ซ่งเยี่ยนจึงพูดขึ้น "พี่ซุ่ยหนิง พี่ไปทานข้าวก่อนเถอะครับ แม่ผมก็คงใกล้จะมาแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ"
เมื่อเขาพูดแบบนี้ สวีซุ่ยหนิงก็ไม่ได้ไปในทันที แต่รอจนกระทั้งคุณแม่ซ่งบอกว่าใกล้ถึงแล้ว เธอถึงลุกขึ้นและพูด "พวกเรากลับก่อนนะ"
"พี่ซุ่ยหนิง พรุ่งนี้มาเยี่ยมผมอีกได้ไหมครับ" ซ่งเยี่ยนจ้องมองเธออย่างมีความปรารถนา เหมือนหมาน้อยขึ้อ้อน จนสวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่ามองแล้วใจเธอแทบจะละลายไปจนหมด
เธออดไม่ได้ที่จะพูดด้วยรอยยิ้ม " ได้สิ พรุ่งนี้ตอนบ่ายสอนเสร็จแล้วฉันจะมาอีก"
สวีซุ่ยหนิงพูดจบถึงได้จูงมือจางอวี้เดินออกไปทางประตู
ซึ่งคุณแม่ซ่งก็มาถึงพอดี ทั้งสองคนทักทายกัน คุณแม่ซ่งเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม "จะกลับแล้วเหรอ"
สวีซุ่ยหนิงมองไปทางเฉินลู่ที่อยู่ด้านข้างเธอ วันนี้เขาสวมชุดลำลอง คิดว่าน่าจะเพราะการกระทำผิดของเจียงเจ๋อ เขาถึงได้ตั้งใจมาเยี่ยม
เธอฝืนยิ้ม พร้อมก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติก้าวหนึ่ง "ใช่ค่ะ พรุ่งนี้จะมาใหม่ค่ะ"
สายตาเฉินลู่มองมายังเธออยู่พักหนึ่งถึงค่อยถอนสายตากลับไป แล้วเดินตรงเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
สวีซุ่ยหนิงยืนมองจากหน้าประตูเข้าไปภายในห้อง เห็นว่าเขาคุยกับซ่งเยี่ยนอย่างค่อนข้างเป็นมิตร
จางอวี้จึงลากเธอจากไป
ทั้งสองมาถึงยังร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง หลังจากจางอวี้สั่งอาหารเสร็จถึงได้เปิดปากพูดขึ้น "ทำไมฉันรู้สึกว่าเหมือนเฉินลู่จะผอมลง"
"เพราะงานเขาหนัก ผอมลงก็คงเป็นเรื่องปกติ" สวีซุ่ยหนิงเอ่ย
จางอวี้พยักหน้า "แต่เรื่องของเจียงเจ๋อเฉินลู่และพ่อของเขาออกหน้าช่วย งั้นแสดงว่าเจียงเจ๋อก็คงจะไม่เป็นอะไร"
สวีซุ่ยหนิงไม่ได้ส่งเสียใดๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างทำให้เธอปวดหัว อีกไม่กี่วันเจียงเจ๋อก็คงได้ออกมา ตอนนี้เธอคิดอยากจะลาออกมาก เพื่อกลับไปสอบอย่างราบรื่น แต่ก็ยังกลัวอยู่ว่าเจียงเจ๋อก็ยังคงตามหาเธอเจออยู่ดี
สวีซุ่ยหนิงพูดออกมาอย่างตรงประเด็น "ทำไมฉันรู้สึกเหมือนว่านายต้องการให้เขาออกมาเร็วๆเพื่อมาหาฉัน เพื่อให้ชีวิตฉันไม่สงบสุข ให้จมอยู่่ในความรู้สึกกลัวรู้สึกแย่ทุกๆวัน"
เฉินลู่องเธอครู่หนึ่ง เห็นว่าสีหน้าเธอแดงไปหมดแล้ว เอ่ยขึ้นอย่างสงบ "เธอคิดมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันอยากจะจัดการเธอ ต้องมีแรงจูงใจ เธอคิดว่าฉันตั้งใจเหรอ งั้นแรงจูงใจของฉันคืออะไรล่ะ"
สวีซุ่ยหนิงจ้องมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ "ทำไมจะไม่มีแรงจูงใจ แรงจูงใจก็เรื่องที่ฉันบอกเลิกไง นายทนไม่ได้ที่ฉันทิ้งนาย นายถึงได้ทำให้ฉันโชคร้าย จนแทบรอไม่ไหวที่จะให้เจียงเจ๋อทรมานฉันจนตาย เมื่อฉันรู้สึกไม่ดี นายก็จะสบายใจ"
เพราะยังไงถ้าเจียงเจ๋อออกมา เธอก็คงไม่มีชีวิตที่ดีอีกแล้ว เธอจึงไม่มีความคิดที่จะเกรงใจต่อเฉินลู่อีก
เฉินลู่ฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว และไม่ได้พูดอะไร ไม่รู้ว่ามีการยอมรับความจริงนี้ด้วยหรือเปล่า
จางอวี้ที่ยังคงหวาดกลัวต่อความผีเข้าผีออกของนิสัยเขา จึงรีบร้อนเตือนสวีซุ่ยหนิง "เฮ้ย เธอไม่ต้องพูดแล้ว"
สวีซุ่ยหนิงปัดมือเธอ อารมณ์ต่อต้านเพิ่มสูงขึ้น พูดอย่างอดไม่ได้อีกต่อไป "นายก็ให้เขาออกมาเถอะ อย่างมากฉันก็แค่ไปเป็นสามารถภรรยากับเขาในยมโลก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...