เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน นิยาย บท 8

หลังจากที่สวีซุ่ยหนิงได้ยินคำพูดของเฉินลู่ สีหน้าก็ซีดขาวอย่างอดไม่ได้

สายตาของเธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหญิงสาวคนอีกครั้ง เธอเซ็กซี่มากจริง รูปร่างของตัวเองเมื่อเทียบกับเธอ ก็ดูธรรมดาไปเลย

ครั้งนี้สวีซุ่ยหนิงด้อยกว่าคนอื่นมากจนอดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้ การจะติดต่อกับลู่เฉินเกรงว่าจะไม่ใช่ลู่ทางที่เป็นผลแล้วล่ะ

เธอมองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เฉินลู่เองที่เอียงศีรษะและได้เห็นสีหน้าโศกเศร้าของเธอ ซึ่งน่าสงสารมาก

แต่เฉินลู่เป็นใคร หัวใจดั่งศิลาไร้ซึ่งแรงสั่นกระเพื่อมในจิตใจ เขาเพียงปรายสายตามองอย่างบางเบา แล้วปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเดินควงแขนเขาออกไป

คล้ายกับการมองคนแปลกหน้าคนหนึ่งเท่านั้น

“นี้คือผู้หญิงของอาจารย์เฉินลู่ นอกจากนี้ยังวิจัยในปัญหาด้านเต้านมอีกด้วย เพื่อที่จะตามเฉินลู่ถึงได้กลับประเทศมา เธอดูฐานะทางบ้านของพวกเขาสิดูเหมาะสมมาก แบบนี้เขาเรียกกิ่งทองใบหยก” เจี่ยงหนานตั๋วรอให้เฉินลู่จากไปแล้ว ถึงได้พูดออกมา

สวีซุ่ยหนิงไม่มีเสียงพูดใดๆ

เมื่อนั่งรถแท็กซี่ออกจากโรงพยาบาล ถึงได้ส่งข้อความหาเฉินลู่

【หมอเฉิน เรื่องของเราจบกันแล้วเหรอ】

ไม่นานเฉินลู่ก็ตอบกลับมา อย่างสุภาพและเป็นทางการ:หวังว่าเธอจะได้พบเจอกับความสุขโดยเร็ว

【แต่หมอเฉินคะ นายสำคัญกับฉันมาก ฉันไม่อยากปล่อยนายไป】

ประโยคนี้เหมือนหินจมลงไปในทะเล[1]

และตอนนี้ซูเล่อฉีก็นั่งลงข้างเฉินลู่ เขาวางโทรศัพท์ไว้ด้านข้าง และเห็นข้อความที่สวีซุ่ยหนิงส่งมาพอดี

เธอยิ้มพลางเงยหน้ามองเขา “พูดดีจริงนะ”

เฉินลู่คุ้นชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติ อ่านรายงานในมือโดยไม่ได้พูดอะไร

ซูเล่อฉีอยากจะรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินค่าของผู้หญิงที่ส่งข้อความมาที่เขามี เธอจึงถามเขาไปโดยตรง “ถ้าหากผู้หญิงคนนั้น คุณจะยอมไหม”

“ถ้าไม่มีความรู้สึกดีอะไรเลย นั่นก็แสดงว่าเป็นไปไม่ได้เลย” เฉินลู่ตอบ

ซูเล่อฉีครุ่นคิดเล็กน้อย “งั้นก็แปลว่าคุณมีความรู้สึกสนใจในตัวฉัน ถูกไหม”

เฉินลู่ยกเปลืองตาขึ้นมองเธอครั้งหนึ่ง และไม่ได้กล่าวอะไร

ซูเล่อฉีมองความหมายที่เป็นนัยนี้ออก จนใบหน้าเก็บซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ เธอกัดริมฝีปากยั่วยวน “หมอเฉิน ถ้าอย่างนั้นฉันหรือเธอใครสวยกว่ากัน”

เฉินลู่ตอบอย่างราบเรียบ “เทียบเธอไม่ติด”

ซูเล่อฉีพึงพอใจเป็นอย่างมาก คู่แข่งที่หาที่เปรียบมิได้โดยสิ้นเชิง เธอย่อมไม่เก็บเอามาสนใจอยู่แล้ว

“ตอนฉันอยู่บนเตียง ก็ยิ่งไม่มีผู้หญิงคนไหนจะเทียบได้เลย” เธอหยอกล้อเขาอย่างกล้าหาญ

เฉินลู่มองพลางวางเอกสาร ถามอย่างขี้สงสัย “จริงเหรอ”

ทางฝั่งสวีซุ่ยหนิง ราวกับถูกไฟเผาไหม้อย่างรุนแรง[2]

เฉินลู่คนนี้ช่างพลิกหน้า[3]ได้ง่ายดายจริงๆ โดยลากตัวแทนที่โหดเหี้ยมอะไรนั้นออกมา

แต่เขาเป็นฟางเส้นสุดท้ายเพียงหนึ่งเดียวที่จะช่วยชีวิตสวีซุ่ยหนิง จะให้เธอปล่อยไปแบบนี้ เธอก็ทำไม่ได้

เรื่องนี้ทำให้สวีซุ่ยหนิงนอนไม่หลับ เมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ร่างกายก็มีความผิดปกติเล็กน้อย เธออาเจียน เธอกอดถังขยะและอ้วกออกมาจนดวงตาแดงไปหมด

เสียงของเธอปลุกให้จางอวี้ตื่นขึ้น และรีบออกมาจากห้องเพื่อดูเธอ ขมวดคิ้วและถามขึ้น “ซุ่ยซุ่ย เธอกินอะไรผิดสำแดงลงไปรึเปล่า”

สวีซุ่ยหนิงกุมท้อง ไม่สบายตัวจนไม่อยากพูดอะไร จำขึ้นมาได้เพียงเลือนลาง ว่าประจำเดือนเธอไม่มาหลายเดือนแล้ว เดิมทีประจำเดือนของสวีซุ่ยหนิงก็มาไม่ตรงอยู่แล้ว บางครั้งสองสามเดือนถึงมาที ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้

“ฉันน่าจะ ท้อง”

จางอวี้ตะลึงงัน สวีซุ่ยหนิงกับเจียงเจ๋อไม่ได้มีความสัมพันธ์กันมานานมากแล้ว “ถ้าเธอท้อง แล้วพ่อเด็กคือใคร”

สวีซุ่ยหนิงกุมท้องพลางขบริมฝีปากไม่ได้พูดอะไรออกมา

จางอวี้ก็ไม่สามารถที่จะไปถามเรื่องส่วนตัวของเธอได้ ทำได้เพียงจัดการเรื่องนี้ก่อน “งั้นไปตรวจที่โรงพยาบาลกันก่อนเถอะ”

เมื่อไปโรงพยาบาลก็มักจะหาคนที่รู้จัก และไม่รู้ว่าจางอวี้ไปเอาความสามารถมาจากไหน เมื่อเธอเห็นเฉินลู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาล ใบหน้าของสวีซุ่ยหนิงที่ซีดขาวไปหมดแล้ว

“หมอเฉิน” เธอพ่นเสียงออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง

เฉินลู่มองเธออย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง พูดอย่างไม่แยแส “เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปตรวจ”

จางอวี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นไอบรรยากาศที่ผิดปกติระหว่างพวกเขาทั้งสอง แต่ผิดปกติที่ตรงไหน ก็บอกไม่ถูก

จนกระทั่งเฉินลู่ถามสวีซุ่ยหนิงขึ้นมา “ถ้าท้องจริงๆ เธอวางแผนที่จะทำยังไงต่อ”

สวีซุ่ยหนิงก้มหน้า ตอบด้วยเสียงบางเบา “ฉันสามารถคลอดเขาออกมาได้ไหม”

เฉินลู่จิบมุมปากของเขาอย่างเย็นชา พูดอย่างจี้ใจดำ “ใช้ลูกเป็นเครื่องมือ ทำได้จริงๆ”

จางอวี้เบิกตากว้าง

สวีซุ่ยหนิงและเฉินลู่เป็นชู้กันจริงๆเหรอ

【1】 หินจมลงไปในทะเล แปลว่า เงียบหายไปโดยปราศจากร่องรอย

【2】 ไฟเผาไหม้อย่างรุนแรง แปลว่า ตกอยู่ในสภาพอึดอัด เคอะเขินมาก

【3】 พลิกหน้า แปลว่าโกรธ แตกคอกัน แตกหัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน