หากเจียงเจ๋อเห็นสวีซุ่ยหนิงเข้า เป็นไปได้ที่เขาอาจจะอ่านความคิดของเธอออกและเขาจะต้องหยุดยั้งเธอแน่
สีหน้าของเฉินลู่กลับไม่แสดงถึงความวิตกกังวลเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าต่อให้คนภายนอกจะมองเห็น เขาก็ไม่ได้สนใจ
"หมอเฉิน" เธออดไม่ได้ที่จะร้องขอวิงวอนเขา
เฉินลู่มองใบหน้าซีดขาวของเธอด้วยความสนใจและกดร่างกายเธอลง
สวีซุ่ยหนิงไม่สามารถทนต่อความใกล้ชิดแบบนี้ได้ เธอร้องอู้อี้ด้วยเสียงแผ่วเบา
เขาโน้มตัวเข้าใกล้ใบหูของเธอ ขบเม้มใบหูของเธอพลางเอ่ยถามด้วยเสียงเย็นเยียบว่า "กลัวเขาเห็นเหรอ?"
เธออยู่ภายในอ้อมแขนของเขาและพยักหน้า
"มีความสัมพันธ์กับลูกพี่ลูกน้องของแฟนเก่า รู้สึกเป็นไงล่ะ?" เฉินลู่นั้นไตร่ตรองความรู้สึกภายใต้สถานการณ์นี้ "ตื่นเต้นเหรอ?"
เป็นจริงเช่นนั้น
เธอรู้สึกแบบนั้นมาหลายครั้งแล้ว
"เธอว่า...ถ้าเขาเห็น ควรจะทำไงดีล่ะ? กระต่ายไม่กินหญ้าข้างรัง[1]หรอกนะ เธอน่ะมายั่วยวนลูกพี่ลูกน้องของเขา...." เฉินลู่พูดด้วยท่าทีอึกอัก
สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าเขานั้นกำลังคิดแผนชั่วร้าย เห็นอยู่ว่าเขาสามารถยื่นมือออกไปและปิดกระจกรถได้ แต่ทว่าเขากลับไม่ปิด บีบบังคับให้เธอลนลานและจำต้องเอ่ยปากร้องขอเขา
เจียงเจ๋อที่อยู่ด้านนอกรู้สึกว่าเสียงนั้นคุ้นหูเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
วินาทีถัดมา กระจกรถก็ถูกปิด
"เฉินลู่ ฉันรู้จักผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า?" เจียงเจ๋อเอ่ยปากถาม "ฟังแล้วรู้สึกคุ้นหูนิดหน่อย"
"อืม" คนที่อยู่ด้านในตอบเพียงหนึ่งคำ จากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีก
เจียงเจ๋อรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้มีงานอดิเรกเป็นพวกถ้ำมอง เขายักไหล่ หันหลังกลับและเข้าไปในบ้านของเฉินลู่
ภายในรถ ปากของเฉินลู่ถูกฝ่ามือขาวและอ่อนโยนของสวีซุ่ยหนิงปิดเอาไว้ เมื่อครู่นี้เธอเกรงว่าเขาจะทรยศเธอ
นัยต์ตาคู่นั้นของชายคนนั้นสงบนิ่งมาก มองไม่เห็นถึงความปรารถนาเลยแม้แต่น้อย ไม่เหมือนกับกำลังทำธุระอยู่
สำหรับเฉินลู่ ความรู้สึกครั้งนี้ไม่ได้ดีขนาดนั้นและไม่ได้ทำให้รู้สึกมีความสุขมากพอที่จะทำให้เขานึกถึงครั้งถัดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...