ตอนที่ 1890: โอกาสรอดของเฉินหลง
“เจ้าหมดสติไปร้อยปี ในเวลานั้นมีสิ่งต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้น เราไม่ได้อยู่ในทวีปเทียนหยวนอีกต่อไป เรามาอยู่ในโลกที่สูงกว่าแทน สถานที่แห่งนี้เรียกว่าโลกแห่งเซียน” เจี้ยนเฉินกล่าว เขาอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากที่ไคยะหมดสติไปโดยไม่มีรายละเอียดตกหล่นแม้แต่น้อย
สิ่งนี้รวมถึงการยุติการต่อสู้ระหว่างทวีปเทียนหยวนและโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งรวมถึงวิฤติจิตมาร เขายังบอกไคยะว่าเขาเป็นผู้ก่อตั้งตระกูลเทียนหยวนในโลกเซียน
ไม่เพียงแต่ไคยะที่มาจากบ้านเกิดเดียวกับเขา แต่นางยังเป็นสหายที่ดีกับเขาเช่นกัน เป็นผลทำให้เขาไม่ปิดบังอะไรจากไคยะเลย
ไคยะเงียบไปหลังจากรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นขณะที่นางหมดสติ
สำหรับนางมันเป็นราวกับความฝัน นางไม่รู้ว่ามันผ่านไปแค่ไหน และเมื่อตอนที่นางตื่น โลกรอบ ๆ นางก็ผ่านไปเป็นร้อยปี เห็นได้ชัดว่านางต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและยอมรับความจริงนี้
“ข้าไม่คิดเลยว่าข้าจะมาอยู่อีกโลกหนึ่งหลังจากที่ข้าตื่น” ไคยะพึมพำ นางดูเศร้าและเสียใจเล็กน้อยขณะพูด
นางอดคิดถึงชีวิตที่อาณาจักรทะเลไม่ได้ นางอดคิดถึงตระกูลที่ล่มสลายของนางและพ่อของนางที่ตายไป
นางรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะกลับไปตอนนี้หลังจากที่นางมาถึงโลกเซียน แม้ว่านางจะกลับไปได้ แต่นางก็ไม่รู้ว่านางต้องรอนานแค่ไหน
สัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสีได้บินมายังไหล่ของไคยะ เพราะรู้สึกถึงความเศร้าของนาง มันใช้หัวของมันถูไถเข้ากับแก้มของไคยะเบา ๆ ราวกับพยายามจะปลอบไคยะในแบบของมันเอง
“เจี้ยนเฉิน ขอบคุณที่ช่วยข้า ข้าต้องการเวลาสักพัก” ไคยะพูดกับเจี้ยนเฉิน น้ำเสียงของนางอ่อนโยนและมีความเศร้าปนอยู่เล็กน้อย
เจี้ยนเฉินพยักหน้า เขาไม่รบกวนไคยะอีกต่อไปโดยออกจากห้องลับทันที
ในเวลาเดียวกันจักรวรรดิจันทราสวรรค์ที่ห่างไกล มีชายชราเสื้อขาวอยู่ในห้องที่ดีที่สุดภายในโรงเตี้ยมแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของจักรวรรดิ เขาถือและกำลังศึกษาป้ายอาคมขนาดเท่าฝ่ามือ
“เจี้ยนเฉินมีพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจมีน้อยคนนักที่จะสามารถเทียบชั้นได้กับความก้าวหน้าของเขา ในตอนนี้เขาน่าจะไปถึงขั้นราชาเทพเร็วกว่าข้า จักรวรรดิจันทราสวรรค์ไม่เล็ก แต่มันก็อยู่ใกล้จากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน ดูเหมือนว่าข้าจะต้องเดินทางไกลออกไปหรอแม้แต่ต้องออกจากที่ราบเมฆา” ชายชรามพึมพำกับตัวเองขณะที่เขานั่งอยู่บนเตียงของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเล็กน้อย
ชายชราคนนี้คือปรมาจารย์เฉินหลง
ด้วยความสามารถของปรมาจารย์เฉินหลง แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะมีพลังมากกว่าเขา แต่เขาก็ไม่กลัวเจี้ยนเฉินมากนัก อย่างมากเขาก็หาองค์กรเพื่อเข้าร่วมและใช้ทรัพยากรเหล่านั้นในการกำจัดเจี้ยนเฉิน มันไม่มีอะไรยากสำหรับเขา
อย่างไรก็ตามหลายปีที่ผ่านมา วิญญาณในกับดักก็พูดกับเขาอย่างต่อเรื่องว่ามันสามารถมองเห็นอนาคตและมันได้เห็นช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินฆ่าเขา
ถ้ามันเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่วิญญาณในกับดัก ปรมาจารย์เฉินหลงคงไม่เชื่อ เขาจะหัวเราะเยาะแทน
อย่างไรก็ตามตลอดเวลาหลายปี เขาค่อย ๆ พบว่าวิญญาณในกับดักดูเหมือนจะมองเห็นอนาคตได้ เขามีประสบการณ์เหล่านั้นทุกอย่างเมื่อมันพูดถึงในอดีตที่ผ่านมา ผลกระทบเหล่านี้ทำให้ปรมาจารย์เฉินหลงเชื่อว่าเขาจะต้องถูกจัดการอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะเข้าร่วมกับองค์กรที่ทรงพลัง แต่เขาก็ยังต้องตายด้วยน้ำมือของเจี้ยนเฉิน
เป็นเหตุผลที่ทำให้ปรมาจารย์เฉินหลงได้เพียงคาดหวังที่จะออกห่างจากเจี้ยนเฉินในตอนนี้ เขาต้องการหลีกเลี่ยงหายนะในครั้งนี้
นี่เป็นเพราะทุกสิ่งที่วิญญาณในกับดักกล่าวได้ส่งผลกับเขาเป็นอย่างมาก
“อย่างไรก็ตามในขณะที่ที่ลัทธิปีศาจชั้นฟ้ากำลังคุกคามอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน ข้าหวังว่าเจี้ยนเฉินจะตายด้วยน้ำมือพวกเขา” ปรมาจารย์เฉินหลงพูด
“เฒ่าหลงเลิกฝันได้แล้ว ข้าสามารถเห็นกรรมที่เกี่ยวข้องกับเจี้ยนเฉินนับไม่ถ้วนที่มีกับลัทธิปีศาจชั้นฟ้า มันซับซ้อนจนเกินความคาดหมายของทุกคน ลัทธิปีศาจชั้นฟ้าเป็นทั้งพรและคำสาปสำหรับเจี้ยนเฉิน ฝันไปเถิดหากว่าเจ้าต้องการให้เจี้ยนเฉินตายด้วยน้ำมือของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ข้าสามารถเห็นอนาคตของเจ้าแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะพยายามอย่างหนักมากแค่ไหน เจ้าก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความตายได้” วิญญาณที่อยู่ในกับดักกล่าว เสียงของมันลอยออกจากมาจากแหวนมิติ มันยังคงติดอยู่ในป้ายอาคม
“หึม ? ”
ซีหยูลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะมอบให้กับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินรับจี้หยกไว้ในเมือของเขา ใบหน้าของเขาก็ค่อยๆจริงจังขึ้น
ซีหยูพูดเสียงเบาว่า “พ่อบุญธรรมของข้าบอกว่า ขณะที่เขาพบข้าด้านนอก จี้หยกนี้เป็นสิ่งเดียวที่มากับข้า บางทีพ่อแม่ของข้าอาจจะจากไป เจ้าคิดว่าพวกเขาจะใจร้ายพอที่จะทิ้งลูกสาวของตัวเองหรือไม่ ? ”
“หยกนี้ไม่ธรรมดา แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันใช้วิธีไหนในการทำจี้ แต่ข้าสามารถบอกได้ทันทีว่ามันมีค่ามาก” เจี้ยนเฉินส่งจี้คืนให้กับซีหยู เขาจ้องมองนางด้วยความรู้สึกที่หลาดหลายและพูดว่า”พ่อแม่ของเจ้าต้องเจบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันถึงต้องละทิ้งเจ้า บางทีพวกเขาอาจจะถูกตามล่าจากศัตรู ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือก”
เจี้ยนเฉินถอนหายใจเบา ๆ หลังจากที่พูดมาถึงตรงนี้ เขาพูดว่า “อดีตข้าก็เป็นเหมือนกับเจ้า ข้าก็เป็นเด็กทารกเช่นกัน ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อแม่ของข้าและจนกระทั่งข้าตายก็ยังไม่พบพ่อแม่ของข้า…” เจี้ยนเฉินอดคิดถึงอดีตในชีวิตที่แล้วไม่ได้
ในชีวิตนั้นเขาอยู่เพียงโดดเดี่ยว เขาใช้กฏกระบี่ม่วงฟ้าที่ไม่สมบูรณ์เพื่อฝึกฝนท่วงท่ากระบี่ของเขา มันก็เพียงพอที่จะครอบครองเจียงหู่ เพียงเขาอายุ 20 เขาก็กลายเป็นมือกระบี่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเจียงหู่
โชดดีที่โลกไม่ได้ทิ้งเขา ในชีวิตที่สองของเขาซึ่งเป็นชีวิตตอนนี้ของเขา เขามีครอบครัวที่ทำให้เขาได้สัมผัสกับความอบอุ่นสายหนึ่ง
ซีหยูจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความงุนงง นางไม่คิดเลยว่าเจี้ยนเฉินจะสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่น่าสงสารเช่นนี้ จริง ๆ แล้วนางรู้สึกเห็นใจในช่วงเวลานั้น
เจี้ยนเฉินไล่ความรู้สึกของเขา เขาหยิบดอกพลังงานดั้งเดิมที่เขาได้รับมาจากราชาศักดิ์สิทธิ์และพูด “ดอกไม้นี้สามารถรวบรวมพลังงานของโลก ซีหยู อาจจะมีการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ในไม่ช้า ใช้ดอกไม้นี้เพื่อฝึกฝนเพื่อกลายเป็นขั้นเหนือเทพให้เร็วที่สุด”
“ด้วยความรู้และความเข้าใจของเจ้าในกฏของกระบี่ที่ข้าได้จารึกไว้ การกลายเป็นขั้นเหนือเทพก็ควรไม่ยากเกินไปนัก”
ซีหยูเป็นขั้นเทพช่วงปลายแล้วตอนนี้
นับตั้งแต่เจี้ยนเฉินจารึกความเข้าใจในกฏของกระบี่ ความแข็งแกร่งของซีหยูก็เพิ่มสูงขึ้น นางอธิบายได้ว่านางก้าวหน้าได้อย่างมากในทุก ๆ วัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
จบแล้วหรอ...
ทำไมยังไม่ลงบทใหม่...
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...