สวีซุ่ยหนิงรับสายโทรศัพท์ของเฉินลู่ เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ถึงค่อยเอ่ยอย่างเกรงใจ "ฉันไม่ได้เป็นอะไร"
ตอนที่เธอถูกเจียงเจ๋อลากไปตอนนั้น แน่นอนว่ากระแทกเข้ากับสิ่งของเต็มๆ ซึ่งตอนนั้นก็เจ็บมาก แต่ไม่ได้รุนแรง แค่ฝกช้ำเท่านั้น แต่เป็นซ่งเยี่ยนที่สาหัสจริงๆ เพราะตอนนี้ยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย
ในตอนเช้าสวีซุ่ยหนิงก็ไปเยี่ยมเขา ไม่รู้ว่าเพราะปัญหาด้านสมรรถภาพรึเปล่า เพราะฟังจากที่คุณหมอบอกแล้วดูเหมือนมีการติดเชื้ออย่างรุนแรง
คุณแม่ของซ่งเยี่ยนปวดใจจนอกแทบจะแตกร้าว
เธอนึกถึงผู้ร้ายอย่างเจียงเจ๋อขึ้นมาได้ จึงถามขึ้นประโยคหนึ่ง "นายยังจะปกป้องเขาอีกไหม"
เฉินลู่ที่อยู่ปลายสายขมวดคิ้วแน่น "จะยังไงก็เป็นญาติกัน"
สวีซุ่ยหนิงก็รู้ว่าเขาไม่มีทางไม่สนใจ แม้ว่าในช่วงสองวันนี้เจียงเจ๋อยังอยู่ด้านในนั้น แต่วันใดวันหนึ่งเขาก็ยังสามารถออกมาได้
หากเขาออกมาต้องมาหาเธออีกแน่ ทำตัวเหมือนพลาสเตอร์หนังหมา[1] เมื่อเธอคิดถึงพฤติกรรมของเจียงเจ๋อ เธอก็รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองช่างมืดมนเหลือเกิน
สวีซุ่ยหนิงสิ้นหวังกับเรื่องกำจัดเจียงเจ๋อ ตอนนี้เธอไม่กล้าคิดถึงการแก้แค้นเจียงเจ๋อแล้ว
เพราะเรื่องของพ่อสวีที่ได้รับการแก้ปัญหาแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่มีเป้าหมายที่จะทำให้เจียงเจ๋อได้รับผลกรรมเหมือนเมื่อก่อนที่เธอคิดไว้ ตอนนี้เธอเพียงหวังให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรง เพื่อไม่ให้พ่อสวีต้องเป็นกังวล
เฉินลู่เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง "ตัวฉันเองก็ไม่ได้อยากจะใส่ใจนักหรอก แต่พ่อฉัน สั่งให้ฉันไปจัดการ เพราะช่วงนี้ตระกูลเฉินกับตระกูลเจียงก็ยังมีธุรกิจที่ต้องทำร่วมกัน เขาเกรงว่าถ้าเป็นเรื่องใหญ่แล้วจะไปกระทบ"
สวีซุ่ยหนิงเอ่ย " คนบ้านตระกูลเจียงของเจียงเจ๋อไม่มีใครสนใจเขาเหรอ ที่ปล่อยให้เขามารังควานชีวิตคนธรรมดา"
เฉินลู่แสดงออกเพียงว่าเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ และพลั้งปากขึ้นว่า "เธอไปถามแม่เขาดูก็ได้ เพราะยังไงฉันก็ไม่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปผูกมัดชีวิตเขา"
"นายก็รู้ว่าเขาบ้าอย่างอุกอาจขนาดไหน เขาบอกว่าจะให้ฉันกับเขาไปเป็นสามีภรรยากันในยมโลก(สามีภรรยาผี) ฉันกลัวว่าเขาจะมาทำร้ายฉัน" สวีซุ่ยหนิงพูดออกไปอย่างหวาดกลัว
ตอนที่เธอได้ฟังคำพูดนั้น เธอก็รู้สึกว่าน่าขยะแขยงมาก
แต่เฉินลู่ไร้ซึ่งการสนอกสนใจใดๆ เขาเพียงเอ่ยตอบอย่างเย็นชาและเป็นกลาง "ใครใช้ให้เธออยากอยู่กับเขาในตอนแรกล่ะ ตอนนี้ก็คงมีแต่ให้เธอคิดหาวิธีสลัดเขาออกไปเอาเอง"
สวีซุ่ยหนิงถามขึ้นอย่างสงสัย "นายทำให้เขาไปอยู่ต่างประเทศได้ไม่ใช่เหรอ"
"แน่นอนว่าฉันทำได้ แต่ฉันไม่ชอบช่วยคนที่ไม่สนิทโดยไร้เหตุไร้ผล" เฉินลู่กล่าวอย่างไร้อารมณ์ใดๆ
หลังจากเลิกรากัน ก็เป็นคนแปลกหน้ากันแล้วไม่ใช่เหรอ
สวีซุ่ยหนิงไม่พูดอะไรอีก เดิมทีเธอก็ไม่หวังว่าเฉินลู่จะช่วยได้อยู่แล้ว เธอเองก็เคยสอบถามกับเซี่ยซี แต่เซียซีเองก็ค่อยข้างจะเป็นห่วงเจียงเจ๋อ ฟังจากน้ำเสียงตอนพูดแล้ว เธอก็อยากจัดการเรื่องของเจียงเจ๋อ
เพราะเจียงเจ๋อเป็นหลานรักของเธอ
แม้เซี่ยซีจะเคยสัญญาว่าจะเกลี้ยกล่อมเจียงเจ๋อให้เธอ แต่ในใจเธอรู้ดีว่า เจียงเจ๋อไม่ได้เชื่อฟังขนาดนั้น
ผ่านไปเป็นเวลานาน เธอถึงพูดกับเฉินลู่ประโยคหนึ่ง "ฉันวางแล้วนะ"
เฉินลู่เองก็กล่าวลาอย่างเกรงใจเช่นกัน
ทางฝั่งซ่งเยี่ยนมีครอบครัวอยู่ แถมสวีซุ่ยหนิงยังมีคาบสอนอีก ที่จริงเธอไม่ได้ไปเยี่ยมเขาบ่อยนัก จนกระทั้งวันศุกร์ สวีซุ่ยหนิงถึงได้ไปเยี่ยมเขากับจางอวี้
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย สวีซุ่ยหนิงก็เห็นคนทั้งนั่งอยู่ด้านในอย่างสะเปะสะปะ มีครบทั้งสักและเจาะจมูก นี่ทำให้เธอขมวดคิ้วเป็นปม
เมื่อคนกลุ่มนั้นเห็นเธอ จากที่เดิมทียังครึกครื้นกันอยู่ ก็ต่างพากันเงียบลง
ซ่งเยี่ยนปรายสายตามองคนที่อยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆครั้งหนึ่ง ทำให้เขารีบซ่อนที่เขี่ยบุหรี่ไว้ด้านหลัง
"พวกเขาเป็นเพื่อนนายเหรอ" สวีซุ่ยหนิงถามขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...