เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1641

สรุปบท ตอนที่ 1641: ปัญหาที่ซ่อนอยู่: เทพกระบี่มรณะ

ตอน ตอนที่ 1641: ปัญหาที่ซ่อนอยู่ จาก เทพกระบี่มรณะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1641: ปัญหาที่ซ่อนอยู่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี เทพกระบี่มรณะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 1641: ปัญหาที่ซ่อนอยู่

เจี้ยนเฉินตรวจสอบอย่างรอบคอบตามร่างกายของเขาหลายครั้งและไม่พลาดแม้สักที่ ในที่สุดเขาก็ค้นพบสิ่งที่แตกต่างกับวิญญาณของเขา แสงสีแดงจุดหนึ่งปรากฏอยู่ในวิญญาณของเขา

แสงสีแดงเลือดที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก แต่มันได้หลอมรวมกับวิญญาณของเขาอย่างเงียบ ๆ ทำให้เขาไม่อาจลบมันออกได้ คงเป็นเรื่องยากเกินไปที่เขาจะพบมันได้หากเขาไม่สำรวจอย่างถี่ถ้วน

เจี้ยนเฉินไม่รู้สึกว่าถูกคุกคามจากแสงสีแดง มันหลอมรวมเข้ากับวิญญาณของเขาอย่างเงียบๆโดยไม่เป็นที่สนใจเลย มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน

ดูเหมือนว่าเจ้าจะแสบใช้เล่น มีแสงวาบผ่านสายตาเจี้ยนเฉินและใบหน้าของเขาก็หมองหม่น เมื่อเขาคิดถึงช่วงเวลา 18 ปีที่เขาเก็บตัวบ่มเพาะ เขาเข้าใจว่าเขาไม่ได้ขัดเกลาความชั่วร้ายในพลังโลหิต แม้ว่าพลังนั้นจะกลายเป็นพลังบรรพกาล สุดท้ายมันก็ยังคงมีความชั่วร้ายที่เขาไม่ได้ขัดเกลามันให้สมบูรณ์และมันก็เข้ามาในจิตใจของเขา

จุดสีแดงที่เต็มไปด้วยอารมณ์เชิงลบนี้มันไม่อาจมีพลังมากพอที่จะทำให้เม็ดพลังบรรพกาลของข้าแตกร้าวได้ง่าย ๆ มันแค่ส่งผลต่อจิตใจของข้า ดูเหมือนว่ามันจะมีความผิดพลาดบางอย่างในเม็ดพลังบรรพกาลของข้า ท้ายที่สุดเพราะมันทำให้ความแข็งแกร่งของข้ายังอ่อนด้อยเกินไป ถ้าร่างบรรพลกาลของข้าอยู่ขั้นที่ 9 หรือแม้แต่ขั้นที่ 10 เมื่อข้ากลั่นเมฆ ข้าอาจจะไม่เจอปัญหาพวกนี้เลย เจี้ยนเฉินคิด มีร่องรอยของความมุ่งมั่นปรากฏในสายตาของเขา เพียงแค่คิดไหล ก็เกิดเกราะไหมบรรพกาล 2 เส้นในมือของเขา

ข้าต้องจัดการกับปัญหาที่ซ่อนอยู่ในวิญญาณของข้าทันที ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเกิดผลที่คาดไม่ถึงหากจิตสำนึกของข้าได้รับผลในอนาคต แสงสีแดงในวิญญาณของข้ามาจากพลังวิกฤต ดังนั้นพลังของเกราะไหมบรรพกาลอาจจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการที่จะทำลายมัน เจี้ยนเฉินกล่าว เพียงความคิดพลังทั้งสองเส้นก็กลายเป็นแสงสีทองและหายเข้าที่หน้าผากที่เป็นทะเลจิตสำนึกของเขา

เขาไม่ได้กลั่นเกราะไหมบรรพกาลในอดีตซึ่งเป็นเหตุผลที่เจี้ยนเฉินเก็บไว้ในแหวนมิติของเขาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้กลั่นเกราะไหมบรรพกาลในขณะที่ใช้มันเพื่อต่อกรกับวิกฤติของโลก ไม่เพียงแต่เขาสามารถที่จะซ่อนเกราะไหมบรรพกาลไว้ในร่างกายของเขาตอนนี้ เขายังส่งมันเข้าไปในจิตสำนึกของเขาได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าเกราะไหมบรรพกาลจะไม่มีพลังงานเหลืออยู่ แต่ก็ยังมีเศษเล็กเศษน้อยที่หลงเหลืออยู่ คราวนี้เจี้ยนเฉินใช้เศษพลังที่เหลืออยู่โดยไม่มีความลังเลที่จะพยายามทำลายแสงสีแดงที่แทรกซึมวิญญาณของเขา

โชคดีที่เกราะไหมบรรพกาลอยู่ในการควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์และพลังของมันก็ไม่น่ารังเกียจเกินไปนักเมื่อมันสามารถเผชิญกับพลังของวิกฤตของโลก ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะเป็นอันตรายต่อจิตใจของเขาหรือไม่

แต่ไม่นาน จิตใจของเจี้ยนเฉินก็จมดิ่งลงยิ่งขึ้น เขาพบว่าเกราะไหมบรรพกาลไม่อาจลบจุดสีแดงในวิญญาณของเขาได้ มันดูเหมือนกับว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรทั้งนั้น

บ้าเอ้ย แสงสีแดงนี้มาจากพลังวิกฤต แต่ในระหว่างการปรับแต่งของข้ามันก็เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้มันกลายเป็นมีภูมิคุ้มกันต่อเกราะไหมบรรพกาล เกราะไหมบรรพกาลไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อมันอีกต่อไป ใบหน้าของเจี้ยนเฉินห่อเหี่ยวอย่างมาก ความสุขและความยินดีที่ทะลวงขั้น 9 ได้หายไปอย่างสมบูรณ์

เขาไม่อาจจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาสูญเสียตัวตนและเริ่มสังหารหมู่ผู้คนในทวีปเทียนหยวน…

เจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้นอกจากตัวสั่นและเหงื่อเย็น ๆ ก็ไหลออกมาเต็มตัวของเขา คราวนี้เขารู้สึกเย็นยะเยือกตามกระดูกสันหลงทำให้เขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ในเวลาเดียวกันใบหน้าที่คุ้นเคยของซ่างกวนมู่เอ๋อ, ซางกวนเอ๋อเจี้ยน, โหยวเยว่, หวงหลวน, เจียงหยางป้า, ไป๋หยุนเทียน, เจียงหวูจี่, ตู่กูเฟิง, ฉินเซียวและคนอื่น ๆ ก็แว่บเข้ามาในหัวของเขา มันยิ่งทำให้เขาซีดเซียวเพิ่มไปอีก

ไม่เพียงแค่ภรรยาและลูกของเขาในทวีปเทียนหยวนเท่านั้น แต่ยังมีบิดา, มารดาและสหายของเขาอีกหลายคนที่แว่บเข้ามาพร้อมกัน…

เจี้ยนเฉินไม่ได้ออกจากกลุ่มเมฆสีแดง พริบตาเขาก็อยู่ที่นี่ 3 วัน เขาคิดมาหลายครั้งและลองพวกมันทั้งหมดในช่วงเวลาสามวันนี้ แต่เขาก็ยังไม่อาจทำอะไรกับแสงสีแดงในวิญญาณของเขาได้ เพราะมันหลอมรวมกับวิญญาณของเขาแล้ว มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเขา ทำให้มันเป็นเรื่องยากอย่างมากที่เขาจะลบมัน เจี้ยนเฉินทำได้เพียงการปลุกจิตวิญญาณกระบี่ที่หลับใหลตลอด 18 ปีนี้เท่านั้น

นายท่าน ถ้าเราฟื้นตัว เราสามารถลบปัญหาที่ซ่อนอยู่ในวิญญาณของท่านได้ไม่ยาก แต่ตอนนี้เราก็ไม่อาจทำอะไรมันได้เลย จือหยิงกล่าวอย่างท้อแท้

ขอบคุณสำหรับความกังวลของท่าน หลังจากผ่านการบ่มเพาะมาถึง 18 ปี ความแข็งแกร่งของข้าก็เพิ่มมากขึ้น จิตวิญญาณราชันย์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าอีกแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้าอีกต่อไป เว้นแต่ว่าเขาจะทะลวงไปขอบเขตเทพจากการบ่มเพาะของเขา เจี้ยนเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจ แม้ว่าเม็ดพลังบรรพกาลจะทำให้เขาใช้พลังได้เพียงแปดในสิบส่วน แต่มันก็ยังดีกว่าพลังที่เขาใช้ได้อย่างเต็มที่ของร่างบรรพกาลขั้นที่ 8 เสียอีก

ที่สำคัญที่สุดการมาถึงขั้นที่ 9 ไม่ได้หมายความว่าพลังบรรพกาลของเขาที่แข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ร่างบรรพกาลของเขาก็ยอดเยี่ยมขึ้นเช่นกัน เจี้ยนเฉินประเมิณว่าร่างบรรพกาลขั้นที่ 9 นั้นเกินกว่าความสามารถของขั้นแลกเปลี่ยนและไปถึงขอบเขตเทพ ร่างบรรพกาลที่ไปถึงขอบเขตเทพนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างมาก นั้นหมายความว่าอะไรที่ต่ำกว่าขอบเขตเทพที่มาทำร้ายเขา มันจะไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้

แม้ว่าพลังของจิตวิญญาณราชันย์จะไปถึงขอบเขตเทพและสามารถทำร้ายเขาได้ แต่มันก็ทำให้เขาเกิดรอยขีดข่วนเท่านั้น

ทุกคนเริ่มสงบลงเมื่อได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน พวกเขายิ้มอย่างสบายใจ

เจี้ยนเฉินมองไปที่ซ่างกวนมู่เอ๋อและก้าวออกมาก่อนจะถึงตัวนาง ขณะที่มองไปที่ใบหน้าที่งดงามของนาง เจี้ยนเฉินก็กล่าวโทษตัวเอง ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เอ๋อเจี้ยนสบายดีหรือไม่ ?

ซ่างกวนมู่เอ๋อมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่สั่นไหว นางพูดอย่างใจเย็น เอ๋อเจี้ยนเก่งมาก เขาคิดถึงแต่ท่าน ท่านจะไปพบเขาหรือไม่ ? ด้วยเหตุนี้ซ่างกวนมู่เอ๋อก็หันหลังกลับไปและกลับไปยังเกาะสามเซียน

เทพเจ้าแห่งท้องทะเล, หยางลี่, เฟิงเซียวเทียนและกุยไฮ่ยี่เต๋าทั้งหมดมองไปที่เจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยิ้ม แม้ว่าตัวตนแท้จริงของซางกวนเอ๋อเจี้ยนจะยังไม่เปิดเผยต่อผู้คน แต่พวกเขาก็พบความจริงต่อร่องรอยบางอย่างแล้ว เทพเจ้าแห่งท้องทะเลเป็นคนแรกที่พบ

เสี่ยวหลิงมาถึงข้างเจี้ยนเฉินและถามอย่างสนใจว่า พี่ใหญ่ เอ๋อเจี้ยนเป็นใคร ? ใช่นายน้อยแห่งเกาะสามเซียนหรือไม่ ? เขามีลูกท้อเมฆม่วงจำนวนมาก ท่านให้เขาไว้ทั้งหมดหรือเปล่า ท่านเป็นพี่ชายที่ไม่ยุติธรรมมาก ๆ พี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ