น้อยครั้งที่เฉินลู่จะเห็นท่าทีที่แข็งกระด้างของสวีซุ่ยหนิง โดยส่วนใหญ่แล้วเธอเป็นคนอ่อนโยน แต่คราวนี้น้ำเสียงของเธอเบาลง แต่ภายในคำพูดของเธอนั้นไม่มีท่าทีจะยอมอ่อนข้อ
อย่างไรก็ตาม ความคิดของเขาเองก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน เรื่องใดที่เขายินยอมก็ดี หากปล่อยให้เลยตามเลยได้เขาก็จะปล่อย แต่เรื่องไหนที่เขาไม่ยินยอม น้อยคนนักที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของเขาได้
เฉินลู่ได้กำหนดขอบเขตของเขาไว้อย่างชัดเจน แม้ว่าจะเป็นภรรยาในอนาคตของเขาก็ตาม เขาก็ไม่ยินดีที่จะเอ่ยถึงเรื่องของตัวเองในอดีต ในความคิดเห็นของเขาสำหรับการกระทำของสวีซุ่ยหนิง เขาเห็นว่าเธอนั้นมีความทะเยอทะยานไม่น้อย
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยาน และเขายินดีที่จะยอมรับว่าผู้หญิงเข้าหาเขาเพราะมีจุดประสงค์ ก่อนหน้านี้ที่สวีซุ่ยหนิงเข้าหาเขาเพราะเธอเองมีจุดประสงค์บางอย่าง ไม่ใช่ว่าเขาก็ปล่อยให้เธออยู่เคียงข้างเขาหรอกเหรอ? แม้ในตอนนี้เลิกรากันไปแล้วเขาเองก็ยังอยากให้เธอกลับมาหาเขา
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องความทะเยอทะยาน สวีซุ่ยหนิงเริ่มเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตทางสังคมของเขา พูดให้ชัดเจนคือเธอริเริ่มที่จะเข้ามาบงการชีวิต
การที่เฉินลู่ยอมเกลี้ยกล่อมนั่นคือเรื่องหนึ่ง แต่การถูกผู้หญิงมากดขี่และบงการนั่นก็คืออีกเรื่องหนึ่ง
อีกอย่างเขาเองก็สัมผัสได้ว่าเธอคิดอยากจะเอาชนะโจวอี้
อย่างไรก็ตามนับได้ว่าโจวอี้คือ'วีรสตรี'ของตระกูลเฉินที่คอยแบ่งทรัพย์สินของเฒ่าชราที่ตายจากไป เนื่องด้วยผลประโยชน์ เขาไม่สามารถปล่อยให้โจวอี้เป็นทุกข์ได้
"ไปพักผ่อนก่อนเถอะ ค่อยคุยกัน" เฉินลู่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
สวีซุ่ยหนิงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นเธอหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้าและเอ่ย "ค่อยคุยกันครั้งหน้าก็ยังคงเป็นเรื่องนี้ หากนายอยากจะคืนดีกับฉัน ช่วยทำให้ฉันเห็นถึงความจริงใจของนาย หากแฟนเก่าของนายรู้อะไร ฉันในฐานะคนปัจจุบันก็ควรรู้ด้วย เรื่องแค่นี้นายยังทำไม่ได้ ฉันเองก็ไม่รู้จะคบกับนายไปทำไม? หรือว่าในตอนที่นายคบกับฉัน นายเพียงอยากให้ฉันเป็นเงาของแฟนเก่านาย?"
หลังจากนั้นเฉินลู่ก็ไม่พูดอะไรอีก เขาส่งสวีซุ่ยหนิงตรงหน้าประตูโรงแรม เขาเอ่ยว่า "เธอให้ฉันได้ไตร่ตรองหน่อยแล้วกัน เธอพักผ่อนเถอะ ฉันเองก็จะกลับไปพักเหมือนกัน"
ขณะที่เฝ้ามองเฉินลู่ขับรถจากไป สวีซุ่ยหนิงก็เดินเข้าไปภายในโรงแรมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เป็นเพียงเงาของแฟนเก่า เป็นการพูดเกินจริงหรือไม่ ในตอนนี้สวีซุ่ยหนิงเองก็ไม่รู้
เธอรู้เพียงแค่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเฉินลู่อาจจะพังทลายลง
ดูเหมือนว่าเขาจะพูดอะไรกับเธอก่อนจะจากไป แต่ตามปกติแล้ว เขาอาจจะไม่ไปและอาจจะขึ้นไปยังด้านบนกับเธอด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับกลายเป็นเช่นนี้ อันที่จริงก็เห็นได้ว่าเป็นการจากลาที่ไร้ซึ่งความสุข
สำหรับเรื่องของโจวอี้ สวีซุ่ยหนิงยังคงมั่นใจ เฉินลู่ไม่ได้ชอบหล่อนมากดังเช่นเมื่อก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าภายในใจของเฉินลู่จะไม่หลงเหลือพื้นที่ให้แก่โจวอี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เสน่ห์เหลือร้ายของคุณนายตระกูลเฉิน
แรกๆ สงสารนอ อ่านไปอ่านมาสงสารพอ...
เฉินลู่ไอ้คนเลว ส่วนสวีซุ่ยหนิงก็ใจอ่อนน่าสงสารเสียจริง...
ซุยหนิงย้ายที่อยู่เถอะ สงสารนาง เจอแต่ผู้ชายเลวๆ...
สวีซุยหนิงทำไมชอบเป็นของเล่นของเฉินลู่ล่ะ...
ช่วยอัพต่อด้วยค่ะ...