เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1833

ตอนที่ 1833 : ซวนรั่วรั่ว

รั่วรั่วได้เดินเข้าไปที่โรงเตี้ยม นางเดินเข้าไปอย่างมั่นคงโดยมีผู้คุ้มกันเดินตามหลังมาติด ๆ

มันมีทหารสวมเกราะจากกองทัพ 2 คนยืนเฝ้าทางเข้าโรงเตี้ยมเอาไว้ พวกเขายืนนิ่งอย่างกับรูปปั้น พวกเขาเผยให้เห็นแค่ดวงตาที่แสดงความเย็นชาและไร้ปราณีออกมาตอนที่มองไปรอบ ๆ ชัดแล้วว่าพวกเขาคอยกันไม่ให้ใครเข้าไปด้านใน

ยามของหัวหน้ายามได้ไปยืนหลบข้าง ๆ ไปนานแล้ว

รั่วรั่วเดินไปจนถึงทางเข้ากับคนของนาง แม้ว่าจะมีทหารสองคนที่ทางเข้า แต่การเดินของนางก็ไม่มีวี่แววความลังเลเลยแม้แต่น้อย นางยังคงสบายใจอย่างมาก

ตอนที่รั่วรั่วกำลังจะเข้าไปในโรงเตี้ยม ทหารสองคนก็ไม่ได้หยุดนางไว้ พวกเขากลับโค้งให้และบอกกับรั่วรั่วว่า “คำนับคุณหนู ! ”

ชัดแล้วว่ารั่วรั่วเองก็ตอบกลับอย่างสุภาพเมื่อได้ยินคำทักทายของยามทั้งสอง นางไม่เห็นว่ามันแปลกเลยแม้แต่น้อย นางพยักหน้าให้กับทหารทั้งสองคนและไม่ได้หยุดเดินเลยแม้แต่น้อย นางได้เข้าไปในโรงเตี้ยมทันที

ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินที่อยู่ชั้นบนของโรงเตี้ยมก็ยังยืนอยู่ข้างหน้าต่างมองออกไปภายนอก เขาเหมือนกับครุ่นคิดบางอย่างอยู่

ด้านหลังเขามีผู้บัญชาการเผิงกับหัวหน้ากอง 2 คนที่เพิ่งจะเข้าในห้อง ตอนที่ผู้บัญชาการเห็นแผ่นหลังของเจี้ยนเฉิน เขาก็ป้องมือให้กับเจี้ยนเฉินและพูดออกมาว่า “ผู้บัญชาการเผิง หน่วยเจ็ดของกองทัพศักดิ์สิทธิ์ขอคำนับหัวหน้าตระกูลเทียนหยวน ! ”

“หัวหน้ากองลู่ หน่วยเจ็ดของกองทัพศักดิ์สิทธิ์ขอคำนับหัวหน้าตระกูลเทียนหยวน ! ”

“หัวหน้ากองชู หน่วยเจ็ดของกองทัพศักดิ์สิทธิ์ขอคำนับหัวหน้าตระกูลเทียนหยวน ! ”

ในเวลาเดียวกันหัวหน้ากองทั้งสองคนด้านหลังผู้บัญชาการเผิงก็ได้ป้องมือให้กับเจี้ยนเฉิน พวกเขาต่างก็มอง เจี้ยนเฉินด้วยความเคารพ

นี่คือการเคารพต่อความแข็งแกร่งที่มี !

ทั้งสามคนเป็นแค่ขั้นเทพ ในสายตาพวกเขาแล้วขั้นเหนือเทพนั้นคือตัวตนที่สูงส่ง

ยิ่งกว่านั้นขั้นเหนือเทพที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ไม่เหมือนขั้นเหนือเทพคนอื่นทั่วไป เขามีพลังที่ร้ายกาจ เขาคือหัวหน้าตระกูลที่เอาชนะขั้นเหนือเทพของตระกูลวายเนอร์ได้ เขาคือคนที่เข้าใจกฎแห่งกระบี่ เขาคือเจี้ยนเฉิน !

เจี้ยนเฉินหันกลับมาหาทั้งสามคนและถามขึ้น “ซวนเตาส่งพวกเจ้ามาที่นี่หรือ ? เขามั่นใจหรือว่าข้าคือหัวหน้าตระกูลเทียนหยวน ? หากเจ้าจำคนผิดไปล่ะ ? ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่รึไง ? ”

“มันคือแม่ทัพซวนเตาที่ส่งเรามาที่นี่ ก่อนที่เราจะมาที่นี่ แม่ทัพได้แสดงภาพวาดของท่านให้เราได้ดูซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงจำท่านได้” เผิงเฟยพูดขึ้นมา

เจี้ยนเฉินพยักหน้า ตอนที่เขากำลังจะพูดบางอย่างนั้น ประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง หัวหน้ายามได้เข้ามาในห้อง ชัดแล้วว่าเขาไม่ได้รู้สึกถึงบรรยากาศที่พิเศษภายในห้อง เขาไม่ได้ยินสิ่งที่พวกนี้พูดไปก่อนหน้านี้ ทันทีที่เขาเห็นเจี้ยนเฉิน สายตาเขาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา เขาชี้ไปที่เจี้ยนเฉินแล้วพูดขึ้นมาว่า “ผู้บัญชาการเผิง เป็นเขานี่แหละ เขาเป็นคนก่อเหตุในเมืองหลวง ไม่ใช่แค่มองข้ามกฎไปแต่ยังอุกอาจด้วย ถ้าท่านปล่อยเขาไป ใครจะไปรู้ว่าเขาจะทำเรื่องอุกอาจอีกสักเท่าไหร่ โปรดจับตัวเขา ผู้บัญชาการเผิง”

เจี้ยนเฉินยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น เขามองไปที่หัวหน้ายามและผู้บัญชาการเผิงด้วยความสนใจโดยไม่พูดอะไรออกมา

แต่ตอนที่ผู้บัญชาการเผิงได้ยินแบบนั้น สายตาเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หากเห็นใบหน้าเขาได้ในตอนนี้ มันคงชัดแล้วว่าสีหน้าของเขาหม่นลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ