ตอน ตอนที่ 2218: ศิษย์พี่รอง จาก เทพกระบี่มรณะ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 2218: ศิษย์พี่รอง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี เทพกระบี่มรณะ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่ 2218: ศิษย์พี่รอง
ใบหน้าของราชาเผิงสีฟ้านั้นจมลงทันทีเมื่อได้ยินคำเตือนที่พึงระวังของบรรพชนกระบี่เดียวดาย บรรพชนกระบี่เดียวดายได้เปิดเผยความจริง 1 ข้อแก่เขาอย่างไม่ต้องสงสัย ชายวัยกลางคนที่เป็นเพียงขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่เก้ามีร่างกายดั้งเดิมที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่ทรงพลังอย่างบรรพชนกระบี่เดียวดายก็ต้องปฏิบัติตัวด้วยความระมัดระวัง
เดิมทีชายวัยกลางคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับราชาเผิงสีฟ้า แต่เขาเกิดมีเหตุผลที่ต้องการปกป้องเจี้ยนเฉินคนที่ราชาเผิงสีฟ้าต้องการฆ่า มันจึงทำให้ราชาเผิงสีฟ้ามีสีหน้าน่าเกลียดทันที
บรรพชนกระบี่เดียวดายนิ่งเงียบเมื่อเขาได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคน เขามองไปที่ชายเสื้อสีขาวผู้ตั้งใจแน่วแน่อย่างไม่แแสและพูดขี้นมาว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันยากแค่ไหนที่จะหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมสำหรับตระกูลกระบี่เดียวดายของข้า กงเจิ้งเป็นคนเดียวที่ข้าสามารถหาได้ในโลกเซียนอันกว้างใหญ่หลังจากผ่านความยากลำบากมากมาย แต่ในท้ายที่สุดเขาถูกเจี้ยนเฉินสังหารในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนก่อนที่เขาจะโตเต็มที่และกางปีกของเขาออก”
“ถ้าเจ้าต้องการปกป้องเจี้ยนเฉิน ข้าจะอธิบายเรื่องนี้กับตระกูลกระบี่เดียวดายของข้าได้อย่างไร ? ”
ชายเสื้อคลุมสีขาวยิ้มอย่างเฉยเมย “การหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับเจ้า แต่มันไม่มีปัญหาอะไรสำหรับข้าเลย”
ดวงตาบรรพชนกระบี่เดียวดายหรี่แคบลงเมื่อเขาได้ยิน เขาจ้องมองชายวัยกลางคนด้วยความสนใจอย่างเต็มเปี่ยมและถามอย่างกระตือรือร้นว่า “เจ้าเต็มใจที่จะหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมให้ข้างั้นหรือ ? ”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า “ไม่ใช่เรื่องยากในการหาผู้สืบทอดที่เหมาะสม ข้าพบผู้สืบทอดที่เหมาะสมแล้ว มีผู้เยาว์ 3 คนที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมซึ่งเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้สืบทอดตระกูลกระบี่เดียวดายของเจ้า”
“3 คน ? จริง ๆ รึ ? ” ใบหน้าของบรรพชนกระบี่เดียวดายส่องสว่างขึ้นและดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย
“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังพูดความจริงหรือไม่ กระบี่เดียวดาย ข้าจะใช้ผู้สืบทอดทั้งสามนี้เพื่อแลกเปลี่ยนเงินนำจับของเจ้ากับเจี้ยนเฉิน ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าไม่สามารถหมายเป้าเจี้ยนเฉินได้ในอนาคตอีกต่อไป เจ้าเห็นด้วยหรือไม่ ? ” ชายวัยกลางคนพูดอย่างเป็นกลาง
“ตกลง ข้าเห็นด้วย หากทั้งสามคนกลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลกระบี่เดียวดายของข้า ไม่เพียงแต่ข้าจะหยุดกำหนดเป้าหมายเจี้ยนเฉินเท่านั้น แต่ข้าจะยังเป็นหนี้บุญคุณเจ้าอย่างมากอีกด้วย” บรรพชนกระบี่เดียวดายพูดเสียงดัง ความปีติยินดีเติมเต็มเสียงของเขา มันเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่ตระกูลกระบี่เดียวดายจะหาผู้สืบทอดได้ แม้ในช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดก็มีผู้สืบทอดไม่เกิน 10 คน ในรุ่นของเขามีผู้สืบทอดเพียงคนเดียวคือกงเจิ้ง
มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่บรรพชนกระบี่เดียวดายจะมีความสุขมากเมื่อเขาก็ได้ยินข่าวของผู้สืบทอด 3 คน
“เจ้าพูดว่ามีสาเหตุ 2 ประการที่ทำให้เจ้าตามหาข้า เหตุผลประการที่ 2 คืออะไร ? ” บรรพชนกระบี่เดียวดายถาม
“ข้าอยากให้เจ้าลงมือด้วยตนเอง” ชายวัยกลางคนกล่าว
“เจ้าต้องการให้ข้าลงมือหรือ ? ” บรรพชนกระบี่เดียวดายประหลาดใจ
ชายวัยกลางคนใช้ความคิดชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะบอกบรรพชนกระบี่เดียวดายอย่างลับ ๆ ว่า “ร่างกายดั้งเดิมของข้าติดอยู่ ข้าต้องการให้เจ้าลงมือทำลายผนึก”
บรรพชนกระบี่เดียวดายเคร่งเครียดทันที เขามองชายวัยกลางคนด้วยสายตาของเขาที่ได้เห็นหลายแง่มุมของชีวิตและใช้ความคิดเป็นเวลานานมากก่อนที่จะพยักหน้าช้า ๆ
เมื่อเห็นว่าบรรพชนกระบี่เดียวดายเห็นด้วย ใบหน้าของชายวัยกลางคนก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลย เขายังคงสงบและใจเย็นตลอดเวลา เศษหยกถูกยิงเข้าสู่มือของบรรพชนกระบี่เดียวดายโดยตรง และชายวัยกลางคนก็กล่าวว่า “นี่คือตำแหน่งที่อยู่ของผู้สืบทอด 3 คนของเจ้า”
หลังจากนั้นชายวัยกลางคนไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป เขาก้าวไปทางซ้ายแล้วเข้าสู่ที่ราบรกร้างด้วยความสงบ เขาไม่ได้เหลือบมองราชาเผิงสีฟ้าด้วยซ้ำเหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่สำคัญแม้แต่น้อย
“กระบี่เดียวดาย เขาคือใคร ? ” ราชาเผิงสีฟ้ามาถึงข้างหน้าบรรพชนกระบี่เดียวดายภายในพริบตาและถามด้วยใบหน้าที่มืดมิดหลังจากชายวัยกลางคนจากไปแล้ว
บรรพชนกระบี่เดียวดายส่ายหน้าเบา ๆ ดูเหมือนเขาจะไม่เต็มใจพูดคุยเกี่ยวกับตัวตนของชายวัยกลางคน อย่างไรก็ตาม เขาได้เอ่ยปากอ้อนวอนเตือนราชาเผิงสีฟ้าให้ยกเลิกการตามล่าหาเจี้ยนเฉิน แต่ทันทีที่เขาจะพูด เขาก็จำได้ถึงนิสัยของราชาเผิงสีฟ้า เขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะเตือนราชาเผิงสีฟ้า อีกฝ่ายก็จะไม่เปลี่ยนใจ ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรในตอนท้าย เขาหยิบเอาหยกที่มีตำแหน่งของผู้สืบทอดทั้งสามและจากไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวังอย่างกระตือรือร้น
เมื่อเห็นบรรพชนกระบี่เดียวดายจากไป ราชาเผิงสีฟ้าก็ไม่สบายใจ เขามองไปยังที่ราบรกร้างขนาดใหญ่ที่บินวนอยู่ในอวกาศและแสงในดวงตาของเขาสั่นไหวด้วยความไม่แน่ใจ
ในท้ายที่สุด จ้าวเฟิงก็ขึ้นไปถึงยอดเขาเป็นคนแรก ในทางกลับกัน เจี้ยนเฉินเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อยในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ทำให้เขาก้าวเร็วกว่าไป๋หยูถึงหนึ่งก้าว นอกจากนี้ยังทำให้ไป๋หยูซึ่งเดิมเป็นอันดับสองต้องจบลงด้วยอันดับสาม
“ศิษย์น้อง ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าจริง ๆ ว่าเจ้าเร็วกว่าข้า” ไป๋หยูมองดูเจี้ยนเฉินขณะที่นางหอบหายใจเสียงดัง
“ดีมาก เนื่องจากทุกคนอยู่ที่นี่ ข้าจึงประกาศอย่างเป็นทางการว่าจ้าวเฟิง, เจียงหยางและไป๋หยูจะเป็นลูกศิษย์ของข้า หานซิน ในอนาคตข้าจะเป็นผู้แนะนำพวกเจ้าในเส้นทางการบ่มเพาะในฐานะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง”
ชายวัยกลางคนในชุดขาวยืนอยู่ข้างหน้าทั้งสามคน เขาดูสง่างามและประณีตเหมือนบัณฑิตเล็กน้อย แต่ดวงตาของเขาส่องประกายสดใสขณะที่เขาพูดกับทั้งสามคน
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจ้าวเฟิงจะเป็นศิษย์พี่ใหญ่ เจียงหยางจะเป็นศิษย์พี่รอง ในขณะที่ไป๋หยูจะเป็นศิษย์น้องเล็ก” หานซินพูดอย่างมั่นคงโดยไม่เว้นช่องว่างให้โต้แย้ง
“ฮะ ? ข้ากลายเป็นศิษย์น้องเล็กได้อย่างไร ? ไม่ไม่ ท่านอาจารย์ นี่ไม่ยุติธรรมเลย สิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย ข้าควรจะเป็นศิษย์พี่รอง ทำไมข้าถึงเป็นศิษย์น้องเล็ก ? ” ไป๋หยูปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งนี้ “ท่านอาจารย์ ข้ามีแกนวิญญาณสองสี ในขณะที่เจียงหยางควบแน่นได้เพียงสีเดียว ข้าไม่มีข้อคัดค้านเกี่ยวกับศิษย์พี่จ้าวเฟิงได้เป็นศิษย์พี่ใหญ่ แต่ทำไมศิษย์น้องเจียงหยางที่ยังต้องอ่อนแอกว่าข้าได้เป็นศิษย์พี่ ? นั่นไม่ยุติธรรมเลย”
หานซินมองไป๋หยูแล้วพูดว่า “ใครบอกเจ้าว่าศิษย์พี่ถูกกำหนดโดยการบ่มเพาะ ? ”
“มันไม่ใช่เช่นนั้นหรีอ ? ” ไป๋หยูคิดว่านางพูดเรื่องจริง นางรู้สึกผิด
“ที่นี่ ใครก็ตามที่ขึ้นมาถึงบนยอดเขาก่อนจะได้เป็นศิษย์พี่ จ้าวเฟิงมาถึงเป็นคนแรก เขาจึงเป็นศิษย์พี่ใหญ่ เจียงหยางตามหลังเขามา เขาจึงได้เป็นศิษย์พี่รอง ส่วนเจ้าเป็นคนสุดท้าย เจ้าจึงได้เป็นศิษย์น้องเล็กในแง่ของความอาวุโส” หานซินพูดอย่างหนักแน่น จากนั้นเขาก็โบกมือ “พอได้แล้ว ปัญหาถูกตัดสินแล้ว อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก ไปหาสถานที่เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยของเจ้าเองให้เป็นสถานที่สำหรับการบ่มเพาะ มาพบข้าพรุ่งนี้เช้า”
“ต้องจำไว้ว่าที่อยู่อาศัยจะต้องอยู่ในอาณาเขตของข้า” หลังจากนั้นหานซินก็เดินจากไปโดยไม่มองสีหน้าของไป๋หยู
“ท่านอาจารย์ ท่านทำสิ่งนี้ได้อย่างไร ? มันไม่ยุติธรรมเลย” ไป๋หยูรู้สึกเสียใจเมื่อหานซินเดินจากไป นางเกือบจะร้องไห้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
จบแล้วหรอ...
ทำไมยังไม่ลงบทใหม่...
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...