เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1082

ตอนที่ 1082: สร้างปัญหา

หลังจากระฆังครั้งที่ 9 ดังขึ้นมา เจี้ยนเฉินก็เข้าใกล้แผ่นดินลอยฟ้าพร้อมกับ เจียงหยาง ซู หยวนเซียว ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหกของตระกูลเจียงหยางยืนอยู่เป็นแถวตรงหน้าพวกเขา และยิ้มต้อนรับเจี้ยนเฉิน

เพื่อที่จะมาต้อนรับเจี้ยนเฉิน ตระกูลเจียงหยางก็ได้แสดงความจริงใจออกมา ไม่เพียงแต่ระฆังแห่งความชัดแจ้งจะดังขึ้นมาถึง 9 ครั้ง แท้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดของตระกูลยังออกมาด้วยตัวเอง มีเพียงเซียนจักรพรรดิเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้รับการต้อนรับแบบนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า อัจฉริยะที่สุดยอดที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลของพวกเราได้กลับมาแล้ว เจียงหยาง เซียงเทียน ข้า เจียงหยาง ชิง หยุน ขอเป็นตัวแทนของคนในตระกูลของพวกเราทั้งหมดเพื่อต้อนรับเจ้า” ชายชราที่ดูร่าเริงแต่เหมือนปราชญ์หัวเราะคิกคักให้เจี้ยนเฉิน เขาดูยินดีมาก

เจียงหยาง ชิง หยุนเป็นสมาชิกที่อาวุโสที่สุดในสาขาชิง เช่นเดียวกับเป็นคนที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลทั้งหมด เขาเป็นเพียงคนเดียวในตระกูลที่เป็นเซียนราชาในขั้นสูงสุด เขาติดอยู่อีกนิดเดียวในการที่จะได้เป็นเซียนจักรพรรดิมาหลายปี

“เจี้ยนเฉิน ให้ข้าแนะนำผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่นให้เจ้า…” เจียงหยาง ซู หยวนเซียวก้าวออกมาข้างหน้าและแนะนำคนที่เหลืออีกทั้งห้าคนให้กับเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินได้รับรู้ถึงตัวตนของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดจากการแนะนำ จากผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดเจ็ดคน มีผู้อาวุโสสูงสุด 2 คนที่มากจากสาขาซู เช่นกันกับสาขาหยวน ในขณะที่สาขาชิงนั้นทรงพลังที่สุด พวกเขามีผู้อาวุโสสูงสุดถึง 3 คน ผู้อาวุโสสูงสุดของสาขาซูเป็น 2 คนที่เจี้ยนเฉินคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เจียงหยาง ซู หยวนเซียว และเจียงหยาง ซู เซียว ผู้อาวุโสสูงสุดอีก 2 คนจากสาขาหยวนชื่อ เจียงหยาง หยวน วูจิ และเจียงหยาง หยวน เจิ้งหัว นอกเหนือไปจากเจียงหยาง ชิง หยุนแล้ว เจี้ยนเฉินก็ได้พบกับผู้อาวุโสสูงสุดที่เหลืออีกทั้งสองคนของสาขาชิงไปแล้วเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ เจียงหยางชิง จูริซึ่งเป็นคนที่มาที่เมืองลอร์เพื่อที่จะมาเอาโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม ในขณะที่คนสุดท้ายคือผู้อาวุโสสูงสุดคนที่ติดอยู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มเมื่อตอนหลายปีก่อน เขาคือ เจียงหยาง ชิง หยุนเฟิง

หลังจากการแนะนำจากเจียงหยาง ซู หยวนเซียวแล้ว เจียงหยาง ชิง จูริจึงพูดออกมา “หยวนเซียว เจ้าควรเรียกเขาว่าเจียงหยาง เซียงเทียนนะ เพราะว่ามันเป็นชื่อที่เหมาะกว่า พวกเรามาทิ้งชื่อเจี้ยนเฉินไปดีกว่า จากวันนี้เป็นต้นไป จะมีเพียงเจียงหยาง เซียงเทียนบนทวีปเท่านั้น ไม่มีเจี้ยนเฉิน” สายตาที่เจียงหยาง ชิง จูริมองไปที่เจี้ยนเฉินนั้นซ่อนความเย็นชาที่มองไม่เห็นอยู่

“ฮ่าฮ่าฮ่า จูริ เจ้าพูดได้ดี ในเมื่อเจียงหยาง เซียงเทียนกลับมาที่ตระกูลแล้ว พวกเราควรเรียกเขาด้วยแซ่ของเขา พวกเรามาทิ้งชื่อเจี้ยนเฉินไปวันนี้กันเถอะ” เจียงหยาง ชิง หยุนเห็นด้วยพร้อมยิ้ม

เจียงหยาง ชิง หยุนเฟิง และผู้อาวุโสสูงสุดอีกทั้งสองคนของสาขาหยวนทั้งหมดก็พยักหน้าตกลงเช่นกัน และเห็นด้วยกับข้าแนะนำนี้มาก เจียงหยาง ซู หยวนเซียวยังคงเงียบอยู่และไม่ได้ออกความเห็นอะไร ในขณะที่เจียงหยาง ซู หยวนเซียวขมวดคิ้วของเขา ใบหน้าของเขาแสดงถึงความมีปัญหาเล็กน้อยในขณะที่เขาหันไปหาเจี้ยนเฉิน “เหลน เจ้าคิดว่ายังไง ? ” มันยากมากที่เจียงหยาง ซู หยวนเซียวจะเรียกถึงเจี้ยนเฉินว่าอย่างนั้น แต่ในครั้งนี้เขาเน้นคำว่าเหลน เขาเหมือนกำลังจะแสดงให้ผู้อาวุโสสูงสุดของอีกทั้งสองสาขาเห็นว่า อัจฉริยะที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนนี้และเป็นคนที่ได้รับการต้อนรับโดยระฆังถึง 9 ครั้งเป็นเหลนของเขาเอง

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินยังคงเหมือนเดิม และเขาก็ตอบกลับโดยไม่ต้องคิด “ไม่ เจี้ยนเฉินเป็นชื่อของข้า ข้าจะไม่เปลี่ยนชื่อของข้า ข้าไม่คัดค้านชื่อเจียงหยาง เซียงเทียน แต่มันเป็นเพียงชื่อที่สองของข้า” เจี้ยนเฉินตอบกลับอย่างมั่นคงและไม่เหลือที่ให้โต้แย้งเลย ชื่อของเขาไม่ใช่อะไรที่จะมาเปลี่ยนได้เพราะว่าพวกนั้นพูดออกมา เพราะว่าชื่อของเขานั้นมาจากความทรงจำของชีวิตเมื่อก่อนของเขา

รอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดหายไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยดูเหมือนจะไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม เจียงหยาง ซู เซียวก็ก้าวออกมา “ชื่อนั้นเป็นเพียงวิธีที่ใช้อ้างถึงคนคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นไม่ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจมากหรอก อีกอย่าง เจี้ยนเฉินเป็นชื่อที่เหลนของข้าใช้มานาน แลมันก็เป็นที่รู้จักดีไปทั้งทวีป มันจะมาเปลี่ยนกันง่าย ๆ ได้อย่างไร ? “

ผู้อาวุโสสูงสุดของอีกสองสาขาไม่ตอบโต้เรื่องที่เจียงหยาง ซู เซียวไกลเกลี่ยต่อ พวกทั้งหมดแสดงความยินยอมด้วยความเงียบ เจี้ยนเฉินเป็นผู้เยาว์ของพวกเขา แต่ความแข็งแกร่งที่เขามีนั้นก็เป็นอะไรที่ตระกูลผู้พิทักษ์ยังไม่กล้าที่จะมองข้าม แม้ถ้าไม่สนใจเรื่องความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ที่น่าตกใจของเขา แค่เรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาปฏิบัติต่อเจี้ยนเฉินอย่างระมัดระวังแล้ว

ยังไม่พูดถึงที่เจี้ยนเฉินได้รับการสนับสนุนจากรุยจินและเฮยยู่อีก จอมยุทธที่สุดยอดสองคนนี้เป็นถึงคู่ต่อกรกับเซียนจักรพรรดิได้

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด เมื่อข้ามาที่ตระกูลตามที่สัญญาแล้ว ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านจะเอาผนึกในหัวของท่านปู่หยุนคงออกได้หรือยัง ? ” เจี้ยนเฉินพูด

“ไม่จำเป็นต้องรีบไป ไม่ต้องรีบเลย เซียงเทียน ในเมื่อเจ้ากลับมาที่ตระกูลแล้ว มันจำเป็นต้องมีงานฉลองต้อนรับ พวกเราจะเอาผนึกออกหลังจากที่พวกเราจัดงานฉลองกันแล้ว” เจียงหยาง ชิง จูริพูด

“ในความเห็นของข้า ข้าคิดว่าพวกเราควรจะเอาผนึกในหัวของท่านปู่ข้าออกไปก่อนที่จะฉลอง มันคงจะใช้เวลาไม่นานขนาดนั้น” เจียงเฉินยืนยัน และให้เรื่องเจียงหยาง ซู หยุนคงมาเป็นอันดับแรก

เจียงหยาง ซู หยวนเซียวและเจียงหยาง ซู เซียวทั้งคู่ยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อพวกเขาได้ยินแบบนั้น ในขณะเดียวกัน ผู้อาวุโสที่เหลืออีกทั้งห้าคนก็นิ่งอึ้งไป พวกเขาค่อนข้างไม่พอใจกับน้ำเสียงที่เหมือนคำสั่งของเจี้ยนเฉินที่พูดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แม้ว่าความสามารถของเจี้ยนเฉินนั้นจะสุดยอด และความแข็งแกร่งของเขานั้นจะมองข้ามไม่ได้ แต่เขาก็ยังเป็นผู้เยาว์อยู่ดี ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล พวกเขาไม่เคยถูผู้เยาว์ออกคำสั่งเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ