ตอน บทที่ 74 จาก เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 74 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการโต้แย้ง เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน ที่เขียนโดย จิ่นอวิ๋น เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เฉินลู่มองดูเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "ทำไมเธอถึงคิดแต่เรื่องอยากแต่งงานทุกวัน?"
สวีซุ่ยหนิงมองเขาอย่างแปลกใจ "การอยากแต่งงานมันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? และนายก็ต้องแต่งงานเหมือนกัน"
เฉินลู่ไม่พูดอะไรอีก อันที่จริงถ้าเขาต้องแต่งงานก็เป็นเพราะช่วงเวลาของชีวิตแค่เดินมาถึงจุดที่ต้องแต่งงานก็เท่านั้น ไม่ใช่เพราะเขาอยากแต่ง
สวีซุ่ยหนิงไม่สนใจเขา เตรียมข้าวผัดสองจาน จานเล็กให้น้องสาวลูกพี่ลูกน้อง ส่วนเธอเดินถือจานใหญ่ไปที่หน้าประตู
ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ด้านใน แต่สวีซุ่ยหนิงกำลังยืนรับลมเย็นที่หน้าประตูเพียงคนเดียว
ไม่ว่าเธอจะเดินไปไหนเฉินลู่เป็นต้องเดินตามเธอตลอด เพราะเขาไม่ชอบนั่งอยู่กับพวกญาติๆ ของเธอ
หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงกินไปสองสามคำ เธอก็รู้สึกเผ็ด เธอเรียกให้น้องสาวลูกพี่ลูกน้องหยิบน้ำโค้กมาให้เธอหนึ่งขวด แต่ด้านในเสียงดังมากจนลูกพี่ลูกน้องไม่ได้ยินเสียงเธอ
เฉินลู่มองดูเธอ จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปหยิบให้เธอ
ตอนที่เขาเดินออกมาสวีซุ่ยหนิงได้พูดขอบคุณเขาไปหนึ่งครั้ง
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย เฉินลู่จ้องมองไปที่จานของเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคว้าตะเกียบจากมือของเธอมาเพื่อจะลองชิมดู
สวีซุ่ยหนิงอึ้งไปพักหนึ่ง "ตอนที่ฉันถามนายว่าจะกินด้วยกันไหม นายก็ไม่พูด แล้วตอนนี้จะมาแย่งฉันกินอีก"
เฉินลู่ชิมไปหนึ่งคำก็คืนตะเกียบให้เธอ สวีซุ่ยหนิงเบะปากและมองไปที่ตะเกียบที่เขากิน
"ทำไมตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเธอมั่นใจมาก แม่ของฉันไปรับปากเธอได้อย่างไร ?" เฉินลู่ถามแบบผ่านๆ
สวีซุ่ยหนิงแกล้งทำเป็นไม่รู้ "นายหมายถึงอะไร?"
แต่เฉินลู่เปิดโปงเธออย่างไร้ความปรานี "ระหว่างที่เธอเงียบหายไปในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา แม่ของฉันโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบกับฉันทุกสัปดาห์เลย เห็นได้ชัดว่าพวกเธอยังคงติดต่อกันอยู่"
สวีซุ่ยหนิงยิ่งอยู่ยิ่งกลัวเขาน้อยลงเรื่อยๆ นั่นก็เป็นเพราะว่ามีที่พึ่งคนใหม่แล้ว
สวีซุ่ยหนิงไม่พูดอะไร เธอไม่กลัวเฉินลู่ขนาดนี้ก็เป็นเพราะความน่าเชื่อถือของเซี่ยซี อย่างไรเสียก็เป็นผู้อาวุโส สิ่งที่รับปากกับเธอก็มีความน่าเชื่อถือมากกว่าเฉินลู่
โชคดีที่เฉินลู่ลองถามแบบผ่านๆ และไม่ได้คาดคั้นอะไรจากสวีซุ่ยหนิง
หลังจากทานทุกอย่างเสร็จ เขาชวนสวีซุ่ยหนิงออกไปเดินเล่น
จริงๆ แล้วเขาแค่ไม่ต้องการให้ญาติของเธอเรียกเข้าไปพูดคุยเท่านั้นเอง
บ้านของคุณย่าสวีซุ่ยหนิงตั้งอยู่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านซึ่งจะไม่คึกคักเท่ากลางหมู่บ้าน ถนนเส้นเล็กๆ ในตอนกลางคืนค่อนข้างจะเปลี่ยวและรกร้าง
"ฉากสำคัญ? ฉากสำคัญคืออะไร?" สวีซุ่ยหนิงเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย จึงได้สบตาเข้ากับเฉินลู่พอดี และก็พอจะเข้าใจบ้างแล้ว แต่เธอแทบไม่เชื่อเลยว่าพี่สาวลูกพี่ลูกน้องกับพี่เขยของเธอจะแอบมาทำเรื่องอย่างว่า "นายคิดว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนนายงั้นเหรอ"
เฉินลู่กระตุกมุมปากเบาๆ "คนเป็นแฟนกันห่างกันนานขนาดนี้ พอเจอหน้ากันจะต้องทำเรื่องอย่างว่าอย่างแน่นอน"
สวีซุ่ยหนิงไม่เห็นด้วย "นายกำลังเอาใจนายไปวัดใจคนอื่น"
"บ้านของเธอไม่สะดวกยังไงเธอก็รู้ดี ญาติๆ เยอะขนาดนี้ หลายคนคงทำได้เพียงแค่ปูฟูกนอนในห้องนั่งเล่น เธอคิดว่าจะมีโอกาสทำเรื่องนั้นไหม?"
เมื่อคิดแบบนี้ถึงแม้จะไม่มีเครื่องปรับอากาศในชั้นลอยบนบ้าน แต่อย่างน้อยก็เป็นพื้นที่ส่วนตัว
สวีซุ่ยหนิงกับเฉินลู่กลัวว่าจะต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา ดังนั้นจึงต้องรีบกลับไปก่อน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา สวีซุ่ยหนิงได้สังเกตเห็นว่าพี่สาวลูกพี่ลูกน้องหน้าแดงมาก พี่สาวลูกพี่ลูกน้องมองแฟนตัวเองด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มตอนที่เขาเอาน้ำมาให้
นั่นคือสายตาที่แสดงถึงความรู้สึกรักใคร่ของผู้หญิง
สวีซุ่ยหนิงเริ่มเชื่อคำพูดของเฉินลู่
เฉินลู่ที่อยู่ข้างๆ เธอพูดแสดงความคิดเห็น "ลูกพี่ลูกน้องของเธอเหมือนผู้หญิงมากกว่าเธอซะอีก ตอนนี้เธอหน้าหนาจนไม่รู้ความหมายของคำว่าอาย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...