สรุปตอน ตอนที่ 1051: การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของนางฟ้าเฮายู่ (2) – จากเรื่อง เทพกระบี่มรณะ โดย Internet
ตอน ตอนที่ 1051: การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของนางฟ้าเฮายู่ (2) ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง เทพกระบี่มรณะ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 1051: การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของนางฟ้าเฮายู่ (2)
“นางอยู่ไหน ? นางหายไปได้อย่างไร…”
ทุก ๆ คนประหลาดใจเมื่อเห็นบัลลังก์ที่ว่างเปล่า พวกเขานิ่งอึ้งไปในทันที
ทันใดนั้นเอง หนึ่งในเซียนผู้คุมกฎที่ร่ายทักษะการต่อสู้ระดับเซียนก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนจะคิดบางอย่างได้ สายตาของเขาเป็นประกาย และเขาก็บินไปที่บัลลังก์ทันที
แสงลาง ๆ สีขาวตัดผ่านมาทันทีที่เขาเข้าใกล้บัลลังก์ เสือขาวที่โชกเลือดจู่ ๆ ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา มันอ้าปากออกและปล่อยบอลพลังงานออกมา
ปัง ! เสียงอื้ออึงดังขึ้น บอลพลังงานระเบิดออกที่หน้าอกของคนนั้น บอลพลังงานทำให้หน้าอกของเขาแหลกเละ ทำให้เขาลอยถอยกลับไปพร้อมกระอักเลือด
หลายคนที่อยู่ในที่นี่เห็นสิ่งที่เซียนผู้คุมกฎคนนี้พยายามจะทำ พวกเขาคิดเล็กน้อย พวกเขาเริ่มกระโจนไปที่บัลลังก์อย่างไม่ลังเลเพื่อพยายามที่จะนั่งบนบัลลังก์
โฮ้ก ! เสือขาวคำรามขึ้นไปบนท้องฟ้าและป้องกันไม่ให้ใครเข้าใกล้บัลลังก์ได้ แม้ว่ามันจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ความยิ่งใหญ่ของมันก็ไม่ได้ลดลงไปเลย พลังแห่งการมีอยู่ของมันดูเหมือนจะทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้อีกด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม มีเซียนผู้คุมกฎมากเกินไปที่พุ่งไปที่บัลลังก์ ยังมีเซียนสวรรค์บางคนในกลุ่มที่ลองด้วยเผื่อโชคดี ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เสือขาวจะป้องกันทุกคนได้ด้วยตัวของมันเอง เซียนผู้คุมกฎ 3 คนผ่านเสือขาวไปได้และไปถึงตรงหน้าบัลลังก์ พวกเขาเบียดกันเข้าไปที่บัลลังก์ในเวลาเดียวกัน
บัลลังก์ลอยอยู่สิบเมตรเหนืออากาศในขณะที่มันเปล่งแสงพลังแสงจันทร์ออกมาอ่อน ๆ มันยิ่งใหญ่กว่าบัลลังก์มังกรที่จักรพรรดิใช้มาก มันใหญ่เหมือนเตียง มันกว้างเพียงพอที่จะให้คนสี่หรือห้าคนเข้าไปนั่งได้พร้อม ๆ กัน
ในขณะที่เซียนผู้คุมกฎ 3 คนนั่งไปที่บัลลังก์พร้อม ๆ กัน พวกเขาก็ลอบยินดี อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะได้ฉลอง ท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที ในเวลาอันสั้น พลังของพวกเขาทั้งหมดก็หายไป และพวกเขาก็ซีดและอ่อนแรงมาก หลังจากนั้นพวกเขาก็ตกลงมาจากบัลลังก์และหล่นลงบนพื้นอย่างแรง พวกเขาอาจจะไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย
หลายคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาทั้งสาม เซียนผู้คุมกฎกำลังจะนั่งลงที่บัลลังก์ก็หยุดทันที ในขณะที่พวกเขาจ้องไปที่คนทั้งสามที่ไม่เคลื่อนไหวอยู่บนพื้นด้วยความประหลาดใจ
“โอ้ ไม่ บัลลังก์นี้มันแปลกจรัง เจ้าจะนั่งบนมันไม่ได้ พลังเซียนทั้งหมดของพวกเขาทั้งสามถูกบัลลังก์ดูดไม่จนไม่เหลือ” เซียนผู้คุมกฎพูดออกมาด้วยความกลัว มันใดนั้นเอง ทุกคนรอบ ๆ บัลลังก์ก็หยุดเคลื่อนไหว พวกเขาหยุดในขณะที่มองไปที่บัลลังก์ด้วยความตกใจและสงสัย ไม่มีใครกล้าที่จะนั่งบนบัลลังก์ในตอนนี้
ในพริบตาเดียว โถงก็ตกอยู่ในความเงียบจากการต่อสู้ที่ดุเดือดก่อนหน้านี้ เสือขาวที่โชกเลือดก็หยุดโจมตีและจ้องเขม็งไปที่บัลลังก์
วัตถุเซียนกลับมาอยู่ในขนาดเท่ากำปั้นและบินมา มันหยุดอยู่เหนือหัวของเสือขาวและวนอยู่ช้าช้า ในตอนนี้ที่โหยวเยว่ได้หายไปจากโถงแล้ว วัตถุเซียนก็เปลี่ยนเป้าหมายในการปกป้องมาเป็นปกป้องเสือขาว
“พวกเจ้าทั้งหมดไปซะ ! ออกไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม ! ” ในตอนนี้ เสียงก็ดังชัดมาจากโถง หลังจากนั้น หญิงในชุดขาวจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนบัลลังก์ที่ว่างเปล่า นางเป็นภาพมายาและจับต้องไม่ได้ แต่ความงามของนางนั้นเทียบได้กับเทพเจ้าทีเดียว
“ทะ จะ ท่านคือนางฟ้าเฮายู่ ! ” ทุกคนเปลี่ยนท่าทางไปเมื่อเห็นหญิงลวงตานี้ ใบหน้าของพวกเขาแสดงความเหลือเชื่อออกมา
หญิงคนนี้ดูเหมือนกับรูปปั้นที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้ในโถงศักดิ์สิทธิ์
นางฟ้าเฮายู่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้วยท่าทางสบาย ๆ ท่าทางของนางเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ไม่ละลายมาหลายพันปี มันทำให้คนอื่นรู้สึกว่านางนั้นเข้าถึงไม่ได้และนางดูเหมือนจะดูถูกทุกคนที่อยู่ในโถง สายตาที่เย็นชาของนางหยุดไปที่เสือขาวแวบหนึ่ง
โหยวเยว่ประหลาดใจทันทีเมื่อนางเห็นหน้าตาของหญิงคนนี้ เพราะว่ามันเหมือนกับรูปปั้นของนางฟ้าเฮายู่เลย
“ทะ ท่านคือนางฟ้าเฮายู่ ? ” โหยวเยว่จ้องไปที่นางฟ้าเฮายู่ด้วยความประหลาดใจในขณะที่นางร้องออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ถูกต้อง ข้าคือนางฟ้าเฮายู่” นางดูธรรมดามาก นางพลิกมือไปที่อากาศอย่างเบา ๆ และมิติก็เริ่มกระเพื่อมอย่างรุนแรง มันเปลี่ยนไปอย่างเร็วและกลายเป็นมิติของมิติกับดักที่ที่เซียนราชาทั้งหมดติดอยู่
นี่เป็นเพียงภาพเท่านั้น ภายในมิติกับดัก มันถูกฉายมาผ่านความสามารถของนางฟ้าเฮายู่
“เจี้ยนเฉิน ! ” โหยวเยว่ร้องออกมาทันทีอย่างไม่รู้ตัวทันทีที่นางเห็นเจี้ยนเฉิน ความกังวลปรากฎที่ใบหน้าของนาง
“ถ้างั้นคนที่เจ้าห่วงมากขนาดนั้นคือเจี้ยนเฉินสินะ ข้าถามได้ไหมว่าเขาเป็นอะไรกับเจ้า ? ” นางฟ้าเฮายู่จ้องอย่างสงบไปที่โหยวเยว่
“เจี้ยนเฉินเป็นคู่หมั้นของข้า นางฟ้าเฮายู่ ข้าขอร้องให้ท่านปล่อยเจี้ยนเฉินไปเถอะ” โหยวเยว่อ้อนวอนในขณะที่นางมองไปที่เจี้ยนเฉิน ในตอนแรกนางต้องการที่จะควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์เพื่อที่จะช่วยเจี้ยนเฉิน แต่ความตั้งใจของนางก็หายไปแล้วในตอนนี้ เมื่อนางพบว่านางฟ้าเฮายู่ยังมีชีวิตอยู่
โหยวเยว่ไม่ได้สนใจโถงศักดิ์สิทธิ์ ความปรารถนาสูงสุดของนางในตอนนี้คือการช่วยเจี้ยนเฉิน
“เจี้ยนเฉินเป็นคู่หมั้นของเจ้าจริง ๆ ” นางฟ้าเฮายู่พึมพำเบา ๆ ในขณะที่ตาของนางเป็นประกาย หลังจากที่คิดเงียบ ๆ สักพัก นางก็พูดกับโหยวเยว่ “โหยวเยว่ ถ้าเจ้าต้องการที่จะช่วยคู่หมั้นของเจ้า มีทางเดียวเท่านั้น นั่นคือการรับข้าเป็นอาจารย์ของเจ้า เจ้าจะยอมรับหรือไม่ ? “
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
จบแล้วหรอ...
ทำไมยังไม่ลงบทใหม่...
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...