ตอนที่ 1001: กำจัดราชาเสือ (1)
“ข้าขอคารวะสัตว์เทวะที่ยิ่งใหญ่” สัตว์อสูรระดับเจ็ดคุกเข่าลงในร่างมนุษย์ในขณะที่เขาร้องออกมาอย่างตื้นตัน
เจี้ยนเฉินมองผ่านไปที่สัตว์อสูร และสายตาที่เฉยเมยของเขาก็แข็งทื่อ เขาจำสัตว์อสูรนี้ได้ มันคือราชาวานรของวานรวิญญาณที่เขาเจอเมื่อหลายปีที่แล้วที่เทือกเขาครอส ราชาวานรมีทรัพยากรสวรรค์จำนวนมากและสุราร้อยพงไพรที่ล้ำค่ามาก
สัตว์อสูรระดับ 7 บางตัวที่เห็นพยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเทพเจ้าของพวกเขาก็ไม่ลังเลเช่นกัน พวกเขาคุกเข่าลงและร้องออกมาดังเหมือนราชาวานร “พวกเราขอคารวะสัตว์เทวะ”
ใบหน้าของสัตว์อสูรที่ค่อนข้างหน้ากลัวเปลี่ยนไปอีกครั้งหลังจากพวกเขาได้เห็นคนหลายคนคุกเข่าลง ในท้านที่สุด พวกเขาก็คุกเข่าลงอย่างเชื่อฟังเช่นกันและก็พูดออกมาดังเหมือนคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เสียงของพวกเขาก็สงบและไม่ได้คิดอะไร
ในพริบตาเดียว สัตว์อสูรทั้งหมดก็รีบเข้ามาจากส่วนลึกของเทือกเขาครอสแล้วคุกเข่าลง พวกเขาดูเหมือนจะมองไปที่พยัคฆ์ปีกเทวะอย่างเดียว โดยที่ไม่สนใจ รัมกุยเนส เจี้ยนเฉิน โหยวเยว่ และเฮยยู่ที่อยู่ข้าง ๆ เสือขาวเลย
เจี้ยนเฉินมองออกไปไกลทันที ทันนั้นเอง สายตาของเขาก็เป็นประกายเมื่อเขาเห็นจุดของชายวัยกลางคนทที่ดูปราดเปรื่องในชุดขาวบินเข้ามาอย่างเร่งรีบ เขาดูเหมือนคนธรรมดาโดยที่ไม่มีพลังแห่งการมีอยู่เลยเหมือนเฮยยู่ เขาลบพลังแห่งการมีอยู่ของเขาออกไปเช่นกัน
อย่างไรตาม พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินนั้นก็ทรงพลังมากว่า เขาสามารถมองทะลุถึงความแข็งแกร่งของชายคนนี้ได้อย่างชัดเจนถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะลบหลังแห่งการมีอยู่ออกไป
“เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 2 ” เจี้ยนเฉินคิด อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้สนใจมาก เพราะจอมยุทธที่อยู่ในระดับนี้ไม่สามารถคุกคามเขาได้เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้
ชายมาถึงตรงหน้าสัตว์อสูรระดับ 7 ทั้งหมด และเขาก็มองไปที่พยัคฆ์ปีกเทวะด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเป เขาไม่คุกเข่าลงเหมือนคนอื่นและคำนับแทน เขาพูดออกมาอย่างใจเย็น “ข้าขอคารวะสัตว์เทวะ”
ชายคนนี้ใจเย็นมากกว่าสัตว์อสูรระดับ 7 คนอื่น หลังจากที่เขาคำนับพยัคฆ์ปีกเทวะแล้ว เขาก็มองไปที่กลุ่มของเจี้ยนเฉิน เขาบอกได้ว่าเจี้ยนเฉินและโหยวเยว่นั้นเป็นมนุษย์ แต่เขาก็ยังสงบนิ่ง เขาไม่ได้แสดงความเป็นปรปักษ์เลย
ใบหน้าของรัมกุยเนสก็เต็มไปด้วยอารมณ์ต่าง ๆ เมื่อนางเห็นชายผู้นี้ หลังจากที่ลังเลเล็กน้อย นางก็คำนับไปที่ชายคนนี้แล้วพูด “รัมกุยเนสขอคารวะราชาเปิง”
ความคิดแวบเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉินเมื่อเขาได้ยินรัมกุยเนสเรียกชายคนนี้ “ราชาเปิง ? ตระกูลกิลลิกันมีราชา 2 คน หนึ่งในนั้นคือราชาเสือ ดังนั้น ไม่ได้หมายความว่าชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเราเป็นราชาคนที่ 2 ของเผ่าอย่างนั้นหรือ?”
ราชาเปิงมองไปที่รัมกุยเนสและรอยยิ้มที่อบอุ่นก็เกิดขึ้นที่ใบหน้าของเขา “รัมกุยเนส ขอต้อนรับการกลับมา เจ้าคงลำบากมากตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้” เขารู้เกี่ยวกับความจริงที่ซ่อนไว้ในตอนที่นางและสามีของนางถูกราชาเสือไล่ล่า เว้นเสียแต่ว่าเขาไม่สามารถป้องกันหรือหยุดมันเอาไว้ได้ เพราะว่าไคเซอร์จากทวีปสัตว์เทวะเป็นผู้ยุยงอยู่เบื้องหลัง ทั้งหมดที่เขาทำได้คือมองดูสถานการณ์ ในขณะที่พวกเขาทั้งสองต้องตกระกำลำบากเพราะราชาเสือ
“ราชาเปิงมีน้ำใจเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้เป็นคนของตระกูลมานานแล้ว” เสียงของรัมกุยเนสค่อนข้างเย็นชา แม้ว่าราชาเปิงจะไม่ได้มีส่วนในการไล่ล่านางและสามีของนาง แต่นางไม่รู้ว่าราชาเปิงอยู่ฝ่ายไหน ดังนั้น นางจึงระมัดระวังเขามากและนางยังคิดเป็นปรปักษ์อีกด้วย
ราชาเปิงรู้สึกได้จากการที่รัมกุยเนสปฏิบัติกับเขา ถ้ามีผู้อาวุโสมาทำตัวหยาบคายต่อหน้าเขา เขาคงสั่งสอนนางไปแล้ว แต่มันก็แตกต่างไป ในตอนนี้รัมกุยเนสเป็นแม่ของพยัคฆ์ปีกเทวะ ดังนั้นสถานะของนางจึงแตกต่างอย่างมากจากก่อนหน้านี้ แม้ในฐานะราชาของตระกูลกิลลิกัน เขายังจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติต่อนางอย่างสุภาพและกลัวที่จะไปทำให้นางโกรธ นี่เป็เหตุผลที่ว่าทำไมราชาเปิงถึงได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ต่อการกระทำของรัมกุยเนส และเขาก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...
เลิกอัพแล้วหรา...
good novel...