เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1895

ตอนที่ 1895: ผู้พิทักษ์โถงลัทธิ

“เจี้ยนเฉิน โปรดฟังที่ข้าเตือนไว้ให้ดี หย่าซีเหลี่ยนชอบอัจฉริยะที่มีความสามารถ หากหย่าซีเหลียนรู้จักเจ้า นางจะต้องสนใจเจ้าเป็นพิเศษ เจ้าต้องระวัง” ราชาศักดิ์สิทธิ์เตือนเจี้ยนเฉินอย่างจริงจัง

“ขอบพระทัยสำหรับคำเตือนของฝ่าบาท ข้าจะระวัง” เจี้ยนเฉินป้องหมัดตอบอย่างจริงจัง

เขาไม่เชื่อว่าราชาศักดิ์สิทธิ์จะพูดโกหก มันจะเป็นปัญหาใหญ่แน่ ๆ ถ้าเขาต้องตาผู้บัญชาการกองทัพที่เจ็ด

นี่เป็นเพราะอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนมีราชาเทพเพียง 2 คนเท่านั้น ในขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพทั้งสามจากลัทธิปีศาจชั้นฟ้าล้วนแต่เป็นราชาเทพช่วงปลาย นอกเหนือจากราชาศักดิ์สิทธิ์ที่เจี้ยนเฉินสัมผัสได้ถึงตัวตนของผู้พิษักษ์จักรวรรดิสูงสุด

แม้ว่าผู้พิทักษ์จักรวรรดิสูงสุดจะเป็นราชาเทพ เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้กับผู้บัญชาการคนใดคนหนึ่งในสามคนนั้น

ราชาศักดิ์สิทธิ์พูดต่อ “กองทัพลัทธิปีศาจชั้นฟ้าแต่ละกองทัพมีคนเป็นแสนคน อย่างไรก็ตามกองทัพของพวกเขาคนใดคนหนึ่งก็มีพลังเพียงพอที่จะทำลายกองทัพใหญ่ล้านคนของเราไดอย่างง่ายดาย”

เพียงแค่หนึ่งแสนคนสามารถกวาดล้างกองทัพนับล้านได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมาก

ขั้นเหนือเทพหลายคนเคร่งเครียดเป็นอย่างมากเมื่อพวกเขาได้ยิน แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจถึงความแข็งแกร่งของกองทัพทั้งเก้า พวกเขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เมื่อได้ยินมัน

“ฝ่าบาท เราไม่อาจหยุดกองทัพจากลัทธิปีศาจนั้นได้เลยหรือเมื่อพวกมันบุกมา” ขั้นเหนือเทพพูดอย่างเจ็บปวด

มีไม่กี่คนที่พร้อมจะล่าถอย พวกเขาพาตระกูลเคลื่อนไหวกันอย่างลับ ๆ และละทิ้งธุรกิจทั้งหมดของพวกเขาก่อนที่จะออกจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียน

ราชาศักดิ์สิทธิ์พูดอย่างสงบ “จริง ๆ แล้วมันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากสำหรับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนของเราเมื่อกองทัพทั้งสามบุกเข้ามา แต่นั่นคือสิ่งที่มันจะเป็น มันจะไม่เป็นการต่อสู้ที่รุนแรง ลัทธิปีศาจชั้นฟ้าจะไม่สามารถจัดการอาณาจักรศักดื์สิทธิ์ปิงเทียนได้ เพราะจักรวรรดิโบราณเหล่านั้นได้ส่งกำลังเสริมมาแล้ว พวกเขากำลังเดินทางมา แม้แต่ผู้ปกครองภูมิภาคจักรวรรดิตะวันโลหิตก็ยังให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่นี่ตลอดเวลา ลัทธิปีศาจชั้นฟ้าได้ล้ำเส้นของพวกเขาไปแล้วจากการโจมตีอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สามหม้อยา พวกเขาจะไม่ปล่อยให้ลัทธิปีศาจชั้นฟ้าเดินหน้าต่อไปอย่างไม่เกรงกลัว”

“ห๊ะ! จักรวรรดิได้ส่งกำลังเสริมมาแล้วหรือ ? ”

“จักรวรรดิตะวันโลหิตก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้งั้นหรือ ? ฝ่าบาท เป็นเรื่องจริงงั้นรึ ? จักรวรรดิตะวันโลหิตจะส่งกำลังเสริมมาช่วยพวกเรา?”

“ข้าไม่คิดเลยว่าจักรวรรดิตะวันโลหิตจะสนใจเรื่องนี้อย่างมาก หากจักรวรรดิตะวันโลหิตก้าวเข้ามา การคุกคามของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าจะถูกกวาดล้างทันที”

“ถ้าจักรวรรดิตะวันโลหิตส่งกำลังเสริมมา เราสามารถโจมตีสำนักงานใหญ่ของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าและกำจัดพวกมันได้”

…

ขั้นเหนือเทพหลายคนมีความสุข สิ่งที่ราชาศักดิ์สิทธิ์เพิ่งพูดไปนั้นเป็นดั่งคำอวยพรอย่างมาก มันช่วยให้พวกเขาเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อันมืดมิด

จักรวรรดิตะวันโลหิตได้กระตุ้นพวกเขาอย่างมาก พวกเขาเป็นผู้ปกครองภูมิภาคทางใต้ของที่ราบเมฆา พวกเขาอยู่ในระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของจักรวรรดิโบราณ

ต่อหน้าจักรวรรดิตะวันโลหิต แม้แต่จักรวรรดิโบราณอย่างจักรวรรดิจันทราสวรรค์ก็ยังต้องยอมแพ้

จักรวรรดิจันทราสวรรค์เป็นเพียงอาณาจักรโบราณ มีคน 6 คนในภูมิภาคใต้ ในขณะที่จักรวรรดิตะวันโ

ลหิตเป็นที่รู้จักในฐานะจักรวรรดินิรันดร์เพียงแห่งเดียวของภูมิภาคทางใต้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาความแข็งแกร่งของปิงเหลาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นเหนือเทพช่วงกลาง

คราวนี้ราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ตกใจและเงียบอยู่นาน เขาถอนหายใจหลังจากนั้นสักครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “อาจเป็นไปได้ว่าผู้เชี่ยวชาญจากจักรวรรดิจะไม่ตอบคำถามนี้ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเพียงพอแล้วหากเจ้าเข้าใจว่าลัทธิปีศาจชั้นฟ้าจะไม่สามารถเข้ามาในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนของเราได้ สิ่งที่ข้าต้องการคือพลังของพวกเจ้าทั้งหมดเมื่อสงครามเริ่มขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่ได้ดูหยาบช้าจากมุมมองของคนในจักรวรรดิ”

“ข้าพูดสิ่งที่ข้าต้องพูดแล้ว ทุกคนเตรียมพร้อมเพื่อต่อสู้” ราชาศักดิ์สิทธิ์โบกมือขณะจบการประชุม

หลังจากแยกย้ายกันแล้วทุกคนก็นึกถึงผู้พิทักษ์โถงลัทธิปีศาจชั้นฟ้าที่ถูกพูดในที่ประชุม รวมถึงสีหน้าของเจี้ยนเฉินที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา

จากวิธีการที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ตอบสนองกับคำพูดของเขา เขาไม่มีความรู้ที่ชัดเจนกับผู้พิทักษ์โถง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่คิดนานขนาดนี้

“ดูเหมือนว่าควรจะมีผู้พิทักษ์อยู่สองสามคนในโถง” ขั้นเหนือเทพหลาย ๆ คนสรุปเช่นนี้ พวกเขาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

“พวกเขาสร้างโถงผู้พิทักษ์ ลัทธิปีศาจชั้นฟ้ามีขั้นเหนือเทพกี่คนกัน ? ” เจี้ยนเฉินสงสัยขณะที่เขารู้สึกประหลาดใจ

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีใครพูดถึงขั้นเหนือเทพทั้งสามที่เจี้ยนเฉินสังหาร แม้แต่หยางไคที่ไม่พอใจก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

นี่เป็นเพราะพวกเขาทุกคนเข้าใจว่าการบุกรุกของทั้งสามกองทัพนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับขั้นเหนือเทพทั้งสาม ขั้นเหนือเทพทั้งสามไม่คุ้นค่าที่จะทำให้กับลัทธิปีศาจชั้นฟ้าทำสงครามและก็ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเขาระดมกำลังกองทัพทั้งสามโดยตรง พวกเขาได้รับข่าวว่าในการโจมตีของลัทธิปีศาจชั้นฟ้านั้นไม่เพียงแต่ระดมกำลังกองทัพที่ 7, 8 และ 9 พวกเขายังระดมกำลังกองทัพอีก 6 กองทัพที่เหลือเช่นกัน

9 กองทัพแบ่งออกเป็น 3 กอง โจมตีภูมิภาคทางเหนือ, ทางใต้และทางตะวันตก