เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 52

สรุปบท บทที่ 52 (1): เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

อ่านสรุป บทที่ 52 (1) จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

บทที่ บทที่ 52 (1) คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

คำถามของเจียงเจ๋อนั้นดูจริงจังมาก

ถึงอย่างไรเฉินลู่คนนี้ก็เป็นคนเข้มงวดมาก เขาทำอะไรตรงตามเวลาเสมอ แต่ไหนแต่ไรในยามวิกาลเช่นนี้ เขาไม่เคยได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินลู่เลย นี่เป็นครั้งแรก

"ทำโอทีน่ะ" เฉินลู่เอ่ย

เจียงเจ๋อกล่าว "งานของนายเหนื่อยกว่างานบริหารบริษัทของฉันอีก สู้กลับบ้านมาสืบทอดธุรกิจครอบครัวไม่ดีกว่าเหรอ"

เฉินลู่กลับไม่อยากพูดคุยกับเขา เพียงแต่เอ่ยจุดประสงค์ของเขา "นายกลับประเทศจีนได้ อย่ามาสร้างปัญหาให้ฉัน ไม่อย่างนั้นนายจะต้องอยู่ต่างประเทศไปตลอดชีวิต"

เจียงเจ๋อรู้ว่าคำพูดนี้ไม่ใช่การข่มขู่ อย่างไรเสียเรื่องที่ตนเองได้ทำไปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงเลย ก่อกวนเฉินลู่ ตระกูลเจียงก็ไม่สามารถปกป้องตัวเขาได้ เมื่อถึงเวลานั้นหากเป็นไปตามที่เขาพูดมา เกรงว่าตลอดทั้งชีวิตนี้ก็คงอยู่ต่างประเทศและไม่สามารถกลับมาได้อีกเลย

เขาเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจ "หรือสวีซุ่ยหนิงจะต้องปล่อยเธอไปแบบนี้?"

เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เธอเลิกกับนายไปนานแล้ว บังคับเธอยังไง เธอก็ไม่ยอมอยู่กับนาย นายคิดว่านายจะสามารถบังคับให้เธอแต่งงานกับนายได้เหรอ?"

เจียงเจ๋อเงียบไปชั่วขณะ เขาเอ่ย "ฉันกับนายไม่เหมือนกันว่ะ นายแค่เล่นๆกับเธอ แต่ฉันยังชอบเธอมาก ก็เหมือนกับนายที่ไม่สามารถปล่อยโจวอี้ไปได้ ฉันเองก็ไม่สามารถปล่อยเธอไปได้เหมือนกัน"

ทางด้านเฉินลู่นิ่งเงียบและไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่ตัดสายไป

เป็นไปไม่ได้ที่เจียงเจ๋อจะฝืนทนและยอมให้เรื่องเป็นไปเช่นนี้ วันรุ่งขึ้น เขาตามหาที่อยู่ของซ่งเยี่ยนจนพบ

เขาไม่ได้อยู่ในโรงเรียน เมื่อเจียงเจ๋อพบเขา เขาอยู่ในห้องเกมไพ่และกำลังนั่งเล่นไพ่ด้วยท่าทีเกียจคร้าน เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเจียงเจ๋อจะมา เมื่อเห็นเขา เขาก็ยิ้มออกมา "โย่ ประธานเจียง"

ไม่พูดพร่ำทำเพลงเจียงเจ๋อตรงเข้ามากระชากคอเสื้อเขาและเอ่ย "ฉันจะเตือนนาย อยู่ให้ห่างสวีซุ่ยหนิง"

คนรอบข้างสีหน้าแปรเปลี่ยนในทันใด ต่างก็ไม่กล้าเข้ามาหาเรื่อง

สีหน้าของซ่งเยี่ยนยังคงนิ่งเฉย เขาเอ่ย "ประธานเจียงนายบังคับให้คนอื่นทำเรื่องยากเย็นอีกแล้ว อย่างไรเสียเธอน่ะตรงสเปคฉันเลย ไม่ให้ฉันตามจีบเธอก็คงยาก หากนายก็ชอบ งั้นคงต้องมาวัดความสามารถของฉันกับนายแล้วล่ะ"

เจียงเจ๋อเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธกริ้ว "นายรนหาที่ตายงั้นเหรอ?"

ซ่งเยี่ยนยิ้มอย่างเกียจคร้าน "คู่ต่อสู้ของนายไม่แน่ว่าอาจจะเป็นฉัน แต่วันนี้ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น หากว่าต่อยนายแล้วอาจจะเสียเปรียบ"

นัยต์ตาของเจียงเจ๋อเย็นยะเยือก เขาปล่อยหมัดไปหนึ่งหมัด แต่ซ่งเยี่ยนกลับหลบเลี่ยงได้อย่างง่ายดาย

"ประธานเจียง เรื่องการต่อสู้ นายอายุใกล้จะสามสิบกับฉันในวัยเพียงยี่สิบ นายเทียบไม่ติดเลยจริงๆ" ซ่งเยี่ยนเอ่ยด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายใจ

อายุที่แตกต่างกันถึงสิบปี นั่นคือความแตกต่างระหว่างวัย

ช่วงอายุที่กำลังไฟแรงมากที่สุดของผู้ชายจะเป็นช่วงอายุประมาณยี่สิบปี นอกเสียจากอาชีพการงาน ชายวัยยี่สิบปีบดขยี้ชายวัยเกือบสามสิบไปเสียทุกด้าน

ความโกรธของเจียงเจ๋อพลุ่งพล่านจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้ จากนั้นเขาก็ชกไปอีกหนึ่งหมัด

ซ่งเยี่ยนกำลังจะหลบ แต่ทว่าหางตาของเขาเห็นว่าสวีซุ่ยหนิงกำลังเดินมา เขาหยุดการกระทำนั้นและหันหน้าเข้าหา หมัดนี้จึงกระแทกเข้ากับใบหน้าของเขาอย่างรุนแรง วินาทีต่อมาบริเวณมุมปากของเขาก็มีเลือดไหล

เมื่อเจียงเจ๋อเห็นท่าทางที่อ่อนแอของเขา เขาจึงรัวหมัด ต่อยเข้าช่วงท้องและต่อยไปยังบริเวณเนื้อของเขา

เดิมทีสวีซุ่ยหนิงตั้งใจจะมารับซ่งเยี่ยนไปเรียนที่ห้องสมุด คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้

เจียงเจ๋อกำลังคร่อมร่างของซ่งเยี่ยน ซ่งเยี่ยนไร้ซึ่งหนทางต่อต้าน ทำได้เพียงทนรับกำลังและความรุนแรงของเขา เธอเคยถูกเจียงเจ๋อลงมือลงไม้ เธอย่อมรู้ดีว่าแรงและกำลังของเจียงเจ๋อนั้นมีมากเพียงใด

"เจียงเจ๋อ นายทำอะไร!" เธอจ้องมองซ่งเยี่ยนที่ไร้หนทางต่อสู้ เธอโกรธจนตัวสั่นเทา

ซ่งเยี่ยนหันศีรษะไปมองเธอและเอ่ยเรียกเธอ "พี่ซุ่ยหนิง"

จากนั้นเขาก็กระอักเลือดออกมา ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเนื่องจากความเจ็บปวด

"เจียงเจ๋อ ทำไมนายต้องมาก่อเรื่องข้างกายฉันอยู่เรื่อย?" สวีซุ่ยหนิงทนไม่ไหวอีกต่อไป รู้สึกทรมานทั้งกายและใจ "นายมีสิทธิ์อะไรที่จะกลับมาอยู่เคียงข้างฉันอีก? ฉันกับนายเลิกกันแล้ว เพราะนายนอกใจฉัน ฉันเพิกเฉยต่อนาย เพราะว่านายทำลายครอบครัวของฉันจนพังพินาศ นายยังตามมารังควานทำลายชีวิตฉันอีกงั้นเหรอ?"

ภายในใจของเจียงเจ๋อทั้งโกรธและเสียใจ เขาเอ่ยคำพูดร้ายกาจ "ฉันทำลายบริษัทบ้านเธอจนล้มละลายแล้วยังไง? แค่เธอกลับมาซื่อสัตย์กับฉัน ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงบริษัทของเธอหรอก ต่อให้เป็นชีวิตของพ่อกับแม่เธอ ฉันก็สามารถฆ่าได้เช่นกัน หากเธอปฏิเสธฉัน ฉันไม่ถือสาหรอกนะ ถ้าจะให้ฉันสร้างความเจ็บปวดให้เธออีกครั้ง"

"คำพูดนายนี่คือสิ่งที่มนุษย์เขาพูดกันเหรอ?"

สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคนบ้าคลั่งแบบนี้ได้อย่างไร มันน่ากลัวมากที่มีคนแบบนี้อยู่ร่วมโลกด้วย คนอย่างเจียงเจ๋อสามารถทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างแน่นอน

ภายในใจของเธออ่อนล้าไร้กำลัง เธอรู้ หากไม่คบกับเฉินลู่ ต้องมีสักวันหนึ่งที่เจียงเจ๋อจะกลับมา เธอกลับมาเป็นเช่นนี้อีกแล้ว ในทุกวันต้องระมัดระวังตัว วันที่เขาตามหาเธอจนพบ

เมื่อคืนนี้เธอก็ครุ่นคิด วันนี้เจียงเจ๋อจะมาก่อเรื่องอีกหรือไม่ ท้ายที่สุดเขาก็มา ทั้งยังสร้างปัญหากับคนรอบข้างเธอ

เจียงเจ๋อได้ยินเสียงร้องไห้ของสวีซุ่ยหนิง จากนั้นเขาสงบลงและขมวดคิ้วแน่น

ผู้คนที่อยู่ภายในห้องเกมไพ่อยู่ในความโกลาหล บ้างก็เรียกรถพยาบาล บ้างก็โทรหาตำรวจ

สิบนาทีต่อมา รถพยาบาลก็มาถึง สวีซุ่ยหนิงไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขา

ในช่วงยี่สิบเก้าปีที่ผ่านมาของเจียงเจ๋อ เขาทำเรื่องแบบนี้มาไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดก็จ่ายเงินและเคลียร์ปัญหา

แต่ทว่าครั้งนี้เขาเล่นผิดคน ซ่งเยี่ยนเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลซ่ง แม้ว่าตระกูลซ่งจะไม่แข็งแกร่งพอที่จะแข่งขันกับตระกูลเจียง แต่ลูกชายคนเดียวได้รับบาดเจ็บ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างง่ายๆ

นอกจากนี้ หลักฐานยังชัดเจน แน่นอนว่าเจียงเจ๋อจะต้องถูกดำเนินคดี

แม่เจียงทั้งให้ของขวัญทั้งยังพยายามหาทางชดใช้ แต่ทว่าตระกูลซ่งปฏิเสธการพบเจอและไม่ขอเคลียร์ใดๆ

แม่เจียงหมดหนทาง ทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากเซี่ยซี

ท้ายที่สุดเรื่องนี้ก็ถึงหูเฉินลู่ เมื่อเขาโทรหาเจียงเจ๋อ อดไม่ได้ที่จะก่นด่าเขา

เจียงเจ๋อไม่ได้รู้สึกว่าเขาทำผิด เขากล่าว "มันแส่หาเรื่องเอง ยุ่งกับผู้หญิงของใครไม่ยุ่ง ดันมายุ่งกับสวีซุ่ยหนิง? ยังไงมันก็ไม่ตายหรอก พ่อแม่ฉันไม่มีทางไม่สนใจฉันหรอก ให้มันจำเรื่องนี้ไปยาวๆก็ดี"

เฉินลู่พูดอย่างเย็นชา "เธอเป็นผู้หญิงของนาย? ตอนนี้เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายเลยสักนิด ฉันว่าคนที่จะได้จำเรื่องนี้ไปอีกนานก็คือนาย"

ครั้งนี้เขาตั้งใจที่จะไม่สนใจเจียงเจ๋อ

ความสัมพันธ์ของเฉินลู่และเซี่ยซีไม่ได้มีความสนิทสนมกัน เครือญาติของเธอจะเป็นอย่างไร มันไม่ได้มีความสำคัญใดกับเขา แม่เจียงโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา เขาเอ่ยอย่างเย็นชา "ป้าครับ หากว่าตามใจเขาไปเสียทุกเรื่อง ในอนาคตตระกูลเจียงก็คงไม่เหลืออะไรแล้ว"

แม่เจียงเข้าใจในความหมายของเขา ใบหน้าของเธอแข็งทื่อและไม่พูดอะไรอีก

เมื่อสวีซุ่ยหนิงได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินลู่ เขาถามว่าเธอได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เธอรู้สึกแปลกใจมาก

ตามหลักเหตุและผล ไม่ว่าเธอจะเป็นหรือตาย อย่างไรมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเฉินลู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน