เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 55

สรุปบท บทที่ 55: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

ตอน บทที่ 55 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 55 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่เขียนโดย จิ่นอวิ๋น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เฉินลู่คบกับสวีซุ่ยหนิงแค่ระยะสั้นๆ แต่เขาไม่ค่อยเห็นเธออยู่กับเพื่อนต่างเพศสักเท่าไหร่ เวลาส่วนใหญ่เธอค่อนข้างระวังตัว แต่ตอนนี้ เขาเห็นว่าเธอแอบมองซ่งเยี่ยนอยู่หลายครั้ง

ดูจากการทายาของเธอ เฉินลู่ก็พอจะเดาออก ว่าเธออารมณ์ไม่คงที่เท่าไหร่ บรรยากาศสีชมพูระหว่างเด็กหนุ่มและหญิงสาวแผ่ซ่านออกมา คนทั่วไปมองมาก็รู้สึกได้

ตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแต่ซ่งเยี่ยนฝ่ายเดียวเท่านั้นที่ชอบเธอ สวีซุ่ยหนิงเองก็น่าจะรู้สึกดีกับซ่งเยี่ยนเหมือนกัน

เฉินลู่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ซ่งเยี่ยนเป็นคนแรกที่มองเห็นเขา เขาก็เลยดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว

สวีซุ่ยหนิงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น: "นายทำผ้าโดนแผลนะ"

ซ่งเยี่ยนบอกเสียงเบา: "มีคนมา"

สวีซุ่ยหนิงถึงได้หันหน้าไป แล้วเธอก็เจอเข้ากับเฉินลู่

แววตาที่เฉินลู่ใช้มองเธอเย็นชา

สวีซุ่ยหนิงตกใจอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็หันกลับมาพูดกับซ่งเยี่ยน: "เขามาดูนายต่างหาก ฉันจะทายาให้นายให้เสร็จ แล้วนายก็คุยกับเขานะ"

เธอคิดว่าที่เขามาวันนี้ ก็คงจะเป็นเพราะเรื่องของเจียงเจ๋อ

ซ่งเยี่ยนเชื่อฟังเธอ: "เอาตามที่พี่บอกเลยครับ"

เขาเปิดผ้าห่ม เผยให้เห็นร่างกายที่น่าอิจฉา สวีซุ่ยหนิงมองแผลของเขา แล้วบ่นออกมา: "นายดูสิ ยาที่ทาไปเมื่อกี้เลอะผ้าปูเลย"

ซ่งเยี่ยนเอ่ยอย่างออดอ้อน: "ขอโทษนะครับ ผมไม่ค่อยชินที่ต้องโดนผู้ชายคนอื่นเห็นร่างกาย"

"พอเลย ผู้ชายตัวใหญ่แบบนาย ทำเป็นบิดตัวเขินอาย" สวีซุ่ยหนิงเอ่ย

เธอเปลี่ยนสำลีก้านใหม่ เฉินลู่เห็นแบบนั้นก็เอ่ยออกมา: "โรงพยาบาลไม่มีหมอกับพยาบาลหรือไง?"

สวีซุ่ยหนิงถึงได้หันไปมองเขาอีกครั้ง: "เขาไม่ชินเวลามีผู้หญิงคนอื่นโดนตัว"

เฉินลู่เม้มปากไม่พูดอะไร จากนั้นก็ก้าวเข้าไปใกล้ หยิบก้านสำลี แล้วบอกกับสวีซุ่ยหนิงด้วยท่าทางเย็นชา: "หลบ"

น้ำเสียงเขาเย็นชามากจริงๆ

สวีซุ่ยหนิงไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องโมโห แค่รู้สึกว่าการที่เขามาโมโหใส่เธอแบบนี้เป็นการกระทำที่lowมาก

สุภาพสตรีที่ดีจะไม่ทุ่มเถียงกับบุรุษไร้มารยาท สวีซุ่ยหนิงไม่คิดจะเถียงกับเขา เธอเพียงขยับไปข้างๆ แล้วยกงานทายาให้เฉินลู่ อย่างไรเขาก็เก่งด้านนี้

ซ่งเยี่ยนมองเฉินลู่ สัมผัสได้ว่าเขาทายาอย่างไม่ระวัง ไม่เหมือนกับสวีซุ่ยหนิง ที่กลัวว่าเขาจะเจ็บ

ซ่งเยี่ยนจงใจซูดปากเหมือนตัวเองเจ็บมาก

สวีซุ่ยหนิงรีบเอ่ยออกมา: "เฉินลู่ นายเบามือหน่อย ทำเขาเจ็บแล้วนะ"

"เธอหรือฉันที่เป็นหมอ?" เฉินลู่สบตาซ่งเยี่ยน น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง "ทำเขาเจ็บหรือไม่ตัวฉันรู้ดี เธอเลิกสั่งโน่นสั่งนี่ได้แล้ว"

"ฉันก็แค่ขอให้นายเบามือหน่อย......"

เฉินลู่เอ่ยอย่างเย็นชา: "เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่งว่าหมอคนหนึ่งต้องทำอะไร?"

สวีซุ่ยหนิงชะงักไป แล้วเอ่ยขอโทษ ก้มหน้าโดยไม่มีข้อกังขาอะไรอีก

เฉินลู่เวลาที่ไม่ได้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ น่ากลัวจนชวนให้ขนหัวลุก พอไม่พอใจสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

ซ่งเยี่ยนเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าเธอโดนดุ จึงเอ่ย: "พี่ซุ่ยหนิง ผมไม่เป็นไร ไม่เจ็บด้วย เมื่อกี้ผมก็แค่ไม่ทันเตรียมตัว"

สวีซุ่ยหนิงส่งยิ้มให้เขา เพื่อบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร

สองนาทีถัดจากนั้น เฉินลู่ก็ทำแผลเสร็จเรียบร้อย

ซ่งเยี่ยนหันไปเอ่ยกับเขาว่า: "หมอเฉิน พี่ซุ่ยหนิงก็แค่เป็นห่วงผม ไม่ได้หวังร้าย แล้วก็ไม่ได้สงสัยในฝีมือการรักษาของคุณ รบกวนคุณพูดกับเธอให้ดีกว่านี้หน่อย ผมไม่ชอบเวลามีคนพูดไม่ดีกับเธอ"

เฉินลู่มองเขาเล็กน้อย เช่นเคย ใบหน้านี้ยังคงเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์

"ผมไม่รู้สึกถึงแผลเลย"

เฉินลู่บอกวิธีการดูแลต่างๆ ให้ซ่งเยี่ยนฟัง จากนั้นก็หมุนตัวแล้วเดินออกไปด้านนอก

ตอนที่ผ่านเธอไป เขาไม่แม้แต่จะมองเธอ

สวีซุ่ยหนิงรู้สึกว่าเรื่องวันนี้ถูกเปิดเผยเร็วไปหน่อย ถ้าว่ากันตามทฤษฎีแล้วควรจะดูใจกันอีกสักพักจะดีกว่า เป็นแบบนั้นถ้าเข้ากันไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร ไม่ต้องอึดอัด แต่ว่าพูดออกมาเร็วก็ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อดี ถ้าเข้ากันได้ก็คบกัน ไม่เหมาะก็เลิกกัน ประหยัดเวลาดี

เธอไม่เคยชอบใคร แค่คนนี้หน้าตาเป็นแบบที่ชอบ นิสัยก็ไม่เลว บางทีอาจจะเป็นรักแท้?

แถมตัวเธอเองก็โสด ยังไงก็ต้องลองดู เรื่องความรักใครก็บอกไม่ได้

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ซ่งเยี่ยนก็ยิ่งทำดีกับเธอยิ่งกว่าเดิม ผู้ป่วยคนหนึ่ง ลุกขึ้นมาบริการเธอ หาอะไรทำไม่ได้ ก็เลยปอกกล้วยให้เธอกิน

"พี่ซุ่ยหนิง กล้วยลูกนี้อร่อยนะครับ ลองชิมดู"

สวีซุ่ยหนิงกินไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งที่เหลือเธอให้เขากิน เขากลับไม่รังเกียจ

ก่อนหน้านี้ที่เธอคบกับเฉินลู่เขาเป็นคนเคร่งเรื่องความสะอาด พอมาเจอกับซ่งเยี่ยนที่ไม่รังเกียจว่าเธอจะสกปรกหรือไม่ ก็รู้สึกไม่ค่อยชิน

ตอนนี้เป็นเวลาอาหารพอดี สวีซุ่ยหนิงเตรียมจะลงไปซื้อข้าวให้เขาด้านล่าง

ตอนกำลังจะออกไป ก็เจอเข้ากับเฉินลู่ที่มาเอาโทรศัพท์พอดี เมื่อกี้ที่เขาลงไป เขาลืมโทรศัพท์เอาไว้

กลายเป็นว่าสวีซุ่ยหนิงต้องออกไปด้านนอกพร้อมเขา แต่ก็ทำเหมือนว่าทั้งคู่นั้นเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ต่างคนต่างไป ไม่ได้สนใจกัน

ตอนที่ทั้งสองคนเข้าลิฟต์ไปก็ต่างคนต่างเงียบ

จนกระทั่งถึงชั้นหนึ่ง เธอกำลังจะออกไป เฉินลู่กลับมาขวางอยู่ด้านหน้าเธอ จากนั้นก็ลากเธอไป แล้วขังเธอเอาไว้ในมุมมุมหนึ่ง

สวีซุ่ยหนิงเงยหน้ามองเขา แล้วเอ่ยวาจาด้วยท่าทีห่างเหิน: "หมอเฉินมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?"

อยู่ๆ เฉินลู่ก็ยิ้มออกมา คนที่ไม่ชอบยิ้มอยู่ๆ ก็ยิ้ม มีแต่จะทำให้คนมองขนลุก ยิ่งไปกว่านั้นแววตาเขายังเย็นชาเหมือนเดิมด้วย: "สวีซุ่ยหนิงเธอแน่มากนะ ทำเหมือนว่าฉันเป็นคนโง่"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน