สวีซุ่ยหนิงเอ่ยพลางจ้องมองเขา "ในอนาคตหากนายมีลูกสองคน นายจะบอกลูกทั้งสองคนของนายไหมว่าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่จำเป็นจะต้องเป็นพี่เป็นน้องกัน?"
"ลูกของฉัน พวกเขาไม่มีทางที่จะไม่เอื้อเฟื้อผลประโยชน์ให้แก่กัน" เฉินลู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
สวีซุ่ยหนิงไม่เห็นด้วยกับความคิดของเขา นับว่ายังโชคดีที่เธอไม่ได้มีลูกกับเขา ไม่อย่างนั้นเธอคงเป็นกังวลเกี่ยวกับการอบรมสั่งสอนของเด็กๆ ลูกทั้งสองคนที่เธอคลอดมาด้วยตัวเอง ต้องมาคอยคำนึงถึงผลประโยชน์ของอีกฝ่าย แบบนี้เรียกว่าอะไรกัน?
เธออับจนหนทางในการขับไล่เฉินลู่ เธอทำได้เพียงบอกเขา "งั้นฉันขอร้องนายแล้วกัน นายช่วยแสดงละครหน่อยจะได้ไหม?"
เฉินลู่จ้องมองเธอ เขาไม่ได้พูดอะไร
สวีซุ่ยหนิงไม่รู้ว่านี่คือคำตอบรับของเขาใช่หรือเปล่า
เวลาอาหารเย็นคือช่วงเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม สวีซุ่ยหนิงกลัวว่าเฉินลู่จะไม่แตะต้องอะไรเลยเหมือนเมื่อวันก่อน ตะเกียบและถ้วยชามบนโต๊ะล้วนแต่ซื้อมาใหม่ประมาณสิบกว่าชุด ทุกคนล้วนใช้แต่ของใหม่ ไม่มีใครคิดมากอะไร
วันเกิดที่ยิ่งใหญ่ของหญิงชรา ทุกคนต้องกล่าวคำอวยพรวันเกิด ส่วนเฉินลู่นั้นก็ให้ความร่วมมือ
อย่างน้อยเรื่องเงินๆทองๆ เฉินลู่ไม่เคยตระหนี่ เขามอบอั่งเปาให้แก่หญิงชราด้วยเงินจำนวน 18888 หยวน
ตั้งแต่สวีซุ่ยหนิงมาที่นี่ นี่คือครั้งแรกที่เธอรู้สึกโล่งใจ
เมื่อเฉินลู่เอ่ยคำอวยพรจบ เขาก็ไม่ได้ทานอาหารอะไรมากนัก อาจเป็นเพราะว่าเขานั้นไม่คุ้นเคยที่จะทานอาหารกับคนที่ไม่รู้จัก ยิ่งกว่านั้นทุกคนที่ทานอาหารอยู่ที่นี่ต่างก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ไม่มีใครถือสาสำหรับการใช้ตะเกียบร่วมกัน แน่นอนว่าเขาไม่อาจปล่อยละเลยเรื่องนี้ไปได้
หลังอาหาร ใครใคร่จะเล่นไพ่ก็ไปเล่นไพ่ ใครใคร่จะพูดคุยกับหญิงชราก็ไปพูดคุยกับหญิงชรา
สวีซุ่ยหนิงถูกเฉินลู่ลากออกจากบ้าน เขากล่าวว่าเขาต้องการเดินเล่น จากนั้นเขาก็พาเธอเข้าไปภายในรถ
เฉินลู่ขับรถตามจีพีเอสด้วยความเชื่องช้าและในที่สุดก็เข้าสู่ตัวเมือง เขาเอ่ย "ที่นี่มีอะไรอร่อยๆไหม?"
สวีซุ่ยหนิงทำได้เพียงแค่พาเขาไปยังร้านอาหารเล็กๆร้านหนึ่ง เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเย็นอะไรทำนองนี้ เฉินลู่สั่งอาหารไปหนึ่งอย่างและไม่เอารสเผ็ด
"ที่นี่ทุกคนกินเผ็ดกันทั้งนั้น ไม่มีหรอกที่จะไม่เผ็ดเลย แค่ซอสปรุงก็เผ็ดแล้ว" สวีซุ่ยหนิงเอ่ย
ในเวลานี้เฉินลู่เองก็หิวแล้ว เขาทำได้เพียงแค่ยอมรับมัน
สวีซุ่ยหนิงจ้องมองเขาที่กำลังกลืนอาหารด้วยท่าทียากลำบาก เธอเอ่ย "เฉินลู่ พูดตามตรง ที่นายมาหาฉันในช่วงนี้ ไม่ใช่เพราะอยากนอนกับฉันหรอกเหรอ ได้นอนแล้วนี่ กลับไปไม่ดีกว่าเหรอ?"
เฉินลู่เอ่ย "ถ้างั้นเธอก็พูดมา เมื่อไรเธอจะกลับ?"
"อย่างน้อยก็อีกประมาณหนึ่งสัปดาห์"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...