ในพริบตาหนึ่งสัปดาห์ก็ผ่านไป ตั้งแต่ที่เจี้ยนเฉินได้แต่งงาน จอมยุทธส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมพิธีแต่งงานได้แยกย้ายกันออกไปและเมืองก็ค่อย ๆ กลับคืนสู่ความสงบ อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ไม่อยากกลับและเลือกที่จะอยู่ต่อ
ในรุ่งเช้า หวงหลวนและโหยวเยว่ช่วยเจี้ยนเฉินแต่งตัวพร้อมกับใบหน้าที่แดงเล็กน้อย ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุขและดีใจ
“เยว่เอ๋อ, หลวนเอ๋อ ข้าจะพาเจ้าไปพบสหายเก่าของข้าสักครู่ เจี้ยนเฉินยิ้ม เขามองหญิงสาวทั้งสองด้วยดวงตาที่อ่อนโยน
โหยวเยว่และหวงหลวนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มในเวลาเดียวกัน พวกนางไม่ได้พูดอะไร ในหัวใจของพวกนาง เจี้ยนเฉินคือทุกอย่าง
ในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งใกล้เมือง ไคยะนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกำลังเพลิดเพลินกับอาหารเช้าที่แสนอร่อย อย่างไรก็ตามนางจะขมวดคิ้วและรู้สึกไม่พอใจเป็นครั้งคราว เห็นได้ชัดว่านางอารมณ์ไม่ดี
อาต้าและน้องชายทั้งสามของเขานั่งอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ ไคยะ อย่างไรก็ตามทั้งสี่ไม่ได้แตะต้องอาหารด้านหน้าของพวกเขาที่รู้จักกันว่าเป็นอาหารเช้าสุดแสนอร่อยภายในเมือง พวกเขาจ้องมองไปที่ไคยะและมองอย่างโง่งมสับสน
พวกเขาทั้งสี่รู้ว่าถ้าพวกเขาอยู่ห่างจากไคยะพวกเขาจะรู้สึกถึงจิตสังหารที่มาจากส่วนลึกในหัวใจของพวกเขา เจตสังหารทำให้พวกเขาแปลก ๆ มากและมันพยายามที่จะออกมายังภายนอก พวกเขาทั้งสี่ต่างก็ไม่เข้าใจสาเหตุของมันว่าทำไมถึงมีอะไรอย่างนี้ด้วย
ไคยะขมวดคิ้วมากยิ่งขึ้น นางรู้สึกถึงภัยคุกคามที่คลุมเครือมาจากชราทั้งสี่มากขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าในเมืองอัคนีห้ามเกิดการต่อสู้และความจริงอีกอย่างที่ว่านางไม่เข้าใจว่านางจะสู้กับพวกเขาได้ไหวหรือไม่หากว่าเกิดการต่อสู้ขึ้นมากันแล้ว
ไคยะเหลือบมองสัตว์ตัวน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่ของนางและไม่ช้านางก็รู้สึกสงบลง นางรู้ว่านางไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับชายทั้งสี่ แต่ด้วยสัตว์อสูรข้าง ๆ นาง ไม่มีเซียนราชาคนไหนในโลกที่จะสามารถทำร้ายนางได้ รวมถึงเซียนราชาขั้นสูงสุด ขณะที่ชายชราทั้งสี่ก็ยังไม่ได้เป็นเซียนจักรพรรดิ
มันเป็นความสุขของข้ามากจริง ๆ ที่ข้าได้เห็นสหายเก่าของข้าโดยบังเอิญ เสียงที่ดังชัดเจนดังออกมาจากภายนอกอาคารทันที เจี้ยนเฉินเดินเข้ามาในโรงแรมและด้านหลังก็ตามมาด้วยโหยวเยว่และหวงหลวน
นอกจากสี่พี่น้องและไคยะแล้วยังมีอีกไม่กี่คนที่อยู่ในโรงแรม ทันทีที่เจี้ยนเฉินก้าวเข้ามาในอาคารทุกคนนอกเหนือจากพวกเขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับโค้งคำนับให้เจี้ยนเฉินอย่างสุภาพ
สี่พี่น้องและไคยะก็มองมาที่เจี้ยนเฉินเช่นกัน ต่างจากคนอื่น ๆ ทั้งห้าไม่ได้คำนับให้เจี้ยนเฉิน เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงวันคืนเก่า ๆ ตั้งแต่ที่เจี้ยนเฉินพบกับพวกเขาที่อาณาจักรทะเล อารมณ์ของพวกเขาผสมปนเปกันทันที
สี่พี่น้องได้รับผลกระทบเป็นพิเศษ เมื่อพวกเขาเจอเจี้ยนเฉินในครั้งแรกที่อาณาเขตทะเล พวกเขาทั้งสี่เกือบที่จะลงมือต่อสู้กับเขา ย้อนกลับไปแม้ว่าเจี้ยนเฉินจะแข็งแกร่งกว่าพวกเขา แต่มันก็ยังมีพลังที่จำกัด อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงของเจี้ยนเฉินนั้นทำให้สี่พี่น้องราวกับอยู่ในความฝัน พวกเขามีพลังพอ ๆ กับเจี้ยนเฉินในอดีต แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นราชันย์มนุษย์ไปแล้ว มันยิ่งกว่าเซียนจักรพรรดิที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตดั้งเดิมเสียอีก
เจี้ยนเฉินยิ้มและโค้งคำนับตอบ หลังจากนั้นก็ไปที่โต๊ะของไคยะและนั่งลง อย่างไรก็ตามดวงตาของเขายังจับจ้องอยู่ที่สัตว์อสูรตัวน้อยที่ไหล่ของนาง พร้อมกับเกิดแสงแปลก ๆ ในดวงตา
เมื่อก่อนข้าเคยไปเยี่ยมชนเผ่าคาเลอร์และพบว่ามันไม่เหลืออีกต่อไป ตอนแรกข้ากลัวว่าข้าจะเกิดภัย แต่มองดูตอนนี้ ไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เจ้าก็ยังได้ประสบโชคดีโดยบังเอิญ เจี้ยนเฉินมองไปที่ไคยะ เขามองดูสัตว์อสูรตัวน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่ของนางเป็นครั้งครางและถอนหายใจด้วยความน่าทึ่ง
เขาจำสัตว์อสูรตัวนี้ได้ มันเป็นสัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสีที่เขาเคยเห็นในอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นสัตว์เทวะตัวจริงที่มีศักยภาพที่ดี ตอนแรกเขาวางแผนที่จะกลับไปยังอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เมื่อเขาแข็งแกร่งพอ แต่ตอนนี้สัตว์อสูรตัวน้อยนี่กลับถูกไคยะเอามาเลี้ยงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...
เลิกอัพแล้วหรา...
good novel...