ตอนแรกเฉินลู่จูบสวีซุ่ยหนิงเพราะว่าต้องการระบายความโกรธ แต่ว่าในตอนที่ได้จูบแล้ว มือเขาที่ออกแรงกดมือของเธอไว้ก็เกิดสั่น จูบดุเดือดนั้นจึงนุ่มนวลขึ้น จนเหลือเพียงแค่งับริมฝีปากของเธอเบาๆ
ตัวของเขาก็ค่อยๆ เบียดเข้าหาตัวเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ปล่อยเธอครู่หนึ่ง เพื่อให้เธอได้หายใจ จากนั้นก็ขยับเข้ามาชิดเธออีก มือที่โอบเอวเธอเอาไว้ไม่ได้เป็นเพราะต้องการกักขังเธอต่อ แต่เป็นเพราะต้องการอะไรบางอย่าง
เขาไม่ปฏิเสธว่าเขานั้นคิดถึง เขามีแค่ผู้หญิงคนนี้คนเดียวหลายปี ต่อให้เป็นไปเพราะสัญชาตญาณดิบ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดถึง เฉินลู่ก็คงไม่มีทางมองเธอบ่อยขนาดนั้น
ยังไงสวีซุ่ยหนิงก็คิดไม่ถึงว่าเฉินลู่จะทำเรื่องพวกนี้ ในตอนที่เธอกำลังขัดขืน ศอกของเธอก็กระแทกเข้ากับต้นไม้ เธอเจ็บจนน้ำตาเกือบไหลออกมา
เฉินลู่ถึงได้ยอมปล่อย จากนั้นก็ยื่นมือออกมาตรวจแขนของเธอ อย่างที่คิด มันถลอก เขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ย "ในกระเป๋ามียาอยู่ใช่ไหม?"
สวีซุ่ยหนิงเมินเขา เธอออกเดินไปทางด้านหน้า
เฉินลู่เอ่ย: "ถ้าไม่ทำความสะอาดแผลให้ดี จะติดเชื้อได้ง่าย"
"ยังไงก็จะหั่นฉันแล้วเอาไปให้หมากินอยู่แล้วนี่ เกี่ยวอะไรกับติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อ?" เธออดแซะเขาไม่ได้
ตอนนี้เฉินลู่อารมณ์ดีพอสมควร เลยเลิกคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น: "เธอคิดว่าจากนิสัยของฉัน ฉันจะหั่นเธอจริงหรือไง? ฉันตั้งใจพูดด้วยเสียงสูงให้ฟังดูหยอกเล่นแล้วนะ เพราะฉันกลัวว่าเธอจะเชื่อจริงๆ"
ตอนนั้นคนมันกำลังโมโห ที่จริงถ้าเธอยอมๆ ไป เรื่องพวกนี้ก็นับได้ว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
สวีซุ่ยหนิงเดินหาทางออกไปด้านนอกเงียบๆ ต่อให้เขาบอกทางให้เธอ เธอก็ไม่ตอบอะไรเขาเลย นอกจากจะเดินไปตามทางที่เขาบอก
เฉินลู่มองท่าทางดื้อรั้นของเธอ ก็รู้แล้วว่าเมื่อกี้ตัวเองนั้นทำเกินไปหน่อย เขาถอนหายใจ ตั้งใจจะเดินไปอธิบายให้เธอฟัง ก็เห็นว่าซ่งเยี่ยนกำลังวิ่งมาจากอีกทาง เขาขมวดคิ้วและเรียกเธอ: "พี่ซุ่ยหนิง"
สวีซุ่ยหนิงเดินหน้าตึงอยู่หน้าเฉินลู่ พอมองเห็นซ่งเยี่ยนเธอก็ทนเก็บอาการไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ความรู้สึกน้อยใจและเสียใจพรั่งพรูกันขึ้นมา เธอเรียกเขาเสียงสั่น: "ซ่งเยี่ยน"
เธอก้าวไวๆ ไปหาเขา
ซ่งเยี่ยนเองก็เดินมาหาเธอเหมือนกัน เขาอ้าแขนทั้งสองข้างแล้วกอดเธอเอาไว้กับอก จากนั้นก็เอ่ยขอโทษด้วยความรู้สึกผิด: "พี่ซุ่ยหนิง เป็นอะไร?"
ระหว่างที่พูด เขาก็เงยหน้าขึ้นไปมองเฉินลู่ คนหลังเม้มปากเข้าหากันแน่น แล้วมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา
ซ่งเยี่ยนก้มลงมามองสวีซุ่ยหนิง แล้วถามด้วยความเป็นห่วง: "เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหมครับ?"
สวีซุ่ยหนิงส่ายหน้า แล้วเอ่ย: "พาฉันออกไปข้างนอกเถอะ"
ซ่งเยี่ยนปล่อยเธอ เขาคิด จากนั้นก็กุมมือเธอเอาไว้ แล้วพาเธอออกไปจากป่า
เฉินลู่เดินอยู่เดี่ยวๆ ด้านหลังทั้งสองคน มองคนหนึ่งที่มีท่าทีปกป้อง กับอีกคนที่อิงแอบแนบชิดอย่างพึ่งพิง
ซ่งเยี่ยนพาเธอมาหยุดที่ข้างเต็นท์ ส่งน้ำให้กับเธอ เธอดื่มน้ำไปหลายอึกจนหมดขวด เมื่อครู่ใช้เวลาเดินอยู่นาน เธอเหนื่อยจนแทบจะหมดแรง ตอนเขาทาทิงเจอร์ไอโอดีนให้เธอ แม้จะแสบ แต่เธอก็ไม่ได้ร้องออกมา
เฉินลู่มองอยู่จากข้างๆ แล้วเขาก็เดินไปเปิดกระเป๋า เอาข้าวกล่องสำเร็จรูปออกมา หลังจากที่ใช้น้ำร้อนอุ่นจนมันร้อนแล้ว ก็ถือมาตรงหน้าเธอแล้วย่อตัวลง: "กินข้าวก่อน"
มือของสวีซุ่ยหนิงกำแน่น เธออ้าปาก อยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่แล้วเธอก็ไม่กล้าพูดออกมา
เฉินลู่จ้องเธอครู่หนึ่งแล้วเอ่ย: "เธออยากพูดอะไร พูดออกมาเถอะ"
เธอจึงเอ่ยออกมาด้วยเสียงเบา: "นายอย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีกได้ไหม?"
ทั้งสองคนจ้องตากัน ผ่านไปครู่หนึ่ง สวีซุ่ยหนิงก็เบนสายตาออกไปก่อน ถึงแม้ประโยคนี้ที่เธอพูดออกมาอาจจะดูไม่หนักแน่นหรือสำคัญอะไร แต่ตอนพูดเธอไม่ลังเลเลย นี่คือความต้องการจากใจจริงของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...