เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 72

สรุปบท บทที่ 72: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน

อ่านสรุป บทที่ 72 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน โดย จิ่นอวิ๋น

บทที่ บทที่ 72 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จิ่นอวิ๋น อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

สวีซุ่ยหนิงเอ่ยพลางจ้องมองเขา "ในอนาคตหากนายมีลูกสองคน นายจะบอกลูกทั้งสองคนของนายไหมว่าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่จำเป็นจะต้องเป็นพี่เป็นน้องกัน?"

"ลูกของฉัน พวกเขาไม่มีทางที่จะไม่เอื้อเฟื้อผลประโยชน์ให้แก่กัน" เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

สวีซุ่ยหนิงไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา นับว่ายังโชคดีที่เธอไม่ได้มีลูกกับเขา ไม่อย่างนั้นเธอคงเป็นกังวลเกี่ยวกับการอบรมสั่งสอนของเด็กๆ ลูกทั้งสองคนที่เธอคลอดมาด้วยตัวเอง ต้องมาคอยคำนึงถึงผลประโยชน์ของอีกฝ่าย แบบนี้เรียกว่าอะไรกัน?

เธออับจนหนทางในการขับไล่เฉินลู่ เธอทำได้เพียงบอกเขา "งั้นฉันขอร้องนายแล้วกัน นายช่วยแสดงละครหน่อยจะได้ไหม?"

เฉินลู่จ้องมองเธอ เขาไม่ได้พูดอะไร

สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่านี่คือคำตอบรับของเขาใช่หรือเปล่า

เวลาอาหารเย็นคือช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม สวีซุ่ยหนิงกลัวว่าเฉินลู่จะไม่แตะต้องอะไรเลยเหมือนเมื่อวันก่อน ตะเกียบและถ้วยชามบนโต๊ะล้วนแต่ซื้อมาใหม่ประมาณสิบกว่าชุด ทุกคนล้วนใช้แต่ของใหม่ ไม่มีใครคิดมากอะไร

วันเกิดที่ยิ่งใหญ่ของหญิงชรา ทุกคนต้องกล่าวคำอวยพรวันเกิด ส่วนเฉินลู่นั้นก็ให้ความร่วมมือ

อย่างน้อยเรื่องเงินๆทองๆ เฉินลู่ไม่เคยตระหนี่ เขามอบอั่งเปาให้แก่หญิงชราด้วยเงินจำนวน 18888 หยวน

ตั้งแต่สวีซุ่ยหนิงมาที่นี่ นี่คือครั้งแรกที่เธอรู้สึกโล่งใจ

เมื่อเฉินลู่เอ่ยคำอวยพรจบ เขาก็ไม่ได้ทานอาหารอะไรมากนัก อาจเป็นเพราะว่าเขานั้นไม่คุ้นเคยที่จะทานอาหารกับคนที่ไม่รู้จัก ยิ่งกว่านั้นทุกคนที่ทานอาหารอยู่ที่นี่ต่างก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ไม่มีใครถือสาสำหรับการใช้ตะเกียบร่วมกัน แน่นอนว่าเขาไม่อาจปล่อยละเลยเรื่องนี้ไปได้

หลังอาหาร ใครใคร่จะเล่นไพ่ก็ไปเล่นไพ่ ใครใคร่จะพูดคุยกับหญิงชราก็ไปพูดคุยกับหญิงชรา

สวีซุ่ยหนิงถูกเฉินลู่ลากออกจากบ้าน เขากล่าวว่าเขาต้องการเดินเล่น จากนั้นเขาก็พาเธอเข้าไปภายในรถ

เฉินลู่ขับรถตามจีพีเอสด้วยความเชื่องช้าและในที่สุดก็เข้าสู่ตัวเมือง เขาเอ่ย "ที่นี่มีอะไรอร่อยๆไหม?"

สวีซุ่ยหนิงทำได้เพียงแค่พาเขาไปยังร้านอาหารเล็กๆร้านหนึ่ง เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นอะไรทำนองนี้ เฉินลู่สั่งอาหารไปหนึ่งอย่างและไม่เอารสเผ็ด

"ที่นี่ทุกคนกินเผ็ดกันทั้งนั้น ไม่มีหรอกที่จะไม่เผ็ดเลย แค่ซอสปรุงก็เผ็ดแล้ว" สวีซุ่ยหนิงเอ่ย

ในเวลานี้เฉินลู่เองก็หิวแล้ว เขาทำได้เพียงแค่ยอมรับมัน

สวีซุ่ยหนิงจ้องมองเขาที่กำลังกลืนอาหารด้วยท่าทียากลำบาก เธอเอ่ย "เฉินลู่ พูดตามตรง ที่นายมาหาฉันในช่วงนี้ ไม่ใช่เพราะอยากนอนกับฉันหรอกเหรอ ได้นอนแล้วนี่ กลับไปไม่ดีกว่าเหรอ?"

เฉินลู่เอ่ย "ถ้างั้นเธอก็พูดมา เมื่อไรเธอจะกลับ?"

"อย่างน้อยก็อีกประมาณหนึ่งสัปดาห์"

"พี่เขย" สวีซุ่ยหนิงตะโกนเรียก

พี่เขยคนนี้ของสวีซุ่ยหนิง ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เขาเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด เขารีบกลับมาในวันนี้ แต่เมื่อมาถึงก็ช้าไปเสียแล้ว แต่เขาก็ยืนกรานที่จะพบหญิงชรา

เขาและลูกพี่ลูกน้องหญิงของสวีซุ่ยหนิงนั้นผ่านความทุกข์ยากลำบากกันมาตั้งมากมาย ในตอนแรกคุณอาของสวีซุ่ยหนิงไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ให้พวกเขาปรองดองกัน ต่อมาเธอรู้สึกประทับใจกับความจริงใจของพี่เขยคนนี้

เขาปฏิบัติต่อสมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างดี ทันทีที่มาถึงเขาก็จัดการเก็บของทั้งหมด หญิงชราปลูกผัก เขาก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะช่วยใส่ปุ๋ยก่อนไป ผู้เฒ่าผู้แก่จะได้ไม่ต้องถือของหนัก

คุณลุงที่อยู่ข้างกายเอ่ยด้วยท่าทีชื่นอกชื่นใจ "นายนี่มีความคิดที่ดีมากและรอบคอบเสียยิ่งกว่าพวกเราที่เป็นลูกชายเสียอีก ไม่น่าแปลกใจที่ยายจะชอบนายมากที่สุด"

คุณย่าของสวีซุ่ยหนิงก็คือคุณยายของพี่สาวเธอ

ทันทีที่พี่เขยมา เขาก็เริ่มพูดคุยกับทุกคนด้วยความกระตือรือร้น ในเวลานี้พี่สาวหน้าแดงระเรื่อ เวลาอยู่ต่อหน้าสามี อย่างไรเสียก็ไม่เหมือนกับเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น

พี่สาวอยากให้พวกเขาได้พูดคุยกัน เธอเก็บจานชามเตรียมเข้าไปล้างอย่างเงียบๆ พี่เขยสายตาเฉียบแหลม เขาเอ่ย "ให้ผมล้างเถอะ"

"ไม่ต้องหรอก คุณไปพูดคุยกับพวกเขาเถอะ" พี่สาวส่งสายตาไปทางสวีซุ่ยหนิง "หนิงหนิงพาแฟนหนุ่มกลับมาด้วย พวกคุณไปทำความรู้จักกันเถอะค่ะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน