ได้" เพื่อนร่วมงานตอบ "กลับไปพักผ่อนเถอะ ยังมีงานใหญ่รออยู่อีกหลายงาน"

เพื่อนร่วมงานเดินกางร่มจากไป เฉินลู่เดินไปด้านหน้าด้วยท่าทีไม่รีบร้อนและเขาไม่ได้หยุดรอเธอ สวีซุ่ยหนิงริเริ่มลุกขึ้นและก้าวไปหาเขา

"หมอเฉิน"

เฉินลู่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา "ยั่วยวนผู้ชายไม่เป็นเหรอ?"

สวีซุ่ยหนิงใบหน้าแดงระเรื่อ ความเป็นจริงแล้วเธอก็ไม่เก่งขนาดนั้น แต่ไม่คิดว่าจะเลวร้ายในสายตาของเขา

"ครั้งสองครั้งฉันยังพอจะเล่นกับเธอได้หรอก แต่ถ้ามันมากไป มันจะหมดความน่าสนใจ" เฉินลู่เอ่ยอย่างเฉยเมย "เธอดูค่อนข้างมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง แต่ฉันเคยพูดไปแล้ว เพียงแค่รูปร่างหน้าตามันไม่พอหรอก หลังจากนี้อย่ามาหาฉันอีก"

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของเขา ใบหน้าสวีซุ่ยหนิงแดงก่ำ

"หมอเฉิน ฉันเข้าใจแล้ว" เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและก้าวเข้าไปหาเขา เธอพยายามฝืนใจอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเธอเอื้อมมือออกไปสัมผัสเขา "ผู้หญิงที่มีความกล้าถึงจะน่าดึงดูดใจใช่หรือเปล่า?"

สวีซุ่ยหนิงจ้องมองเขาด้วยความปรารถอย่างแรงกล้า

ตรงกันข้ามกับเขานั้นมีกล้องวงจรปิด นับว่ายังโชคดีที่สวีซุ่ยหนิงทำอะไรลงไป เรือนร่างของเธอก็จะบดบังไว้

เฉินลู่เลิกคิ้วขึ้น

ในไม่ช้า เธอรู้สึกได้ว่าท่าทีของเฉินลู่นั้นเปลี่ยนไป

วินาทีถัดมา เขาหันหลังกลับไปโดยไม่พูดจา สวีซุ่ยหนิงคิดว่าเขากำลังปฏิเสธ คาดไม่ถึงว่าเขาจะสัมผัสเธออย่างแผ่วเบาและขมวดคิ้วอย่างเหนื่อยล้าพร้อมกับเอ่ยว่า "ไปขับรถ"

.

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกได้ว่าเฉินลู่นั้นเป็นคนชอบความตื่นเต้น

เช่นตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอยู่ด้านล่างของบ้านเขา เขากลับไม่ลงและนั่งอยู่ในรถ

แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนมาเคาะกระจกรถ

วินาทีถัดมา เสียงของเจียงเจ๋อก็ดังขึ้น "โย่ เฉินลู่ แต่ไหนแต่ไรฉันคิดว่านายไม่น่าจะแอบกินในที่ลับตาแบบนี้"

กระจกรถนั้นไม่ได้ปิด ฉับพลันใบหน้าของสวีซุ่ยหนิงก็ซีดเผือด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน