เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1999

ตอนที่ 1999: กระบี่กระดูกเล่มที่ 9

ในช่วงเวลาสำคัญ เจตจำนงกระบี่ที่รุนแรงก็ปรากฏขึ้นมาทันที มันแทรกซึมไปทั่วทั้งผืนดิน ทำให้สีหน้าของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก

กระบี่ขนาดสองนิ้วปรากฏขึ้นเหนือหัวเจี้ยนเฉินและเปล่งประกายเสียจนไม่อาจมองมันได้

ปรากกระบี่มีขนาดเล็ก แต่พลังที่มันแผ่ออกมาทำให้หลายคนตกตะลึง มันทำให้ขั้นเหนือเทพเต็มไปด้วยความกลัวและแม้แต่สีหน้าของราชาเทพก็เปลี่ยนไป

“เด็กใช้กระบี่นั่นกำลังจะตาย มันเหมือนกับที่ข้าได้พูดไป ไม่เพียงแค่นั้นหมาป่ากระบี่ยังเป็นราชาเทพและมีสายเลือดของหมาป่านภาโบราณ เด็กคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน หงโม่ เจ้าต้องเสียเดิมพันแล้วในคราวนี้ ชายชราผิวขาวยิ้มอยู่ด้านบนของยานอวกาศ

“แม้ว่าเด็กที่ใช้กระบี่นั้นกำลังจะแพ้ต่อหมาป่ากระบี่ แต่มันก็น่าประทับใจนัก สำหรับเขาที่บังคับให้หมาป่ากระบี่ใช้พลังทั้งหมดของราชาเทพกับขั้นเหนือเทพ หากหมาป่ากระบี่ไม่ได้มีสายเลือดหมาป่านภาโบราณที่สามารถใช้พลังแห่งสายเลือดได้ เขาจะไม่อาจเอาชนะชายหนุ่มคนนั้นได้” มู่เหอพูดอย่างเห็นใจ มีความสงสารเต็มใบหน้าของเขา

“มู่เหอ ทำไมเจ้าถึงต้องสงสาร ? มันต้องมีความสุขสิ ? โลกเซียนมีขนาดใหญ่มาและมีอัจฉริยะมากมายอยู่ที่นั่น แต่มีกี่คนกันที่สามารถไปถึงจุดสูงสุดได้อย่างแท้จริง พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ใช่ว่าตายก่อนวัยหรอกหรือ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาใครจะรู้ว่ามีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากมายตายต่อหน้าข้า ข้ารู้สึกเฉย ๆ ไปแล้ว” ชายชราผิวขาวพูดอย่างสงบขณะมองไปที่หงโม่และมีความตื่นเต้นอยู่ในแววตาของเขา เขากล่าวว่า “เจ้าแพ้เดิมพันแล้ว หงโม่ สิ่งที่เจ้าสัญญาณกับเราห่อนหน้านี้ที่จะให้ยารักษาขั้นเทพ 2 เม็ดแก่เราใช่หรือไม่ ? ”

ชายชราเสื้อคลุมขาวหยุดชะงักพักหนึ่งก่อนที่จะมีความประหลาดใจบนใบหน้าของเขา เขาอดที่จะตะโกนออกมาไม่ได้ว่า “ปราณกระบี่นี้คืออะไร ? มันมีพลังมากจริง ๆ ! ปราณกระบี่นี้จะปรากฏด้วยพลังของขั้นเหนือเทพงั้นหรือ ? ”

ในเวลานั้นหงโม่ที่เฉยเมยมีรอยยิ้มน้อย ๆ เขาพูดพึมพำกับตัวเองว่า “ข้ารู้อยู่แล้ว การที่รองหัวหน้าลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ห้วยอัน ตามล่าเขาด้วยตัวเอง มันต้องไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ อย่างที่คิด ชัยชนะยังเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน”

ในเวลานั้นปราณกระบี่เล่มที่สองปรากฏขึ้นเหนือหัวเจี้ยนเฉินและพวกมันทั้งสองก็พุ่งออกไปราวกับสายฟ้าสองเส้น ระยะทางที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญต่อหน้ามัน มันปะทะกันกับลำแสงสีแดงเส้นเดียว

ตูม !

ปราณกระบี่สองเส้นแยกออกจากกันและหายไปทันที แสงสีแดงจากกระบี่กระดูกอันที่ 9 ของราชาหมาป่านั้นทรงพลังกว่าปราณกระบี่ทั้งสองเล่มของเจี้ยนเฉินอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่ามันจะกระเด็นหายไป แต่มันก็ยังมีพลังเหลืออยู่หนึ่งในสามและมุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วเท่าเดิม

เจี้ยนเฉินฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของเขาแล้วหลังจากที่ปราณกระบี่ของเขาปะทะกับลำแสงสีแดง อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันพลังวิญญาณของเขาทั้งหมดได้หายไปเพราะใช้ปราณกระบี่ทั้งสองเส้ม เขาโซเซอย่างหนักและเกือบจะทรุดลงกองกับพื้น

เขาไม่อาจหลบหนีการโจมตีที่เหลือได้ เขาแทงไปที่หัวราชาหมาป่าอย่างรวดเร็วเท่าที่เขาจะทำได้ด้วยกระบี่สายรุ้ง

ฉึก !

กระบี่ได้แทงไปที่หัวของราชาหมาป่าและทำลายวิญญาณของเขา เนื่องจากมันใช้แรงออกไปเต็มที่ กระบี่จึงทะลุหัวของราชาหมาป่าและแทงปักไปยังพื้นของสังเวียนและตรึงหัวของราชาหมาป่าไว้กับพื้น

แคร่ก !

รอยร้าวบนตัวกระบี่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและครอบคลุมอาวุธทั้งหมด ไม่นานมันก็แตกสลายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยอยู่ตรงนั้น

กระบี่สายรุ้งนั้นมีความเสียหายมากมาย หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้สิ้นสุดลง มันก็ถึงเวลาที่ปลดระวาง

ในเวลาเดียวกันพลังของสายเลือดก็โจมตีเจี้ยนเฉิน เขากระอักเลือดและกระเด็นออกไปจนกระแทกกับม่านพลังของสังเวียน

ม่านพลังที่แยกเจี้ยนเฉินกับไคยะและเฉินหลงก็หายไปพร้อมกับการตายของราชาหมาป่า

ทันทีที่ม่านพลังหายไป ไคยะก็รีบไปหาเจี้ยนเฉินทันที นางหยิบยารักษาที่ดีที่สุดของนางออกมาแล้วนำมาให้เจี้ยนเฉินด้วยสีหน้ากังวล

เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังของสายเลือดในกระดูกยังไม่ถูกใช้จนหมดในการโจมตีก่อนหน้านี้ มันยังเหลืออยู่ส่วนหนึ่ง

หลังจากลังเลเล็กน้อย เจี้ยนเฉินวางเท้าบนศพของราชาหมาป่าและจับกระบี่กระดูกอันที่ 9 ด้วยมือข้างเดียว เขาดึงออกมาอย่างแรงและกระบี่กระดูกก็ออกมาจากราชาหมาป่า เขายังเก็บแกนอสูรของราชาหมาป่าก่อนที่จะจากไป

ไคยะและปรมาจารย์เฉินหลงได้เอาแหวนมิติของราชาเทพทั้งสองที่พวกเขาเพิ่งฆ่าไป พวกเขาก็เดินออกไปจากสังเวียนพร้อมกับเจี้ยนเฉิน

ใบบรรดาสามราชาเทพจากกลุ่มนักผจญภัยหมาป่ากระบี่ มีเพียงหัวหน้าเท่านั้นที่เป็นสัตว์อสูร ทำให้ปกติแล้วที่ผู้อาวุโสทั้งสองนั้นไม่มีแกนอสูร

เพียงไม่นานหลังจากที่ทั้งสามคนจากไป ก็มีเสียงฮือฮาจากคนที่เข้ามาดู ในตอนนี้คนที่เพิ่งดูการต่อสู้ต่างก็บ้าคลั่งกัน พวกเขาเพิ่งเห็นขั้นเหนือเทพ 3 คนสังหารราชาเทพ 3 คนในสังเวียน สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นดั่งตำนานที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม

หลังจากนั้นข่าวของสามเหนือเทพได้สังหารราชาเทพในสังเวียนเป็นตายได้กระจายออกไปทั่วทั้งยานอวกาศ มันทำให้เกิดการพูดคุยกันอย่างมาก

สำหรับคนที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายนี้ เจี้ยนเฉิน, ไคยะและเฉินหลงได้อ้างสิทธิ์ในห้องโดยสารชั้นสูงทั้งสามของราชาเทพ ที่ถูกพวกเขาสังหารอย่างเปิดเผย พวกเขาอยู่ในห้องที่เงียบและรักษาตัวเอง

ทั้งสามคนได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงหลายครั้งในการต่อสู้ครั้งนี้ เจี้ยนเฉินได้ต่อสู้กับคนที่แข็งแกร่งที่สุดจากทั้งสามคน เขาจึงบาดเจ็บสาหัสที่สุด

ปัจจุบันเจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนเตียงหยกในห้องที่หรูหราของเขา คิ้วของเขาขมวดแน่น เขาได้พยายามที่จะกำจัดพลังที่เหลือของสายเลือดหมาป่านภาในร่างกายของเขาด้วยพลังบรรพกาล แต่พลังนั้นแข็งแกร่งมากจนทำให้เขาผิดหวัง แม้ว่าเขาจะใช้พลังบรรพกาลทั้งหมดในตัวของเขา เขาก็ยังพยายามที่จะให้ได้แม้ว่ามันจะหายไปเพียงหนึ่งในสิบ

ถ้าหากเขาปล่อยให้พลังสายเลือดอยู่ในร่างกายของเขา มันจะเริ่มทำลายร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง หากเขาไม่ได้ใช้พลังบรรพกาลกดมันเอาไว้

อย่างไรก็ตามหากเขาใช้พลังบรรพกาลของเขากดมันเอาไว้ มันจะส่งผลให้พลังต่อสู้ของเขาลดลง หากเขาพบคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังอีกคน จนทำให้เขาต้องใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีของเขา มันจะทำให้เจี้ยนเฉินต้องตกที่นั่งลำบาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ