พูดถึง 'การมีแฟน' คนที่นั่งอยู่ไม่ไกลตรงนั้นต่างหากที่ทำให้เขาหงุดหงิด
เฉินลู่คิดว่าถ้าปล่อยให้เธอกลับมาหาเขาเอง เกรงว่าชาตินี้คงไม่มีทางอีกแล้ว
บอกว่าตัวเองไม่กล้ามีความรัก แต่หาแฟนได้ก่อนใคร ไหนที่บอกว่าเจ็บปวดเพราะความเฉยชา ตอนเขาเห็นเธอที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกับซ่งเยี่ยน เธอยิ้มมีความสุขกว่าใครเพื่อน
เฉินลู่พูดจบ เขาก็ไม่รอให้หวังหว่านได้พูดต่อ เขาลุกออกไปหากลุ่มคนที่มาตั้งแคมป์เหมือนกันในทันที
ดีที่อีกฝ่ายเตรียมยาแก้อักเสบกับยาปฏิชีวนะมาด้วย
หลังจากที่เฉินลู่ได้ยาแล้ว ก็เดินกลับมา เขาเห็นว่าสวีซุ่ยหนิงกำลังถือปลาย่างและกำลังพูดคุยกับหวังหว่าน เมื่อเห็นเขากลับมาแล้ว เธอก็หยุดยิ้มและรีบเดินหนีไป
หวังหว่านมองหน้าเขาแล้วเอ่ย: "เธอดูกลัวนายนะ"
เขาเริ่มก่อไฟเพื่อต้มน้ำ ยาแก้อักเสบต้องกินคู่กับน้ำอุ่น
หวังหว่านมองยาที่เขาถือกลับมาด้วย แล้วชะงักไป แววตาของเธออ่านยาก: "นายบาดเจ็บเหรอ?"
"เปล่า"
"ให้สวีซุ่ยหนิงเหรอ?" เธอถามด้วยแววตาที่อ่านยากยิ่งกว่าเดิม
เฉินลู่ไม่พูดอะไร
"เพราะอาชีพที่นายทำ นายถึงได้ดีกับผู้ป่วยมากเลยสินะ" หวังหว่านรู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย แล้วเธอก็พูดออกมาเล่นๆ "ฉันอยากป่วยขึ้นมาบ้างเลย"
เฉินลู่ขมวดคิ้วแล้วเอ่ย: "อย่างนั้นก็ยิ่งเพิ่มภาระ เธอเป็นคนฉลาด อย่าทำเรื่องโง่แบบนี้เลย"
หวังหว่านนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเที่ยงวันนี้ สวีซุ่ยหนิงหายไปในป่าประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นและเดินเข้าป่าไป เขาเข้าไปในป่าเร็วกว่าซ่งเยี่ยนเสียอีก
นั่นทำให้เธอสงสัย ว่าเฉินลู่น่าจะชอบสวีซุ่ยหนิงเข้าแล้ว
เฉินลู่ไม่ได้เดินเอายาไปให้ด้วยตัวเอง แต่เขาเรียกให้ซ่งเยี่ยนมาเอา จากนั้นก็นั่งลงบนก้อนหินก้อนหนึ่ง มองการกระทำตรงเต็นท์จากที่ไกลๆ ราวกับกำลังตรวจสอบพื้นที่แห่งนี้
ในที่สุดหวังหว่านก็เอ่ยออกมาอย่างเหลืออด: "นายชอบเธอเหรอ?"
เฉินลู่เหลือบมองเธอ แล้วบอกออกมาเสียงเรียบ: "สวีซุ่ยหนิงเป็นแฟนเก่าฉัน"
หวังหว่านไม่แปลกใจเลยสักนิด ตั้งแต่ที่โจวอี้หายไป เฉินลู่ก็มีแฟนมาเยอะมาก: "นายไม่ชอบแฟนใหม่ของแฟนเก่า? นายนี่ก็โรคจิตเนอะ ในเมื่อไม่ชอบเห็นแฟนเก่ามีแฟนใหม่ อย่างนั้นเลิกกันทำไมตั้งแต่แรก ผู้ชายอย่างพวกนายนี่มันสันดานเสีย ไม่ต้องการเขาแล้ว ยังทำเหมือนเขาเป็นของตัวเองอยู่ได้"
เฉินลู่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์: "เธอทิ้งฉัน"
ตอนนี้หวังหว่านแทบจะร้องออกมาด้วยความตกใจ เธอพยายามกลั้นความประหลาดใจเอาไว้ "ไม่มีทางแน่ๆ"
เฉินลู่ไม่พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่มองทุกการกระทำภายในเต็นท์
"อย่างนั้นนายยังไม่อยากยอมแพ้มากกว่า?"
เขามองเธอ ยังไม่ยอมเอ่ยอะไรเช่นเดิม
หวังหว่านรู้สึกว่านี่มันช่างน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว เฉินลู่ดูไม่เหมือนผู้ชายที่จะโดนผู้หญิงทิ้งเลยสักนิด แต่ว่าทำไมสวีซุ่ยหนิงถึงได้เลี่ยงเขาตลอด
หรือว่าเมื่อวานจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขามีเรื่องบาดหมางกัน?
หวังหว่านเดินเข้าไปในเต็นท์พร้อมกับความคิดมากมาย ตกดึกบรรยากาศก็เงียบสงัด เธอสัมผัสได้ว่ารอบๆ นั้นเงียบไปหมด
แล้วเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากทางฝั่งของเฉินลู่
วันนี้เฉินลู่เอายาให้สวีซุ่ยหนิงกินแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ทายาที่แผลให้แก่เธอ อยู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเตรียมยามาเผื่อด้วย ก็เลยตั้งใจจะเอายาไปทาให้เธอ
ตอนที่เขาเข้าไปในเต็นท์ของสวีซุ่ยหนิง เธอนั้นกำลังหลับอยู่
เฉินลู่เปิดไฟฉายแล้วส่องไปที่แผลของเธอ ตอนที่เขากำลังจะลงมือทายา สวีซุ่ยหนิงก็ตื่น
แสงสว่างทำให้เธอลืมตาไม่ขึ้น เสียงของเธอแหบเล็กน้อยเหมือนคนที่เพิ่งตื่น เธอเอ่ยถามด้วยความฉงน: "ซ่งเยี่ยน?"
เสียงเรียกของเธอ ทำให้เฉินลู่รู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย เขานึกอะไรได้ขึ้นมา แล้วเขาก็ยื่นมือไปดึงคอเสื้อของเธอลง รอยสักรูปผีเสื้อนั่น เริ่มจะเลือนหายไปแล้ว
ที่แท้ก็แค่ของปลอม
สีหน้าเฉินลู่ดีขึ้น
สวีซุ่ยหนิงตกใจกับการกระทำของเขา หลังจากที่ลืมตาและมองเห็นผู้มายืนได้ชัดเจนแล้ว เธอก็กำลังจะร้องออกมา แต่ว่าเฉินลู่เร็วกว่า เขาเอามือมาปิดปากเธอไว้
"ฉันมาทายาให้เธอ อย่าร้อง" เฉินลู่ชันเข่าขึ้นมาข้างหนึ่ง อีกข้างยันไว้ที่พื้น สั่งให้เธอเงียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...